HYBE มียอดขายไตรมาส 2 สูงสุดเป็นประวัติการณ์‼️705.7 พันล้านวอน และมีกำไรจากการดำเนินงาน 65.9 พันล้านวอน

กระทู้ข่าว

HYBE​ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 โดยทำลายสถิติยอดขายรายไตรมาสสูงสุดอีกครั้ง ผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้ได้รับแรงหนุนจากทัวร์ระดับโลกของศิลปินและยอดขายอัลบั้มที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง

รายได้รวมของ ​HYBE​ ในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 705.6 พันล้านวอน เพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 65.9 พันล้านวอน เพิ่มขึ้นถึง 29% จากปีก่อน และพุ่งขึ้น 205% จากไตรมาสก่อน อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 9.3% เพิ่มขึ้น 1.4% ​เมื่อเทียบกับปีก่อน

รายได้จากการมีส่วนร่วมโดยตรง (​Direct ​Participation) อยู่ที่ 447.9 พันล้านวอน โดยเฉพาะในส่วนของคอนเสิร์ตทำรายได้ถึง 188.7 พันล้านวอน เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ในไตรมาสที่ 2 มีการจัดทัวร์เดี่ยวของ จิน และ เจโฮป จากวง BTS, แฟนมีตติ้งของ SEVENTEEN ที่ญี่ปุ่น และเวิลด์ทัวร์ของ TXT และ LE SSERAFIM รวมแล้วดึงดูดผู้ชมได้ประมาณ 1.8 ล้านคน
แม้ว่ารายได้จากการขายอัลบั้มจะอยู่ที่ 228.6 พันล้านวอน ลดลง 8.4% จากปีก่อน ท่ามกลางแนวโน้มยอดขาย K-pop โดยรวมที่ลดลง แต่ HYBE ก็ยังคงรักษาผลประกอบการที่มั่นคงได้        

ในหมวดอัลบั้ม จิน Jin วง BTS ประสบความสำเร็จด้วยมินิอัลบั้มชุดที่สอง Echo ซึ่งสามารถขึ้นอันดับที่ 3 บนชาร์ต Billboard 200

ขณะที่ SEVENTEEN ฉลองครบรอบเดบิวต์ 10 ปีด้วยอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 HAPPY BURSTDAY และคว้าอันดับ 1 ยอดขายอัลบั้มครึ่งปีแรกในเกาหลี

ENHYPEN กับมินิอัลบั้มชุดที่ 6 DESIRE: UNLEASH ทำยอดขายสัปดาห์แรก (초동) เกิน 2 ล้านแผ่น (Double Million Seller) และยังเข้าสู่ Billboard 200 ที่อันดับ 3

LE SSERAFIM ทำผลงานโดดเด่นในญี่ปุ่น ด้วยซิงเกิลญี่ปุ่นชุดที่ 4 DIFFERENT ที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Oricon รายวัน และอันดับ 2 บนชาร์ตรายสัปดาห์

BOYNEXTDOOR สร้างสถิติยอดขายสัปดาห์แรกสูงสุดนับตั้งแต่เดบิวต์ ด้วยมินิอัลบั้มชุดที่ 4 No Genre

ILLIT ก็ไม่แพ้กัน โดยมินิอัลบั้มชุดที่ 3 bomb สามารถเข้าสู่ชาร์ต Billboard 200 ได้เช่นกัน ทำให้ทุกอัลบั้มที่พวกเธอปล่อยนับตั้งแต่เดบิวต์ ติดชาร์ตระดับโลกนี้ทั้งหมด

ในตลาดโลก ผลงานด้านเพลงดิจิทัล  (Streaming/Downloads) ก็โดดเด่นเช่นกัน โดยจินและเจโฮป วง BTS ต่างก็สามารถส่งซิงเกิลใหม่ของตนเอง ได้แก่ “Don't Say You Love Me” และ “Killin' It Girl” ขึ้นชาร์ตหลัก Billboard Hot 100 ได้สำเร็จ

ขณะเดียวกัน วงเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก Katseye ก็สร้างความสำเร็จอย่างมากภายในเวลาเพียงราว 1 ปีหลังเดบิวต์ โดยสามารถพา 2 เพลงจาก EP BEAUTIFUL CHAOS ได้แก่ Gabriela และ Gnarly ขึ้นสู่ Billboard Hot 100 ทั้งสองเพลงยังติดชาร์ต UK Official Chart พร้อมกัน และเข้าสู่อันดับต้น ๆ ของ Spotify Global Chart ด้วย กระแสตอบรับดีทั้งในอเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา และยุโรป แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่แข็งแกร่งของ Katseye ในตลาดเพลงระดับโลก

ศิลปินในค่าย Big Machine Label Group ก็แสดงให้เห็นถึงพลังทางด้านผลงานเพลงเช่นกัน โดย Thomas Rhett ได้รับการรับรองระดับ “Diamond” จาก RIAA ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของวงการเพลงในสหรัฐอเมริกา

ขณะที่เพลง “Worst Way” ของ Riley Green ก็สามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต U.S. Country Radio Airplay ได้สำเร็จ แสดงถึงความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ฟังเพลงแนวคันทรีในสหรัฐฯ

รายได้จากการมีส่วนร่วมทางอ้อม (Indirect Participation) อยู่ที่ 257.8 พันล้านวอน โดยรายได้จากสินค้า (MD) และการให้สิทธิ์ใช้งาน (Licensing) อยู่ที่ 152.9 พันล้านวอน เพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อน ขณะที่รายได้จากแฟนคลับอยู่ที่ 34.6 พันล้านวอน เพิ่มขึ้น 46% และทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

สำหรับแพลตฟอร์มชุมชนแฟนคลับ Weverse มีจำนวนผู้ใช้งานเฉลี่ยต่อเดือน (MAU) อยู่ที่ 10.9 ล้านคน โดยในเดือนมิถุนายนที่สมาชิก BTS กลับมาพร้อมหน้าทั้งหมด จำนวนผู้ใช้งานพุ่งขึ้นถึง 12 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งการเข้าร่วมของศิลปินญี่ปุ่น เช่น Mrs. GREEN APPLE และ Shingo Katori ก็มีส่วนช่วยเพิ่มการเติบโตด้วย ยอดการใช้จ่ายบน Weverse เพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสก่อนหน้า

ที่มา
https://m.joynews24.com/v/1873682
https://www.seoulwire.com/news/articleView.html?idxno=664620
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่