แบกไม่ไหว ตี๋น้อยสุกี้กำไรไตรมาส 2/2568 311 ล้านบาท ลดลง -6.7%


ไตรมาส 2 ปี 2568 เจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย กำไร 311 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน -6.7%  | MONEY LAB
ล่าสุดทางบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เพิ่งประกาศงบการเงินงวดไตรมาส 2 ปี 2568 ออกมา

โดยทาง JMART ได้ถือหุ้นของบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของร้าน “สุกี้ตี๋น้อย” อยู่เป็นสัดส่วน 30%

หากเราลองเทียบบัญญัติไตรยางศ์กำไรที่ทาง JMART ได้รับจากการถือหุ้นในบริษัทเจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อยแบบง่าย ๆ ดู เราก็จะสามารถหากำไรของบริษัทเจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อยออกมาได้ นั่นเอง

โดยทาง MONEY LAB ได้ลองไปเปิดดูคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ย้อนหลังดูจนถึงไตรมาส 1 ปี 2566

แล้วลองนำมาคำนวณหากำไรของบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด บริษัทเจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย จนถึงงวดปัจจุบันดู ก็จะได้ออกมาแบบนี้

- ปี 2566
ไตรมาส 1 กำไร 208 ล้านบาท มีจำนวน 46 สาขา
ไตรมาส 2 กำไร 212 ล้านบาท มีจำนวน 48 สาขา
ไตรมาส 3 กำไร 256 ล้านบาท มีจำนวน 50 สาขา
ไตรมาส 4 กำไร 237 ล้านบาท มีจำนวน 55 สาขา

ส่งผลให้ปี 2566 บริษัทเจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย มีกำไร 913 ล้านบาท

- ปี 2567
ไตรมาส 1 กำไร 277 ล้านบาท มีจำนวน 64 สาขา
ไตรมาส 2 กำไร 333 ล้านบาท มีจำนวน 67 สาขา
ไตรมาส 3 กำไร 280 ล้านบาท มีจำนวน 73 สาขา
ไตรมาส 4 กำไร 279 ล้านบาท มีจำนวนร้านสุกี้ตี๋น้อย 78 สาขา, ร้าน Teenoi BBQ ซึ่งเป็นบุฟเฟต์ปิ้งย่าง 1 สาขา, และ Teenoi Express ซึ่งเป็นบุฟเฟต์พรีเมียม 1 สาขา

ส่งผลให้ปี 2567 บริษัทเจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย มีกำไร 1,169 ล้านบาท

- ปี 2568
ไตรมาส 1 กำไร 271 ล้านบาท มีจำนวนร้านสุกี้ตี๋น้อย 82 สาขา, ร้าน Teenoi BBQ ซึ่งเป็นบุฟเฟต์ปิ้งย่าง 2 สาขา, และ Teenoi Express ซึ่งเป็นบุฟเฟต์พรีเมียม 1 สาขา

และล่าสุดคือ ไตรมาส 2 กำไร 311 ล้านบาท มีจำนวนร้านสุกี้ตี๋น้อย 86 สาขา, ร้าน Teenoi BBQ ซึ่งเป็นบุฟเฟต์ปิ้งย่าง 4 สาขา, และ Teenoi Express ซึ่งเป็นบุฟเฟต์พรีเมียม 1 สาขา

โดยหากเทียบผลประกอบการระหว่าง ไตรมาสล่าสุดนี้ กับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว จะพบว่า บริษัทมีกำไรลดลงคิดเป็น -6.7%

การที่ผลประกอบการของบริษัทลดลงแบบนี้ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึง ปัจจัยทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่เติบโตต่ำ พร้อมทั้งการแข่งในอุตสาหกรรมร้านอาหาร ที่ดุเดือดเป็นอย่างมาก

เมื่อไม่นานมานี้ หากเราได้ติดตามข่าวกันมาบ้าง ก็คงจะเห็นว่า บรรดาร้านอาหารชื่อดัง ต่างพากันจัดโปรโมชั่นลดราคาแข่งกัน แบบจัดหนักจัดเต็มเลย

ซึ่งสุกี้ตี๋น้อยเอง ก็เป็นหนึ่งในเจ้าที่ทำโปรโมชั่นแบบนี้มาแข่งด้วย

และจากผลประกอบการของบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย ที่ทำธุรกิจร้านอาหารเหมือนกัน ที่เพิ่งประกาศงบการเงินไตรมาส 2 ปี 2568 ไป ก็พบว่า หลายบริษัทมีกำไรลดลง เช่น

- บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เจ้าของร้านอาหาร S&P กำไร 36 ล้านบาท ลดลง -54%

- บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของร้านสุกี้ MK กำไร 276 ล้านบาท ลดลง -31%

ซึ่งจะทำให้ตอนนี้ แม้ว่าสุกี้ตี๋น้อยจะมีกำไรลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนก็ต้อง แต่ก็ยังมีกำไรมากกว่าร้านสุกี้ MK เป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันแล้วในปีนี้

อย่างไรก็ตาม การที่สุกี้ตี๋น้อยเองก็ยังมีกำไรที่หดตัวลง เช่นเดียวกันกับร้านอาหารอื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงภาพรวมกำลังซื้อของคนไทยในปีนี้ได้เป็นอย่างดี

ว่าแม้จะเป็นร้านอาหารราคาถูก ก็ใช่ว่าจะสร้างการเติบโตได้ง่าย ๆ อีกแล้ว

อีกทั้งผลประกอบการในไตรมาสนี้ของสุกี้ตี๋น้อย ก็อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบเต็มที่นัก จากสงครามราคาสุกี้ ที่พึ่งจะเริ่มแข่งขันกันอย่างดุเดือดเมื่อประมาณช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้  

ทำให้ในไตรมาสหน้า ก็ต้องติดตามต่อไปว่า ผลประกอบการของสุกี้ตี๋น้อย จะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้หรือไม่

เมื่อต้องเจอกับความท้าทาย ทั้งกำลังซื้อที่หดตัวลงของคนไทย และคู่แข่งอย่าง MK สุกี้ ที่พยายามงัดกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ตัวเองกลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแห่งร้านสุกี้ได้อีกครั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่