ชามะลิเป็นชาหอมละมุนที่หลายคนดื่มประจำวัน บทความนี้สรุปผลต่อระบบประสาทและคุณภาพการนอน พร้อมแนวทางดื่มอย่างปลอดภัยให้ได้ประโยชน์จริง
ชามะลิคืออะไร
ชามะลิคือชาใบ (มักเป็นชาเขียวหรือชาขาว) ที่นำมาอบ/คลุกกับดอกมะลิให้ติดกลิ่นหอม จึงมีสารสำคัญจากชา เช่น คาเฟอีน แคทีชิน แอลธีอะนีน และสารอะโรมาจากมะลิ เช่น ไลนาลูล เบนซิลอะซีเทต
ผลของการดื่มชามะลิต่อระบบประสาท
คาเฟอีน—ตื่นตัวและโฟกัสดีขึ้น
คาเฟอีนในชามะลิยับยั้งอะดีโนซีนชั่วคราว ช่วยให้ตื่นตัว กระตือรือร้น และเพิ่มความสนใจ แต่ปริมาณมากอาจทำให้ใจสั่นหรือกระสับกระส่ายในคนไวคาเฟอีน
แอลธีอะนีน—สงบ ผ่อนคลาย ไม่ง่วงเกิน
แอลธีอะนีน (กรดอะมิโนเฉพาะในชา) ช่วยเพิ่มคลื่นอัลฟาในสมอง ให้ความรู้สึกสงบ ลดความตึงเครียด เมื่ออยู่ร่วมกับคาเฟอีนจะช่วย “เกลี่ย” ความตื่นตัวให้เนียน ไม่กระชาก
กลิ่นมะลิ—ชะลอสัญญาณความเครียด
อะโรมาของดอกมะลิอย่างไลนาลูลมีบทบาทต่อระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ช่วยให้ช้าลง ผ่อนคลาย ลดความกังวลเฉียบพลันได้ในบางคน
ผลของการดื่มชามะลิต่อการนอนหลับ
ช่วยผ่อนคลายก่อนนอน ถ้าคาเฟอีนต่ำ
กลิ่นมะลิช่วยคลายกังวลและทำให้นอนง่ายขึ้นในผู้ที่ไวต่อกลิ่นผ่อนคลาย แต่คาเฟอีนยังอยู่ จึงควรเลือกแบบคาเฟอีนต่ำ/ดีคาเฟอีน หรือดื่มให้ห่างเวลาเข้านอน
เวลาดื่มสำคัญกว่าที่คิด
หลีกเลี่ยงดื่มชามะลิในช่วง 6 ชั่วโมงก่อนเข้านอน (โดยเฉพาะผู้ที่นอนยาก) เพราะคาเฟอีนอาจรบกวนการหลับลึกและทำให้ตื่นกลางดึก
สำหรับคนไวคาเฟอีน
เลือกไซซ์สำหรับถ้วยเล็ก (150–200 มล.) และใช้ใบชาฐาน “ชาขาว” หรือ “ดีคาเฟอีน” จะดีต่อการนอนมากกว่า
ดื่มเท่าไรต่อวันถึงเหมาะ
ปริมาณรวมต่อวัน
ผู้ใหญ่ทั่วไป: ชามะลิคาเฟอีนปกติ 1–3 ถ้วย/วัน (รวมคาเฟอีนจากแหล่งอื่นไม่เกิน ~200–300 มก./วัน สำหรับคนส่วนใหญ่)
คนไวคาเฟอีน/มีความกังวลง่าย: 1 ถ้วย/วัน หรือเปลี่ยนเป็นดีคาเฟอีน
เวลาแนะนำ
ถ้วยที่ 1: เช้า—ช่วยตื่นตัวนุ่มนวล
ถ้วยที่ 2: บ่ายต้น—ลดอาการอ่อนล้าหลังเที่ยง
หากอยากดื่มเย็น/ก่อนนอน ให้เลือกดีคาเฟอีนและถ้วยเล็ก
วิธีชงให้ได้ประโยชน์และคาเฟอีนพอดี
อุณหภูมิ–เวลาแช่
ชาเขียวกลิ่นมะลิ
น้ำ 75–85°C แช่ 2–3 นาที ลดความฝาดคาเฟอีนสูงเกินจำเป็น กลิ่นหอมเด่น
ชาขาวกลิ่นมะลิ
น้ำ 80–85°C แช่3–4 นาที กลิ่นนุ่ม คาเฟอีนต่ำกว่า
ดีคาเฟอีน/คาเฟอีนต่ำ
ชงตามฉลากผู้ผลิต กลิ่นยังผ่อนคลาย เหมาะมื้อค่ำ
เคล็ดลับลดคาเฟอีน
ใช้ใบชาน้อยลงเล็กน้อยต่อถ้วย เลือกถ้วยเล็ก หรือสลับเป็น “คูลด์บริว” แช่เย็นหลายชั่วโมงเพื่อลดการสกัดคาเฟอีนและความฝาด (ยังได้กลิ่นหอม)
ใครบ้างที่ควรระวัง
นอนไม่หลับ/วิตกกังวลง่าย
หลีกเลี่ยงชามะลิคาเฟอีนปกติหลังบ่าย และเริ่มจากปริมาณน้อย ประเมินอาการ 24–48 ชม.
