ใครที่เป็นสายคาเฟ่หรือสายของหวาน น่าจะเคยได้ยินชื่อ “จูนปัง” ร้านโทสต์-นมสด ที่คิวแน่นสุดๆ แห่งย่านบรรทัดทอง ขายดีชนิดที่บางวันกดคิวกัน ทะลุ 800 คิว ยอดขายสูงสุดแตะวันละ 150,000 บาท
เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ “จูน-พัชราภรณ์ เขียวทอง” ที่เริ่มต้นจากแม่ค้าขายขนมตั้งแต่สมัยเรียนจุฬาฯ
- เริ่มจากทำ คอนเฟลกคาราเมล แจกเพื่อน → เพื่อนติดใจจนต้องทำขาย
- ต่อมาคิดสูตร ไดฟูกุสตรอว์เบอร์รี่ ที่แป้งบาง ไส้หวานน้อย → ฮิตถล่มทลาย กลายเป็นแบรนด์ Junenycandy ที่ตอนนี้ขยายไปแล้ว 9 สาขา ยอดขายพีคสุดถึงเดือนละ 5 ล้านบาท
- จากไดฟูกุเงินล้าน → มาสู่ร้าน “จูนปัง” โทสต์-นมสด ที่เธออยากทำขนมปังเอง ไม่ใช้ของสำเร็จรูปเหมือนร้านทั่วไป
จุดเด่น “จูนปัง”
- ใช้ครัวเปิด ทำให้ลูกค้าเห็นขั้นตอนการอบขนมปัง
- เมนูไม่ซ้ำใคร เช่น โทสต์สังขยาสูตรคุณแม่
- ราคาโทสต์ 139 บาท แบ่งกินได้ 4 คน → คุ้มค่า
- ไม่จ้างอินฟลูเอนเซอร์ ไม่ลงโฆษณา เน้นให้ลูกค้าบอกต่อ
แม้บรรทัดทองช่วงนี้จะเงียบจากหลายปัจจัย (ค่าเช่าแพง นักท่องเที่ยวลด ร้านอาหารเยอะขึ้น) แต่ “จูนปัง” ยังคงเป็นร้านที่คิวแน่นสุดๆ จนใครผ่านไปแถวอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ จะเห็นแถวยาวรอหน้าร้านเป็นประจำ
แผนอนาคตของ “จูน”
- ปีนี้เตรียมขยาย “Junenycandy” ครบ 12 สาขา
- “จูนปัง” เตรียมขึ้นห้างใหญ่โซน CBD อีก 1-2 สาขา ภายในปีนี้
- มีนักลงทุน-แบรนด์ใหญ่ติดต่อมามากมาย ทั้งขอซื้อแฟรนไชส์และร่วมทุนไปต่างประเทศ (จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย) แต่เธอยังอยากสร้างรากฐานให้มั่นคงในไทยก่อน
ฝันใหญ่ คือภายใน 5 ปี อยากมี โรงงานผลิตขนมปังเป็นของตัวเอง ส่งขายทั่วประเทศ
📌 จากแม่ค้าปั่นจักรยานขายคอนเฟลกในรั้วจุฬาฯ → สู่เจ้าของธุรกิจที่ขายได้วันละหลักแสน ถือว่าเป็นเส้นทางธุรกิจที่น่าสนใจมาก
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้‘จูนปัง’ ยืนหนึ่งบรรทัดทอง ต่อแถวมากสุดทะลุ ‘800 คิว’ จ่อขยายขึ้นห้างอีก 1-2 สาขา ต่างชาติรุมจีบ-ขอซื้อแฟรนไชส์ฉ่ำ
.
บรรทัดทองเงียบ แต่ “จูนปัง” ยังฟาดร้อยคิว! คุยกับ “จูน-พัชราภรณ์” เจ้าของร้านโทสต์เจ้าดัง เริ่มตั้งแต่ปั่นจักรยานขายคอนเฟลก แจ้งเกิดร้านไดฟูกุ “Junenycandy” สู่ร้านขนมปัง-นมสดที่ขายได้สูงสุดวันละ “150,000 บาท” ตั้งเป้าทำยอดทะลุร้อยล้าน พา “จูนปัง” เข้าห้างใจกลางเมืองภายในปีนี้
.
กระแสบรรทัดทองเงียบเหงาถูกพูดถึงจนเป็นปรากฏการณ์อยู่พักหนึ่ง จากปัจจัยเรื่องค่าเช่าปรับตัวสูงขึ้น นักท่องเที่ยวจีนที่หายไปในชั่วพริบตา รวมถึงจำนวนร้านอาหารที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากกว่าเดิม แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ว่ามาทั้งหมด “จูนปัง” กลับเป็นร้านที่ยังยืนระยะได้อย่างมั่นคง ที่ใครๆ บอกว่า บรรทัดซบเซา แต่ร้าน “จูนปัง” ยังมีคิวรอมากถึงหลักร้อยคิวต่อวัน
.
