สังคมครู สังคมโรงเรียน ส่วนใหญ่เป็นอย่างไรบ้างครับ

ตามหัวข้อเลยครับผม ว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ สังคมครูเอกชน ครูรัฐบาล ครูอะไรก็ได้ครับ เป็นอย่างไรบ้าง แต่ตัวผมที่เจอมามีดังนี้ (ขอบอกไว้ก่อนว่าเป็นความรู้สึกของตัวเอง และอาจตั้งธงไว้แล้วว่าเป็นแบบนี้ ความเห็นบางอย่างที่แสดงออกมาอาจผิดก็ได้หรืออาจไม่ใช่ก็ได้ก็ขออภัย ถ้าใครรู้แจ้งหรือเข้าใจตรงไหนก็สามารถแก้ไขให้ด้วยนะครับ)

อ้อลืมบอก ผมเป็นครูเอกชนครับ ทำมาได้ 6 ปีแล้ว

1.สังคมแบบนี้น่าจะมีจริง คือสังคมนินทา ขนาดเราอยู่เฉย ๆ ยังถูกนินทา (ที่ผมมาเล่าก็ถือว่าเอาเขามานินทาแล้ว) คือผมเป็นครูน้อยสุด(คือระดับล่างสุดนั่นแหละ) เวลาครูคนนั้นใช่ไปทำแบบนั้น ก็จะว่าครูอีกฝ่ายหนึ่ง ว่าครูอีกคนหนึ่ง พูดข้อด้อยอีกฝ่าย พอผมไปทำงานกับครูคนนี้ ผมก็เห็นครูคนนี้ว่าครูคนนั้น พูดข้อเสียของครูคนนั้น คือเขามาเล่าให้ผมฟังเพื่ออะไร จะให้ผมรู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่ายหรือมองอีกฝ่ายให้ดูไม่ดีเหรอ โอเคว่าการพูดของแต่ละฝ่ายก็มีเหตุผล แต่บางทีก็ไม่น่าจะต้องพูดก็ได้ เวลาผมสอนหรือหลีกตัวออกไปอยู่คนเดียวช่วงพัก จะคิดในใจตลอดว่าตรูจะโดนนินทาหรือเปล่าหว้าาาา ซึ่งก็ไม่ผิด เคยนั่งห้องตัวเอง แล้วครูสองคนคุยกัน ผมปิดห้องอยู่ เขาเลยน่าจะไม่รู้ว่ามีคน ได้ยินเขาพูดว่าผมเป็นคนดูเหมือนคนไม่ค่อยรู้เรื่อง ใช้งานไม่ค่อยได้ ทำอะไรไม่ค่อยเป็น พูดทำนองนั้น ซึ่งที่เขาพูดมันก็ถูก แต่ไม่ใช่ว่าผมจะทำอะไรไม่ได้ขนาดนั้น แล้วเอาเรื่องคนอื่นไปพูดให้คนอื่นฟัง มันก็ดูแปลก ๆ แล้วเพื่อน ๆ เจอเหตุการณ์แบบนี้ไหมครับ

2.แล้วเรื่องนี้คือเรื่องที่เกี่ยวกับครูเอกชนโดยตรง เรื่องการจะไปสอบ เคยขอไปสอบอยู่ คนที่อนุญาตเขาก็ไม่ได้มีปัญหา แต่แววตาก็เปลี่ยนไปนิด ๆ บางวันก็ไม่คุยกับผม หรืออาจคุยแต่มีอารมณ์หงุดหงิดหน่อย แต่ก่อนตอนที่ไม่เคยพูดเรื่องขอไปสอบ ก็คุยกันยิ้มแย้มแจ่มใส แต่พอผมบอกจะไปสอบกลับดูเงียบ ๆ (แต่ก็ถกกันแค่เรื่องงานนั่นแหละครับ)ไม่ได้มีปัญหากันขนาดนั้น แต่ผมก็รู้สึกอึดอัดว่าเราผิดมากขนาดนั้นไหม บางทีเขาอาจไม่คิดอะไรแต่ผมอาจคิดมากไปเองก็ได้ ใครพอมีประสบการณ์ตรงนี้มาเล่าให้ฟังหน่อยครับผม

3.แล้วเรื่องการสอน เคยโดยมองว่าทำได้ไม่ดีไหมครับ (อันนี้ถัาไม่เคยเข้าสอนหรือไม่เคยทำงานเลยพอเข้าใจได้ว่าน่าโดนว่า) แต่ถ้าเรามีงานมีกิจกรรม  แต่มีคนมาบอกทำอย่างนั้นดีกว่าอย่างนี้ดีกว่า มันดูไม่เป็นตัวเองเลย บางอย่างก็ยอมรับว่าทำได้ไม่ดีพอแล้วก็ไปแก้ไข แต่กับคนที่สั่งบางทีงานของเขาก็ไม่ได้ดีมากอะไรไปกว่ากันกับผมหรือคนอื่นเลย แต่ในเมื่อเราตัวน้อยกว่าคงทำอะไรไม่ได้มาก