กรดไหลย้อน/กระเพาะไว
ดื่มจิบช้าๆ หลังอาหาร ไม่ควรว่างท้อง และเลี่ยงชาที่เข้มจัด
ตั้งครรภ์/ให้นม
จำกัดคาเฟอีนต่อวันตามคำแนะนำแพทย์ (โดยทั่วไปไม่เกิน ~200 มก./วัน) พิจารณาดีคาเฟอีน
ภาวะโลหิตจางขาดธาตุเหล็ก
แทนนินในชาอาจลดการดูดซึมเหล็ก ควรดื่มห่างจากมื้อที่มีเหล็กสูงอย่างน้อย 1–2 ชั่วโมง
ดื่มชามะลิทุกวันดีไหม
การดื่มชามะลิทุกวันขนาด “พอเหมาะ” ช่วยผ่อนคลายระบบประสาท เพิ่มโฟกัสยามกลางวัน และอาจช่วยให้นอนดีขึ้นถ้าเลือกดีคาเฟอีน/ดื่มให้ห่างเวลานอน ปรับปริมาณให้เข้ากับความไวคาเฟอีนและภาวะสุขภาพของตน
ที่มา:
https://www.sanook.com/women/261325/
เผยสรรพคุณชามะลิ ลดเครียด คลายกังวลง่ายๆ แค่ดื่มให้ถูกวิธี
ชามะลิเป็นชาหอมละมุนที่หลายคนดื่มประจำวัน บทความนี้สรุปผลต่อระบบประสาทและคุณภาพการนอน พร้อมแนวทางดื่มอย่างปลอดภัยให้ได้ประโยชน์จริง
ชามะลิคืออะไร
ชามะลิคือชาใบ (มักเป็นชาเขียวหรือชาขาว) ที่นำมาอบ/คลุกกับดอกมะลิให้ติดกลิ่นหอม จึงมีสารสำคัญจากชา เช่น คาเฟอีน แคทีชิน แอลธีอะนีน และสารอะโรมาจากมะลิ เช่น ไลนาลูล เบนซิลอะซีเทต
ผลของการดื่มชามะลิต่อระบบประสาท
คาเฟอีน—ตื่นตัวและโฟกัสดีขึ้น
คาเฟอีนในชามะลิยับยั้งอะดีโนซีนชั่วคราว ช่วยให้ตื่นตัว กระตือรือร้น และเพิ่มความสนใจ แต่ปริมาณมากอาจทำให้ใจสั่นหรือกระสับกระส่ายในคนไวคาเฟอีน
แอลธีอะนีน—สงบ ผ่อนคลาย ไม่ง่วงเกิน
แอลธีอะนีน (กรดอะมิโนเฉพาะในชา) ช่วยเพิ่มคลื่นอัลฟาในสมอง ให้ความรู้สึกสงบ ลดความตึงเครียด เมื่ออยู่ร่วมกับคาเฟอีนจะช่วย “เกลี่ย” ความตื่นตัวให้เนียน ไม่กระชาก
กลิ่นมะลิ—ชะลอสัญญาณความเครียด
อะโรมาของดอกมะลิอย่างไลนาลูลมีบทบาทต่อระบบประสาทพาราซิมพาเทติก ช่วยให้ช้าลง ผ่อนคลาย ลดความกังวลเฉียบพลันได้ในบางคน
ผลของการดื่มชามะลิต่อการนอนหลับ
ช่วยผ่อนคลายก่อนนอน ถ้าคาเฟอีนต่ำ
กลิ่นมะลิช่วยคลายกังวลและทำให้นอนง่ายขึ้นในผู้ที่ไวต่อกลิ่นผ่อนคลาย แต่คาเฟอีนยังอยู่ จึงควรเลือกแบบคาเฟอีนต่ำ/ดีคาเฟอีน หรือดื่มให้ห่างเวลาเข้านอน