“จูน” เติบโตมาในครอบครัวธุรกิจสวนอาหาร “ครัวลูกสาวกุ้งแก้ว” เริ่มต้นจากคุณตาส่งต่อมายังคุณแม่ของจูน แม้ปัจจุบันจะปิดตัวไปแล้วเพราะลูกๆ ทั้ง 4 ต่างมีภารกิจของตัวเอง แต่ด้วยความคุ้นเคยที่ต้องจับมีด จับตะหลิวตั้งแต่เด็ก “จูน” จึงมีมุมมองทำมาค้าขายอยู่บ้าง เริ่มต้นจากรับ “เครปวง” ตัดเป็นชิ้นๆ มาขายหลังเลิกเรียน
.
กระทั่งสอบติดคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “จูน” ก็ไม่ทิ้งเรื่องทำมาค้าขาย ได้ไอเดียทำ “คอนเฟลกคาราเมล” โดยอาศัยครูพักลักจำจากการดูคลิปบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ปรากฏว่า เพื่อนๆ ชอบมาก จนเริ่มขอให้ “จูน” ทำขาย จากนั้นก็เริ่มมีเพื่อนต่างคณะที่เรียนรวมในห้องเดียวกันอยากชิม พัฒนากลายเป็นทำคอนเฟลกคาราเมลตีแบรนด์จริงจัง ตัดสินใจสร้างแอคเคานต์ร้านขึ้นบนอินสตาแกรมในชื่อ “Junenycandy”
.
จาก “คอนเฟลกคาราเมล” จูนเริ่มสนใจขนมตัวอื่นเพิ่มเติม ช่วงเรียนชั้นปีที่ 4 จูนชอบกิน “ไดฟูกุ” มาก แต่ราคาแพงจนสั่งกินบ่อยๆ ไม่ได้ ประกอบกับตอนนั้นเริ่มมีสตรอว์เบอร์รี่นำเข้าไซซ์ใหญ่จากสหรัฐวางขายจึงตัดสินใจลองทำเองโดยมีเพื่อนๆ กลุ่มเดิมเป็นหนูทดลอง พอรสชาติเข้าที่เพื่อนๆ ก็ขอให้ทำมาขายอีก ขายดีทั้งคอนเฟลกคาราเมลและไดฟูกุจนต้องตัดสินใจเลือกเพียงหนึ่งโปรดักต์เพราะทำไม่ไหว “ไดฟูกุ” ได้ไปต่อในรอบตัดเชือก
.
เมื่อถามว่า ขนมทุกอย่างที่ทำออกมาลับคมวิชาอย่างไร ได้ไปเรียนทำขนมเพิ่มเติมหรือไม่ เธอบอกว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ไม่เคยเรียนทำขนมเลย ลองผิดลองถูกตัวด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งอาจจะเป็นข้อดีที่ไม่มีทฤษฎี ไม่มีกรอบ ไม่มีข้อห้าม จนธุรกิจเริ่มจริงจัง และเห็นว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ที่สั่งเข้ามาอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ จึงตัดสินใจควักเงินเก็บหมดทั้งตัวตั้งแต่ขายคอนเฟลกคาราเมลจำนวน “1 ล้านบาท” เพื่อทำร้านคาเฟ่ย่านราชเทวี
.
จังหวะเวลาช่วงคาเฟ่ “Junenycandy” ทำเสร็จ ตรงกับช่วงที่วิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาดในไทย ช่วงที่ทุกธุรกิจเจอความท้าทายอย่างหนัก แต่กลายเป็นว่า “Junenycandy” เติบโตมากที่สุด มียอดสั่งซื้อเดลิเวอรีเข้ามาเยอะมาก จนเธอปิ๊งไอเดียทำฮับรับขนม หรือ “Cloud Kitchen” 10 จุดทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งฮับที่ว่านี้ก็ไม่ใช่หน้าร้านสร้างใหม่แต่เป็นบ้านของเพื่อนสนิท พร้อมกับแบ่งรายได้ให้เพื่อนๆ คนละ 10%
.
หลัง “Junenycandy” ติดลมบนไปแล้ว ใกล้จบโควิด-19 ระลอกสุดท้าย “จูน” คิดอยากทำแบรนด์ใหม่เพิ่มด้วยสองเหตุผล เธอมองว่า สุดท้ายถ้าโรคระบาดใหญ่จบไปทุกคนก็ต้องกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมเชื่อว่า ทุกคนน่าจะคิดถึงการรวมตัวกับแก๊งเพื่อนเป็นกลุ่มก้อน ซึ่งร้านนมก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดี
.
ส่วนอีกเหตุผล “จูน” บอกว่า เธอชอบกินขนมปังมากๆ อยู่แล้ว ทุกครั้งที่เข้าร้านนมก็จะคิดอยู่บ่อยๆ ว่า ทำไมถึงไม่มีร้านนมที่ทำขนมปังเอง เพราะส่วนมากเราจะคุ้นเคยกับขนมปังที่รับมาจากซัพพลายเออร์ หลายร้านใช้ “มาการีน” ทาขนมปังไม่ใช่เนยแท้ๆ ด้วยซ้ำ “จูน” อยากเปิดร้านที่ทำขนมปังเอง และต้องทำให้ลูกค้าเห็นขั้นตอนกระบวนการกว่าจะออกมาเป็น “End Product” ในจานด้วย
.
“จูน” ตั้งใจออกแบบหน้าร้านด้วยกระจกใส ทำขนมปังให้ลูกค้าเห็นเป็นครัวเปิด เพราะต้องการใช้ความจริงทำการตลาด ตอนนั้นคิดว่า ขายได้วันละหมื่นก็ดีใจแล้ว เปิดร้านวันแรกปรากฏว่า “จูนปัง” ขายได้ 15,000 บาท จากที่ต้องลุ้นว่า จะเจ๊งหรือไม่ “จูนปัง” จุดติดตั้งแต่เดือนแรก เคยทำยอดขายได้พีคสุดๆ มากถึงวันละ “150,000 บาท” มีคิวรอมากสุดทะลุไป “800 คิว” แต่ลูกค้าก็ยังนั่งรอกัน
.
“จูน” บอกว่า ปีนี้จะเป็นปีแห่งการจัดระบบหลังบ้าน เป้าหมายปีนี้ “Junenycandy” จะมีให้ครบ 12 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 9 สาขา ส่วน “จูนปัง” วางแผนเปิดเพิ่มอีก 1-2 สาขา อยู่ในขั้นตอนการเจรจาพูดคุยกับแลนด์ลอร์ด เล็งห้างใหญ่โซน CBD ทั้ง 2 แห่ง คิดว่า น่าจะทันเห็นภายในปีนี้
จูนปัง ยืนหนึ่งบรรทัดทอง ขายได้วันละ 1.5 แสนบาท ต่อแถวมากสุดทะลุ ‘800 คิว’
เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ “จูน-พัชราภรณ์ เขียวทอง” ที่เริ่มต้นจากแม่ค้าขายขนมตั้งแต่สมัยเรียนจุฬาฯ
- เริ่มจากทำ คอนเฟลกคาราเมล แจกเพื่อน → เพื่อนติดใจจนต้องทำขาย
- ต่อมาคิดสูตร ไดฟูกุสตรอว์เบอร์รี่ ที่แป้งบาง ไส้หวานน้อย → ฮิตถล่มทลาย กลายเป็นแบรนด์ Junenycandy ที่ตอนนี้ขยายไปแล้ว 9 สาขา ยอดขายพีคสุดถึงเดือนละ 5 ล้านบาท
- จากไดฟูกุเงินล้าน → มาสู่ร้าน “จูนปัง” โทสต์-นมสด ที่เธออยากทำขนมปังเอง ไม่ใช้ของสำเร็จรูปเหมือนร้านทั่วไป
จุดเด่น “จูนปัง”
- ใช้ครัวเปิด ทำให้ลูกค้าเห็นขั้นตอนการอบขนมปัง
- เมนูไม่ซ้ำใคร เช่น โทสต์สังขยาสูตรคุณแม่
- ราคาโทสต์ 139 บาท แบ่งกินได้ 4 คน → คุ้มค่า
- ไม่จ้างอินฟลูเอนเซอร์ ไม่ลงโฆษณา เน้นให้ลูกค้าบอกต่อ
แม้บรรทัดทองช่วงนี้จะเงียบจากหลายปัจจัย (ค่าเช่าแพง นักท่องเที่ยวลด ร้านอาหารเยอะขึ้น) แต่ “จูนปัง” ยังคงเป็นร้านที่คิวแน่นสุดๆ จนใครผ่านไปแถวอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ จะเห็นแถวยาวรอหน้าร้านเป็นประจำ
แผนอนาคตของ “จูน”
- ปีนี้เตรียมขยาย “Junenycandy” ครบ 12 สาขา
- “จูนปัง” เตรียมขึ้นห้างใหญ่โซน CBD อีก 1-2 สาขา ภายในปีนี้
- มีนักลงทุน-แบรนด์ใหญ่ติดต่อมามากมาย ทั้งขอซื้อแฟรนไชส์และร่วมทุนไปต่างประเทศ (จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย) แต่เธอยังอยากสร้างรากฐานให้มั่นคงในไทยก่อน
ฝันใหญ่ คือภายใน 5 ปี อยากมี โรงงานผลิตขนมปังเป็นของตัวเอง ส่งขายทั่วประเทศ
📌 จากแม่ค้าปั่นจักรยานขายคอนเฟลกในรั้วจุฬาฯ → สู่เจ้าของธุรกิจที่ขายได้วันละหลักแสน ถือว่าเป็นเส้นทางธุรกิจที่น่าสนใจมาก
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้