เปิดจุดเหยียบทุ่นระเบิดทหารไทย ล้วนอยู่ในพื้นที่อธิปไตยไทย
https://www.facebook.com/share/p/1B2YnmU5je/
“ขาซ้าย 3 ข้าง ขาขวา 2 ข้าง” นี่คือความสูญเสียที่ทหารไทย 5 นายต้องบาดเจ็บสาหัส ขาขาด ต้องทุพพลภาพ จากพลังทำลายของทุ่นระเบิดสังหารของกัมพูชา และมันยังเกิดขึ้น ทั้งที่ 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิงไปแล้ว
จนถึงตอนนี้ ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดมาแล้ว 5 ครั้ง
ครั้งแรก คือ เมื่อ 16 ก.ค. 2568
พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้เสียขาซ้ายไป
วันต่อมา เกิดการสู้รบระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา ครอบคลุมหลายจังหวัดติดชายแดน
ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในช่วงการสู้รบ
ที่กินเวลานาน 5 วัน โดย จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญชูหล้า เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้สูญเสียขาขวาไป
ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นก่อนเวลาหยุดยิงเพียงไม่นาน
ในวันที่ 28 กรกฎาคม โดยร้อยตรี เกียรติวงศ์ สถาวร เหยียบทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้รอบปราสาทตาควาย ในความพยายามสุดท้ายเพื่อยึดพื้นที่ปราสาทของทหารไทย ทำให้เขาต้องสูญเสียขาข้างขวาไป
แต่ที่กองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาล ยอมรับไม่ได้ และประท้วงอย่างรุนแรง คือ การเหยียบทุ่นระเบิด 2 ครั้งล่าสุด เพราะเกิดขึ้นภายหลังบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
คือ ครั้งที่ 4 วันที่ 9 สิงหาคม
จ่าสิบเอก ธานี พาหา เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณโดนเอาว์-กฤษรา จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้สูญเสียขาซ้าย
และครั้งที่ 5 ล่าสุด สิบเอก ธีรพล เพียขันที
เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณปราสาทตาเมือนธม ทำให้ขาข้างซ้ายขาด
กองทัพบกชี้ว่า จากสภาพทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ดูใหม่ และพื้นที่เหยียบทุ่นระเบิดเป็นพื้นที่ปฏิบัติการลาดตระเวนตามปกติของทหารไทย จึงแน่ชัดว่า ทหารกัมพูชาลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด เพื่อประสงค์ร้ายต่อทหารไทย ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตโตวา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง
เปิดจุดเหยียบทุ่นระเบิดทหารไทย ล้วนอยู่ในพื้นที่อธิปไตยไทย
https://www.facebook.com/share/p/1B2YnmU5je/
“ขาซ้าย 3 ข้าง ขาขวา 2 ข้าง” นี่คือความสูญเสียที่ทหารไทย 5 นายต้องบาดเจ็บสาหัส ขาขาด ต้องทุพพลภาพ จากพลังทำลายของทุ่นระเบิดสังหารของกัมพูชา และมันยังเกิดขึ้น ทั้งที่ 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิงไปแล้ว
จนถึงตอนนี้ ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดมาแล้ว 5 ครั้ง
ครั้งแรก คือ เมื่อ 16 ก.ค. 2568
พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้เสียขาซ้ายไป
วันต่อมา เกิดการสู้รบระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา ครอบคลุมหลายจังหวัดติดชายแดน
ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในช่วงการสู้รบ
ที่กินเวลานาน 5 วัน โดย จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญชูหล้า เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้สูญเสียขาขวาไป
ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นก่อนเวลาหยุดยิงเพียงไม่นาน
ในวันที่ 28 กรกฎาคม โดยร้อยตรี เกียรติวงศ์ สถาวร เหยียบทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้รอบปราสาทตาควาย ในความพยายามสุดท้ายเพื่อยึดพื้นที่ปราสาทของทหารไทย ทำให้เขาต้องสูญเสียขาข้างขวาไป
แต่ที่กองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาล ยอมรับไม่ได้ และประท้วงอย่างรุนแรง คือ การเหยียบทุ่นระเบิด 2 ครั้งล่าสุด เพราะเกิดขึ้นภายหลังบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
คือ ครั้งที่ 4 วันที่ 9 สิงหาคม
จ่าสิบเอก ธานี พาหา เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณโดนเอาว์-กฤษรา จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้สูญเสียขาซ้าย
และครั้งที่ 5 ล่าสุด สิบเอก ธีรพล เพียขันที
เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณปราสาทตาเมือนธม ทำให้ขาข้างซ้ายขาด
กองทัพบกชี้ว่า จากสภาพทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ดูใหม่ และพื้นที่เหยียบทุ่นระเบิดเป็นพื้นที่ปฏิบัติการลาดตระเวนตามปกติของทหารไทย จึงแน่ชัดว่า ทหารกัมพูชาลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด เพื่อประสงค์ร้ายต่อทหารไทย ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตโตวา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง