ตอนที่ 1: กุหลาบในแก้วลาเต้
เช้าวันแรกของฝนในกรุงเทพฯ อากาศยังเย็นนิด ๆ จากฝนเมื่อคืน ถนนหน้าอพาร์ตเมนต์ที่เธอเช่าไว้เต็มไปด้วยเสียงเครื่องยนต์และกลิ่นไอของเมืองใหญ่ เธอเดินเร่งฝีเท้าไปยังร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่มุมถนน ร้านที่มีกระจกใสบานใหญ่และป้ายไฟนีออนสีอุ่นเขียนว่า “Bean Here”
กลิ่นเมล็ดกาแฟคั่วลอยมาก่อนที่ประตูจะปิด พี่ไอซ์—บาริสต้ารุ่นพี่—กำลังเช็ดแก้วอยู่หลังเคาน์เตอร์ “มาเร็วแหน่ ฝนเอ้ย วันนี้สิสอนเทนมเด้อ” เสียงติดสำเนียงอีสานเล็ก ๆ ของพี่ไอซ์ทำให้ฝนรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้ยินเสียงคนบ้านเดียวกัน
ฝนใส่ผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลเข้ม ยืนหลังเครื่องชงเอสเพรสโซ แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในร้าน กระทบละอองไอน้ำจากกานมร้อน เธอเริ่มหัดฟองนม มือสั่นนิด ๆ เพราะยังไม่คุ้น แต่ตั้งใจเต็มที่
เสียงประตูร้านดัง กริ๊ง~ ฝนเงยหน้าขึ้น เห็นชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน เดินเข้ามาอย่างสงบ รอยยิ้มของเขาอบอุ่นเหมือนแสงเช้า แววตานิ่งแต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฝนใจเต้นแปลก ๆ
“ลาเต้ร้อนครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยสั้น ๆ แต่ชัด
ฝนพยักหน้ารับ รู้สึกว่ามือเย็นเฉียบแต่หัวใจกลับร้อนเหมือนหม้อนมที่กำลังเดือด เธอเทเอสเพรสโซลงแก้ว เสียงไอน้ำ ฟู่ ดังชัดในร้านเงียบ ๆ นมร้อนค่อย ๆ เทลงไปตามจังหวะที่พี่ไอซ์เคยสอน ลายโค้งเวียนทีละชั้น จนในที่สุดก็เกิดเป็นกุหลาบเล็ก ๆ กลางแก้ว
เธอมองลายกุหลาบนั้นแล้วเผลอยิ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่ฝนทำได้สวยขนาดนี้ เธอวางแก้วบนจานรองแล้วส่งให้ชายหนุ่ม
เขารับแก้วไปอย่างระมัดระวัง ก่อนยิ้มมุมปาก “ลายสวยมากครับ” น้ำเสียงเขาฟังดูจริงใจ จนฝนรู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวกลายเป็นสีพาสเทล
หัวใจเธอเต้นแรง ราวกับใครกดปุ่มเร่งจังหวะเพลงในอก พยายามซ่อนความเขินด้วยการหันกลับไปหยิบผ้าเช็ดโต๊ะ แต่ก็ยังรู้สึกถึงสายตาของเขาที่มองมา
พี่ไอซ์ที่ยืนหลังเคาน์เตอร์มองภาพนั้นแล้วหัวเราะ “ยัยฝน ตาเป็นรูปหัวใจแล้วเด้อ~”
ฝนหน้าแดงวาบ “บ่มีดอกพี่ไอซ์!” เสียงหลุดสำเนียงอีสานออกมาโดยไม่ตั้งใจ
พี่ไอซ์ยิ่งหัวเราะ “โอ๊ย… บ่เป็นหยังดอก เขามาหล่อ ๆ แบบนี้ ใครสิใจแข็งได้”
ฝนพยายามเปลี่ยนเรื่อง “พี่ไอซ์ เดี๋ยวหนูไปเช็ดโต๊ะตรงหน้าต่างก่อนนะ” เธอเดินหนีไปที่มุมร้าน แต่หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด มองลอดกระจกไปนอกถนนที่แดดเริ่มแรงขึ้น ภาพกุหลาบในแก้วลาเต้ยังชัดอยู่ในหัว
เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร มาจากไหน หรือจะได้เจอกันอีกไหม แต่รอยยิ้มและน้ำเสียงของเขามันเหมือนอะไรบางอย่างที่บอกให้เธอ “รอ”
และนั่นคือจุดเริ่มต้น… ของกุหลาบดอกแรกในใจเธอ
เรื่อง : กุหลาบ "The Fallen Rose"
เช้าวันแรกของฝนในกรุงเทพฯ อากาศยังเย็นนิด ๆ จากฝนเมื่อคืน ถนนหน้าอพาร์ตเมนต์ที่เธอเช่าไว้เต็มไปด้วยเสียงเครื่องยนต์และกลิ่นไอของเมืองใหญ่ เธอเดินเร่งฝีเท้าไปยังร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่มุมถนน ร้านที่มีกระจกใสบานใหญ่และป้ายไฟนีออนสีอุ่นเขียนว่า “Bean Here”
กลิ่นเมล็ดกาแฟคั่วลอยมาก่อนที่ประตูจะปิด พี่ไอซ์—บาริสต้ารุ่นพี่—กำลังเช็ดแก้วอยู่หลังเคาน์เตอร์ “มาเร็วแหน่ ฝนเอ้ย วันนี้สิสอนเทนมเด้อ” เสียงติดสำเนียงอีสานเล็ก ๆ ของพี่ไอซ์ทำให้ฝนรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้ยินเสียงคนบ้านเดียวกัน
ฝนใส่ผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลเข้ม ยืนหลังเครื่องชงเอสเพรสโซ แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในร้าน กระทบละอองไอน้ำจากกานมร้อน เธอเริ่มหัดฟองนม มือสั่นนิด ๆ เพราะยังไม่คุ้น แต่ตั้งใจเต็มที่
เสียงประตูร้านดัง กริ๊ง~ ฝนเงยหน้าขึ้น เห็นชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน เดินเข้ามาอย่างสงบ รอยยิ้มของเขาอบอุ่นเหมือนแสงเช้า แววตานิ่งแต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฝนใจเต้นแปลก ๆ
“ลาเต้ร้อนครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยสั้น ๆ แต่ชัด
ฝนพยักหน้ารับ รู้สึกว่ามือเย็นเฉียบแต่หัวใจกลับร้อนเหมือนหม้อนมที่กำลังเดือด เธอเทเอสเพรสโซลงแก้ว เสียงไอน้ำ ฟู่ ดังชัดในร้านเงียบ ๆ นมร้อนค่อย ๆ เทลงไปตามจังหวะที่พี่ไอซ์เคยสอน ลายโค้งเวียนทีละชั้น จนในที่สุดก็เกิดเป็นกุหลาบเล็ก ๆ กลางแก้ว
เธอมองลายกุหลาบนั้นแล้วเผลอยิ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่ฝนทำได้สวยขนาดนี้ เธอวางแก้วบนจานรองแล้วส่งให้ชายหนุ่ม
เขารับแก้วไปอย่างระมัดระวัง ก่อนยิ้มมุมปาก “ลายสวยมากครับ” น้ำเสียงเขาฟังดูจริงใจ จนฝนรู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวกลายเป็นสีพาสเทล
หัวใจเธอเต้นแรง ราวกับใครกดปุ่มเร่งจังหวะเพลงในอก พยายามซ่อนความเขินด้วยการหันกลับไปหยิบผ้าเช็ดโต๊ะ แต่ก็ยังรู้สึกถึงสายตาของเขาที่มองมา
พี่ไอซ์ที่ยืนหลังเคาน์เตอร์มองภาพนั้นแล้วหัวเราะ “ยัยฝน ตาเป็นรูปหัวใจแล้วเด้อ~”
ฝนหน้าแดงวาบ “บ่มีดอกพี่ไอซ์!” เสียงหลุดสำเนียงอีสานออกมาโดยไม่ตั้งใจ
พี่ไอซ์ยิ่งหัวเราะ “โอ๊ย… บ่เป็นหยังดอก เขามาหล่อ ๆ แบบนี้ ใครสิใจแข็งได้”
ฝนพยายามเปลี่ยนเรื่อง “พี่ไอซ์ เดี๋ยวหนูไปเช็ดโต๊ะตรงหน้าต่างก่อนนะ” เธอเดินหนีไปที่มุมร้าน แต่หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด มองลอดกระจกไปนอกถนนที่แดดเริ่มแรงขึ้น ภาพกุหลาบในแก้วลาเต้ยังชัดอยู่ในหัว
เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร มาจากไหน หรือจะได้เจอกันอีกไหม แต่รอยยิ้มและน้ำเสียงของเขามันเหมือนอะไรบางอย่างที่บอกให้เธอ “รอ”
และนั่นคือจุดเริ่มต้น… ของกุหลาบดอกแรกในใจเธอ