4.แล้วบริบทครูเอกชนกับครูรัฐบาล ต่างกันมากไหมครับ สำหรับประสบการณ์ตรงของผมที่อยู่ครูเอกชนมา 6 ปี โรงเรียนเอกชน ครูเหมือนคนดูเด็กมากกว่าสอน เหมือนรับใช้มากกว่า จะดุจะด่าจะว่ามากก็ไม่ได้ เดี๋ยวมีปัญหากับผู้ปกครอง ครูทำผิดจริงบางเรื่องยอมรับ แต่เรื่องจะไปไวมากและครูที่ผิดจริงก็สมควรโดนบทลงโทษเห็นด้วย แต่กับพอนักเรียนทำผิด บางทีเรื่องเงียบมาก และขอโทษขอโทษผู้ปกครองทำให้เป็นครูหรือโรงเรียนผิดให้ได้ ยกตัวอย่างเช่นวิชาว่ายน้ำ ทั้งครูกับป้ายก็มีบอกว่า อย่าวิ่ง เพราะมันจะเกิดอุบัติเหตุ แล้วเด็กวิ่งล้ม ผู้ปกครองบอกทำไมไม่ดู ก็เถียงกันไปยกใหญ่ แต่ผู้ปกครองที่เข้าใจว่าบุตรหลานตัวเองเป็นยังไงก็มีนะครับ ไม่ได้เหมารวม แต่พอมีเหตุการณ์ทำนองนี้ ที่เด็กมีปัญหากับครู ใครจะถูกผิดไม่รู้ แต่ครูจะเสียเปรียบกว่า และครูด้วยกันถ้ามีเรื่องปัญหากับเด็ก เขาจะปกป้องเด็กก่อน ครูด้วยกันนี้จะไม่ปกป้องมาก แต่ถ้าอันไหนเด็กผิดจริง เขาก็ช่วยครูเหมือนกัน แต่ว่าการช่วยเด็กจะง่ายกว่ามากและจะตั้งธงไว้ว่าเด็กไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก่อนถ้าเกิดมีปัญหากัน

แต่ด้านดี ๆ ก็มีนะ การช่วยเหลือกัน การทำงานประสานกัน งานนะมันจบได้ แต่จะมีความสุขมากหรือน้อยก็อีกเรื่อง แต่งานเสร็จ และช่วยกันทำงานมีผลงานจริง เลยอยากรู้ครูรัฐบาลหรือครูสังกัดอื่น ๆ มีเรื่องอะไรแบบนี้ และมีประสบการณ์ไหนพอมาเล่าได้บ้างก็เล่าให้ฟังหน่อยครับ

5.นโยบายให้เด็กนำ ครูไม่ต้องสอนเยอะ เอาจริงมีส่วนเห็นด้วย แต่โครงสร้างประเทศตอนนี้ เด็กอยู่กับตายาย พ่อแม่ไม่ได้ใส่ใจเด็กเท่าที่ควร เด็กเดี๋ยวนี้ก็สอนยาก ไม่มีมารยาทหรือทักษะการใช้ชีวิต คำพูดคำจาเกินตัว (ความมั่นใจกับหลงตัวเองหรือไม่มีกาลเทศะไม่มีมารยาทมันมีเส้นบาง ๆ กันไว้) คิดยังไงบ้างครับกับเรื่องนี้

6.ข้อพิเศษข้อสุดท้าย เป็นเรื่องชีวิตผมเอง ใครพอสอนได้หรือมีประสบการณ์ชีวิตในการทำงานด้านอื่น ๆ สามารถเตือนหรือชี้แนะได้นะครับ ว่าข้อดีข้อเสียเป็นยังไงบ้าง เอาตรง ๆ ตอนจบมัธยมปลายผมไปเรียนต่อมาหาวิทยาลัยสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา แต่ใจจริงผมอยากเป็นนักเขียนนิยาย อยากแต่งบทหนัง แต่ที่เรียนเพราะสมองตอนนั้นไม่ฉลาดเลือกเรียนตามเพื่อน คิดว่าง่าย บวกกับเคยโดยกรอกหูจากหลาย ๆ ทิศทางว่างานแต่งนิยายเขียนบทความมันไม่พอมีพอกินหรอก พอเรียนจบมาเลยพักที่บ้านเกือบหนึ่งปี เพราะพักทีตัวเองเลือกผิด ไม่ได้บอกสาขาไม่ดีแต่ต้องโทษที่ตัวเอง แม่เห็นผมไม่ทำอะไรเลยให้มาสมัครสอนที่โรงเรียนเอกชน เพื่อไปสอบครูผู้ช่วย จะได้ทำอาชีพครู (มันจะเข้าบริบทของข้อความต้นเรื่องว่าผมอาจตั้งธงไว้เองแล้ว) บอกตรง ๆ ว่าสังคมโรงเรียนผมไม่ชอบเลย แต่จะออกไปทำอะไรตอนนี้คิดว่าจะเป็นยังไงครับ อย่างงานเขียนนิยายแต่งบทหนังแบบนี้ มันจะสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้จริงไหม แล้วงานอื่น ๆ มีความเครียดมากขนาดไหน เครียดแบบไหน ช่วยชี้แนะด้วยครับผม

และที่ผมพิมพ์มาไม่ได้มีเจตนาโจมตีโรงเรียนหรือบุคคลใด เพียงแต่อยากจะรู้เฉย ๆ ว่าถ้าบริบทโรงเรียนยังเป็นแบบนี้อยู่ คนที่ไปทำงานจะมีความสุขจริงหรือไม่

ขอขอบคุณสำหรับคำตอบด้วยนะครับ อะไรที่ผมพิมพ์ผิดหรือไม่ถูกต้อง สามารถอธิบายบอกผมมาได้เลยครับ