เวลาดื่มสำคัญกว่าที่คิด
หลีกเลี่ยงดื่มชามะลิในช่วง 6 ชั่วโมงก่อนเข้านอน (โดยเฉพาะผู้ที่นอนยาก) เพราะคาเฟอีนอาจรบกวนการหลับลึกและทำให้ตื่นกลางดึก
สำหรับคนไวคาเฟอีน
เลือกไซซ์สำหรับถ้วยเล็ก (150–200 มล.) และใช้ใบชาฐาน “ชาขาว” หรือ “ดีคาเฟอีน” จะดีต่อการนอนมากกว่า
ดื่มเท่าไรต่อวันถึงเหมาะ
ปริมาณรวมต่อวัน
ผู้ใหญ่ทั่วไป: ชามะลิคาเฟอีนปกติ 1–3 ถ้วย/วัน (รวมคาเฟอีนจากแหล่งอื่นไม่เกิน ~200–300 มก./วัน สำหรับคนส่วนใหญ่)
คนไวคาเฟอีน/มีความกังวลง่าย: 1 ถ้วย/วัน หรือเปลี่ยนเป็นดีคาเฟอีน
เวลาแนะนำ
ถ้วยที่ 1: เช้า—ช่วยตื่นตัวนุ่มนวล
ถ้วยที่ 2: บ่ายต้น—ลดอาการอ่อนล้าหลังเที่ยง
หากอยากดื่มเย็น/ก่อนนอน ให้เลือกดีคาเฟอีนและถ้วยเล็ก
วิธีชงให้ได้ประโยชน์และคาเฟอีนพอดี
อุณหภูมิ–เวลาแช่
ชาเขียวกลิ่นมะลิ
น้ำ 75–85°C แช่ 2–3 นาที ลดความฝาดคาเฟอีนสูงเกินจำเป็น กลิ่นหอมเด่น
ชาขาวกลิ่นมะลิ
น้ำ 80–85°C แช่3–4 นาที กลิ่นนุ่ม คาเฟอีนต่ำกว่า
ดีคาเฟอีน/คาเฟอีนต่ำ
ชงตามฉลากผู้ผลิต กลิ่นยังผ่อนคลาย เหมาะมื้อค่ำ
เคล็ดลับลดคาเฟอีน
ใช้ใบชาน้อยลงเล็กน้อยต่อถ้วย เลือกถ้วยเล็ก หรือสลับเป็น “คูลด์บริว” แช่เย็นหลายชั่วโมงเพื่อลดการสกัดคาเฟอีนและความฝาด (ยังได้กลิ่นหอม)
ใครบ้างที่ควรระวัง
นอนไม่หลับ/วิตกกังวลง่าย
หลีกเลี่ยงชามะลิคาเฟอีนปกติหลังบ่าย และเริ่มจากปริมาณน้อย ประเมินอาการ 24–48 ชม.
กรดไหลย้อน/กระเพาะไว
ดื่มจิบช้าๆ หลังอาหาร ไม่ควรว่างท้อง และเลี่ยงชาที่เข้มจัด
ตั้งครรภ์/ให้นม
จำกัดคาเฟอีนต่อวันตามคำแนะนำแพทย์ (โดยทั่วไปไม่เกิน ~200 มก./วัน) พิจารณาดีคาเฟอีน
ภาวะโลหิตจางขาดธาตุเหล็ก
แทนนินในชาอาจลดการดูดซึมเหล็ก ควรดื่มห่างจากมื้อที่มีเหล็กสูงอย่างน้อย 1–2 ชั่วโมง
ดื่มชามะลิทุกวันดีไหม
การดื่มชามะลิทุกวันขนาด “พอเหมาะ” ช่วยผ่อนคลายระบบประสาท เพิ่มโฟกัสยามกลางวัน และอาจช่วยให้นอนดีขึ้นถ้าเลือกดีคาเฟอีน/ดื่มให้ห่างเวลานอน ปรับปริมาณให้เข้ากับความไวคาเฟอีนและภาวะสุขภาพของตน
ที่มา:https://www.sanook.com/women/261325/