สงครามสุกี้เดือด! ศึกชิงบัลลังก์หม้อไฟ
วงการบุฟเฟต์สุกี้ กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อกลุ่มเซ็นทรัล โดย "เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป" ประกาศเข้าลงทุน ในบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด (MP) เจ้าของร้านอาหาร สุกี้ และ บาร์บีคิว ภายใต้แบรนด์ ลัคกี้สุกี้ (Lucky Suki) และ ลัคกี้บาร์บีคิว (Lucky BBQ)โดยเข้าถือหุ้น 40% ด้วยเงินลงทุน 950 ล้านาท
.
ขณะที่ผู้เล่นเจ้าตลาดรายเดิม คือ เอ็มเค ที่ยอมลงมาเล่นตลาดบุฟเฟต์ และ สุกี้ตี๋น้อย ที่ฟาดฟันกันดุเดือดช่วงที่ผ่านมา สะท้อนการแข่งขันเข้มข้นทุกสนาม ทั้งราคา เมนู และจำนวนสาขา จนกลายเป็น “สงครามสุกี้” ที่ผู้บริโภคและนักลงทุนต้องจับตาเป็นพิเศษ
.
ขณะที่การประกาศผลดำเนินงานช่วงที่ผ่านมาล่าสุด 9 เดือนแรกปี 68 ฝั่งยักษ์ใหญ่ บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) เจ้าของ "เอ็มเค" ยังคงเป็นเจ้าตลาดหม้อไฟตัวจริง ด้วยจำนวนสาขามากถึง 400 สาขา และรายได้ สูงถึง 12,218 ล้านบาท แม้ราคาต่อหัวจะสูงสุดในสามค่ายที่ 299 บาท (net) แต่ยังรักษาฐานลูกค้าครอบครัวได้เหนียวแน่น ทำกำไร 735 ล้านบาท
.
ด้านคู่ท้าชิงสำคัญอย่าง "สุกี้ตี๋น้อย" ที่เปิด 24 ชั่วโมงในหลายสาขา ยังคงเร่งเครื่องแบบไม่แผ่ว ด้วยราคา 276 บาท (net) จับต้องได้ ดึงกลุ่มวัยรุ่น–วัยทำงานจำนวนมาก จนทำรายได้ 8,000 ล้านบาทจากเพียง 96 สาขาเท่านั้น จุดที่น่าจับตาคือ “กำไร” ซึ่งพุ่งขึ้นเป็น 803 ล้านบาท มากกว่า MK แม้รายได้น้อยกว่า สะท้อนโมเดลต้นทุนต่อหัวที่มีประสิทธิภาพ โดยกลุ่ม JMART เข้าถือหุ้น 30% เสริมความแข็งแกร่งในฝั่งเงินทุนและการขยายสาขา
.
"ลัคกี้สุกี้" น้องน้อยในสนามสุกี้บุฟเฟต์ ซึ่งเริ่มก่อร่างสร้างตัวเพียง 3 ปี สามารถสร้างรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท แล้ว เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นหน้าใหม่ที่ต้องจับตา หลังมีนายทุนใหญ่จากกลุ่มเซ็นทรัล CRG เข้ามาช่วยผลักดันตลาด จับตาการรุกตลาดแมสมากขึ้น
.
การแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้วัดกันแค่ “ราคา” แต่เป็นศึกแบบ 3 มิติ ได้แก่
.
ราคา : MK ราคาแพงสุด แต่ภาพลักษณ์พรีเมียมยังแข็งแรง ส่วนสุกี้ตี๋น้อย–ลัคกี้สุกี้ชนกันตรง ๆ ที่ 276 บาท
.
สาขา : MK ยังทิ้งห่าง แต่ตี๋น้อยขยายเร็ว ส่วนลัคกี้สุกี้เริ่มชิงทำเลชุมชน
.
ประสบการณ์ลูกค้า : ตั้งแต่บริการ 24 ชั่วโมง ไปจนถึงเมนูเฉพาะแบรนด์ กลายเป็นจุดต่างสำคัญ
.
การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ ถูกจับตามองว่า “วงการบุฟเฟต์สุกี้เมืองไทย” จะยังร้อนแรงต่อไป หรือยังมีผู้เล่นหน้าใหม่ พร้อมชนในสนามนี้อีกหรือไม่ แต่ความดุเดือดที่เกิดขึ้น ผู้ที่ได้อานิสงส์มากสุด น่าจะเป็นผู้บริโภค ที่พร้อมเลือกร้านที่โดนใจที่สุด!!
https://www.facebook.com/share/p/17muEqgotC/?mibextid=wwXIfr
สงครามสุกี้เดือด! ศึกชิงบัลลังก์หม้อไฟ 9 เดือนแรก กำไรตี๋น้อยแซงหน้าคู่แข่ง
วงการบุฟเฟต์สุกี้ กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อกลุ่มเซ็นทรัล โดย "เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป" ประกาศเข้าลงทุน ในบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด (MP) เจ้าของร้านอาหาร สุกี้ และ บาร์บีคิว ภายใต้แบรนด์ ลัคกี้สุกี้ (Lucky Suki) และ ลัคกี้บาร์บีคิว (Lucky BBQ)โดยเข้าถือหุ้น 40% ด้วยเงินลงทุน 950 ล้านาท
.
ขณะที่ผู้เล่นเจ้าตลาดรายเดิม คือ เอ็มเค ที่ยอมลงมาเล่นตลาดบุฟเฟต์ และ สุกี้ตี๋น้อย ที่ฟาดฟันกันดุเดือดช่วงที่ผ่านมา สะท้อนการแข่งขันเข้มข้นทุกสนาม ทั้งราคา เมนู และจำนวนสาขา จนกลายเป็น “สงครามสุกี้” ที่ผู้บริโภคและนักลงทุนต้องจับตาเป็นพิเศษ
.
ขณะที่การประกาศผลดำเนินงานช่วงที่ผ่านมาล่าสุด 9 เดือนแรกปี 68 ฝั่งยักษ์ใหญ่ บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) เจ้าของ "เอ็มเค" ยังคงเป็นเจ้าตลาดหม้อไฟตัวจริง ด้วยจำนวนสาขามากถึง 400 สาขา และรายได้ สูงถึง 12,218 ล้านบาท แม้ราคาต่อหัวจะสูงสุดในสามค่ายที่ 299 บาท (net) แต่ยังรักษาฐานลูกค้าครอบครัวได้เหนียวแน่น ทำกำไร 735 ล้านบาท
.
ด้านคู่ท้าชิงสำคัญอย่าง "สุกี้ตี๋น้อย" ที่เปิด 24 ชั่วโมงในหลายสาขา ยังคงเร่งเครื่องแบบไม่แผ่ว ด้วยราคา 276 บาท (net) จับต้องได้ ดึงกลุ่มวัยรุ่น–วัยทำงานจำนวนมาก จนทำรายได้ 8,000 ล้านบาทจากเพียง 96 สาขาเท่านั้น จุดที่น่าจับตาคือ “กำไร” ซึ่งพุ่งขึ้นเป็น 803 ล้านบาท มากกว่า MK แม้รายได้น้อยกว่า สะท้อนโมเดลต้นทุนต่อหัวที่มีประสิทธิภาพ โดยกลุ่ม JMART เข้าถือหุ้น 30% เสริมความแข็งแกร่งในฝั่งเงินทุนและการขยายสาขา
.
"ลัคกี้สุกี้" น้องน้อยในสนามสุกี้บุฟเฟต์ ซึ่งเริ่มก่อร่างสร้างตัวเพียง 3 ปี สามารถสร้างรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท แล้ว เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นหน้าใหม่ที่ต้องจับตา หลังมีนายทุนใหญ่จากกลุ่มเซ็นทรัล CRG เข้ามาช่วยผลักดันตลาด จับตาการรุกตลาดแมสมากขึ้น
.
การแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้วัดกันแค่ “ราคา” แต่เป็นศึกแบบ 3 มิติ ได้แก่
.
ราคา : MK ราคาแพงสุด แต่ภาพลักษณ์พรีเมียมยังแข็งแรง ส่วนสุกี้ตี๋น้อย–ลัคกี้สุกี้ชนกันตรง ๆ ที่ 276 บาท
.
สาขา : MK ยังทิ้งห่าง แต่ตี๋น้อยขยายเร็ว ส่วนลัคกี้สุกี้เริ่มชิงทำเลชุมชน
.
ประสบการณ์ลูกค้า : ตั้งแต่บริการ 24 ชั่วโมง ไปจนถึงเมนูเฉพาะแบรนด์ กลายเป็นจุดต่างสำคัญ
.
การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ ถูกจับตามองว่า “วงการบุฟเฟต์สุกี้เมืองไทย” จะยังร้อนแรงต่อไป หรือยังมีผู้เล่นหน้าใหม่ พร้อมชนในสนามนี้อีกหรือไม่ แต่ความดุเดือดที่เกิดขึ้น ผู้ที่ได้อานิสงส์มากสุด น่าจะเป็นผู้บริโภค ที่พร้อมเลือกร้านที่โดนใจที่สุด!!
https://www.facebook.com/share/p/17muEqgotC/?mibextid=wwXIfr