การทำร้ายบุพการีเป็นเรื่องปกติ?

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้น่าจะวันที่9-10 ส.ค 2568 ​ที่ผ่านมา ​ที่พอจะจำวันได้เพราะเพิ่งผ่านวันเกิดเรามาคือวันที่7 ส.ค ที่เราลงรายละเอียดเพราะเราก็อยากพิมพ์เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นหลักฐานในโลกออนไลน์ไว้ด้วยเพราะเรารับเรื่องราวที่กำลังจะพิมพ์ไม่ได้จริงๆ
เรื่องเกี่ยวกับการทำร้ายพ่อแท้ๆของตัวเอง จากคนในครอบครัวของแฟนเราเอง  เรื่องมันเกิดขึ้นจากการทะเลาะกันในครอบครัวของแฟนเราเกี่ยวกับธรุกิจในบ้านของเขา คนที่มีเรื่องกันก็คือ พ่อแฟนเราที่อายุ60ปี กับตัวอากงก็คือพ่อของพ่อแฟนเราที่มีอายุ80 ปี
เราต้องขอเล่าก่อนจะเข้าเรื่อว่า...ครอบครัวของแฟนเราจะมีคำพูดที่รุ่นแรง การกระทำกันในครอบครัวที่ชอบทะเลาะและดูหมิ่นกันเองจนเป็นเรื่องปกติของตระกูลนี้ แต่โชคดีที่แฟนเราเขาคบกับเรามาได้7-8ปีแล้วได้มีการปรับเปลี่ยนนิสัยได้ระดับนึงจนดีขึ้นเราถึงคบกันมาได้ ซึ่งตัวพ่อแฟนของเราที่อายุ60 จะเป็นคนที่ด่าพ่อตัวเองแรงมาก และชอบพูดเหมือนแช่งให้พ่อตัวเองตาย อย่างเช่น" รอให้มันตายก่อนค่อยกลับเข้าบ้าน" อะไรประมาณนี้
ถ้าจากที่ทุกคนอ่านเรื่องที่เราเล่าก็อาจจะคิดได้ว่าแค่พ่อลูกทะเลาะกันปกติ
แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเรื่องมันเกิดขึ้นจากธรุกิจที่เขาทำกันมานาน ธรุกิจตัวนี้มันเกี่ยวกับ ปี๊ป ที่รับซื้อขายไป มันมีปัญหาหนี้สิน และตัวอากงเองเขามีประสบการณ์ในการทำงานพวกนี้มาอย่างยาวนานหลายปี อากงได้วางมือและส่งต่อให้พ่อแฟนเราทำ แต่ด้วยพ่อแฟนเราเขาอาจจะเป็นคนที่Eโก้สูง เพราะเขาจบ ป.ตรี ซึ้งก็ต้องยอมรับว่า คนอายุ60ในรุ่นนั่นถ้าจบ ป.ตรีก็ถือว่าเก่งมากแต่เขาก็จบมาได้ด้วยสัมมาอาชีพของอากงนะ  
แต่ทุกครั้งที่อากงเข้ามาบอกหรือเตือนพ่อแฟนเรา  เขาจะมีEโก้กับพ่อตัวเองสูงมากคือไม่ฟังและไม่ทำตามมาโดยตลอด อากงแกก็เหนื่อยใจเพราะก่อนหน้านี้​ พ่อแฟนเราก็เพิ่งเอาเงินจากอากงมา 3,000,000บาท จากการขายที่ พอเงินมันหมดไว+เป็นหนี้อากงแกเลยเริ่มไม่พอใจ ที่พ่อแฟนเรา บริหารเงินไม่ดี และใช้จ่ายเกินตัว และที่อากงแกบ่นพ่อแฟนเราอีกเรื่องนึงก็คือ เขายังทำมาหากินในที่ดินของพ่อตัวเองอยู่ ก็คือที่ของอากงอีก และก็ยังต้องนอนในบ้านของอากงอีกด้วย ฟังๆดูทุกคนคงคิดเหมือนเราว่า  แทบจะพึ่งพ่อตัวเองทุกเรื่องเลยใช่มั้ย แต่พ่อแฟนเราเขาไม่คิดแบบนั้น สิ่งที่มันทำให้เริ่มแตกหักหนักขึ้นก็คือ
อากงเขาคิดว่าพ่อแฟนเราเขาจ้างคนงานต่างด้าวเยอะเกินไปและมิหนำซ้ำยังเป็นเครือญาติกันอีก ด้วยความที่อากงกับอาม่าอายุมากแล้ว 80กว่าทั้งคู่เขาก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะคนงาน10กว่าคนก็เป็น
เครืญาติกันไปแล้ว7คน อากงแกเลยยื่นข้อเสนอให้ลดจำนวนคนงานลง และ เด๊ยวอากงจะปิดหนี้บางส่วนให้ แต่พ่อแฟนเราเขาไม่ยอม! หลังจากที่ทะเลาะกันมาเป็นเดือนกับเรื่องพวกนี้ สิ่งที่เราไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ก็ได้เกิดขึ้น .
คือความรุ่นแรงในบ้าน  พ่อแฟนเราเขาไม่คิดจะฟังพ่อของเขาเองก็คืออากง จนอากงแกโมโหเลยใช้คำสั่งออกจากพื้นที่ของเขาไปซะ ให้ระยะเวลา2เดือน ซึ่ง2เดือนที่ว่า D-dayก็คือสิ้นเดือนสิงหาคมนี้  ด้วยความที่อากงแกก็เป็นคนโมโหร้าย วันนั้นก่อนเกิดเหตุ หลังจากที่พ่อแฟนเราเขาทำงานเสร็จ เขาก็กำลังจะเข้านอน  อากงแกเดินไปหาที่ห้องและพูดกำชับว่า
"กูให้เวลา2เดือน ถ้าไม่ไล่คนงานออก ก็ออกไปจากที่ของกู"
ประมาณนี้ แต่พ่อแฟนเราเขาก็ท้าทายอากงประมาณว่า
"ไม่ทำ ทำไมต้องทำ ทำไมต้องฟัง"
พออากงแกได้ยินก็เลยของขึ้น ง้างมือทำท่าเหมือนจะตี พ่อแฟนเราเขาก็ท้าอีก
"ลองดูซิ ตีซิ เด๊ยวจะสวนกลับ"
จนอากงแกเผลอตีจริง  แต่สิ่งที่พ่อแฟนเราเขาทำกลับคือ ...
(ชกหน้าอากงเขาเบ้าตาอย่างเต็มแรงจนเลือดกำเดาไหล )
เราได้ฟังตอนแรกยังทำใจฟังไม่ไหว และไม่ได้จบแค่นั้น พ่อแฟนเราเขาต่อยเสร็จก็เดินหนีขึ้นชั้นบน อากงแกโมโห พอแกตั้งสติได้ก็หยิบไม้แขวนเสื้อสูท ตามไปจะตีแต่พ่อแฟนเราเขา สวนด้วยไม้กวาด ฟาดกลับไปที่อากงที่เป็นพ่อแท้ๆของเขาเอง ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่า เขาก็หน้าจะเห็นว่า
อากงเลือดกำเดาไหลแล้ว แต่เขาไม่หยุด ถีบพ่อตัวเองล้มลง สะโพกกระแทกพื้น และสวนกลับมาด้วยคำพูดที่ว่า
"​เด๊ยวจะพลักให้ตกบันไดลงมาเลย"
เราได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากทั้งปากของพ่อแฟนและอากง เพราะต้องเข้าไปดูอาการอากงหลังจากเรื่องเกิด  คนงานในบ้านต้องมาเช็ดเลือดของอากงที่ไหลลงพื้นบ้าน เพราะน่าจะออกเยอะมาก.
ความจริงก่อนเรื่องจะเกิดแฟนเราเขาก็เคยทะเลาะกับอากงมาก่อน แต่พอมาคบกับเรา เราก็สอนเขาว่า..
"สัมมาอาชีพที่เธอทำอยู่ ถ้าอากงเป็นคนเริ่มทำคนแรกเขาคือเจ้าของที่ส่งต่อมาให้รุ่นหลัง ต่อให้เขาจะยกให้พ่อเธอจนส่งมาถึงเธออีกที จงจำไว้ว่า เขาคือผู้มีพระคุณ"
วันนั้นเรากับแฟนจึงเขาไปหาอากงพร้อมกัน และแฟนเราเขาก็กราบเท้าอากงเพื่อขอขมา สิ่งที่เราเห็นคืออากงตาข้างขวาเขียวช้ำมากๆ แต่ก็ไม่ยอมไปหาหมอ ยอมรับอากงแกเป็นคนแข็งแรงมาก แต่เราก็ทำใจยอมรับสิ่งที่เห็นไม่ได้ ยิ่งพอได้ฟังเรื่องราวจากทั้งสองฝ่ายยิ่งรับไม่ได้จริงๆ  ที่เราตกใจมากกว่านั้นไปอีกคือ คนในเครื่องญาติของแฟนเรา มองมันเป็นแค่เรื่องของ( พ่อลูกทะเลาะกัน)  เราไม่เข้าใจตรรกะความคิดของคนในบ้านนี้จริงๆ ทุกอย่างที่ทุกคนได้ไปจาก อากง คือเยอะนะ ทั้งโอกาส ทั้งทรัพย์สมบัติ แต่กลับมีคนห่วงใยอากงน้อยมาก แต่ยังดีที่เราเห็นสะใภ้คนหนึ่งออกตัวแรงมาก เพราะเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นเขาก็รับไม่ได้เหมือนกับเรา  
ถึงอากงแกจะขี้บ่นบ้าง จุกจิกบ้าง แต่ในสายตาเราเขาก็เป็นพ่อที่ดีคนหนึ่ง ..
ใช่เราเคยได้ยินเรื่องไม่ดีของอากงมาก่อน แต่สำหรับเราพ่อแม่ก็ผิดพลาดได้ด้วยกันทั้งนั่น จะมีพ่อแม่ซักกี่คนที่ผิดพลาดแล้วแก้ไข้ช่วยเหลือลูกตัวเองขนาดนี้ ทั้งสัมมาอาชีพ ทรัพย์สมบัติก็ยกให้ แต่กับทำร้ายเขาลงคอ
ยิ่งตอนเขาให้อภัยแฟนเราตอนขอขมา แล้วอากงแกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า
"ทุกรุ่นที่มีกันมาในตระกูลไม่เคยมีใครทำร้ายพ่อแม่ตัวเองแบบพ่อเลย"
อากงแกบอกกับแฟนเราแบบนี้เสร็จ
แกก็ร้องไห้ ​ซึ่งแฟนเราก็ตกใจ จนมารู้ทีหลังว่า ที่แฟนเราตกใจ ​เพราะอากงแกไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นเลย
พอเราได้ยินแฟนเราบอกแบบนี้ ทั้งๆที่เราเป็นคนอื่นแต่กับน้ำตาซึม เพราะเราคิดในใจว่า ถ้าเรามีพ่อที่ให้โอกาสเราขนาดนี้คงดี อาจเป็นเพราะเราเติบโตมาด้วย สถานะครอบครัว Toxic ลึกๆ เราเลยอยากมีโอกาสที่พ่อแม่ซับพอร์ตบ้าง แต่ถึงเราจะโตมาอย่างยากลำบาก โดนคนในครอบครัวทำไม่ดี แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายพวกท่านเลย
ยอมรับว่าตอนนี้ที่พิมพ์ก็ยังรู้สึกแย่กับเรื่องนี้อยู่ แต่เราก็คงทำอะไรมากไม่ได้ เพราะขนาดแฟนเราเองเขาก็ไปเตือนพ่อตัวเองว่า "ป๋าควรเข้าไปขอขมาอากงนะ"
แต่พ่อแฟนเราเขาก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรกับสิ่งที่ทำ เขาถึงขั้นท้าแฟนเราอีกว่า
"ก็ลองเอาเรื่องที่เขาทำไปเล่าให้ใครฟังก็ได้ เขาไม่ผิด"
เราเลยตัดสินใจ พิมพ์เล่าในนี้ให้สังคมชาวพันทิปช่วยกันตัดสินละกัน เราเองก็คงช่วยอากงแกได้เท่านี้จริงๆ 😭
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่