ศิขรินเสียดเมฆ-ฟ้า…โอบพลัน มะมา
อากาศเจียดแบ่งปัน…เพื่อนข้า
ดาวเดือนแจ่มข้ามมัน…สองฝั่ง
สูรย์ส่องยังผืนหล้า...เท่าชั้นเทียมเห็น
สืบพงศ์เป็นว่านเหย้า..เถาเครือ
เลือดพี่น้องย่อมเจือ...แทรกบ้าง
วิภาษขาดเกินเหลือ...เผื่อแผ่ ถ้อยนอ
ดองรักแลเกลียวสร้าง...อดีตนั้นหอมหวาน
สัญญะคานซบใช้...หลักใจ
น้ำหนักหนักกับใคร...ถ่วงตุ้ม
ตรีมุขประทับไสว...สันติสุข
บัดเมฆขมุกขมัวคลุ้ม...มืดนั้นใคร่ใคร
เทือกไพรดงรักช้ำ…กลัดหนอง
พนมนิ่งประหนึ่งประคอง…พุ่มนั้น
ปราสาทยอดภูหมอง...โถมหมอก
ฟ้าแหวกอ้อมอกบั้น…แผ่นชั้นทองปลิว
ลิ่วลิ่วมาเร่าร้อน…สะบัดณรงค์
ฤาศิวะประสงค์…เลือกแล้ว
วิบุลบ่จำนง…สาระสืบ สรรแล
จึงป่นแดนมนุษย์แผ้ว…ถากไว้บวงสรวง
ลมลวงพัดแผกนั้น...ร้อนรน
แลงเก่ากาลอดทน...ร่อนแล้ว
เทวสถานพบภูตปน...ผสมสู่
กองพะเนินเทินทแกล้ว..เรียกร้องชำระ
ผงะศพแร้งลากทึ้ง…อึงคนึง ฉาวเวย
หึ่งหึ่งแมลงวันอึง…เสพโอ้
ต่องแต่งม่องเท่งทึง…อุจาด
เย้ยยั่วยั้วหนอนโหร้…ผุดเหน้าพะนอเนื้อ
เถือพลิกเศษกระดูกกร้าว…ขาวโพลน
หมาถ่อยกระชากโยน…ถ่มก้าง
ฟุดฟิดกลิ่นโทนโทน…เห็นอยู่
บอดจมูกยังคั่งค้าง…เน่านั้นชวนหลอน
ก่อนศพคงโอดโอ้...ทุรนทุราย
สุ่มสุ่มสวดมนต์หมาย...จะพ้น
เนิบเนิบกระเถิบกาย...ว่าถด แลนา
ร่างแบบแบบทะลักล้น...เลือดแค้นใครหวา
นัยน์ตาเหลือกร่างดิ้น ...ทุลักทุเล
เถ้าถ่านเพลิงแค้นเห...หลบให้
เห็นตาเพื่อนมองเฉ...ไปอื่น
จ่อปากตะโกนใกล้...เรียกแล้วบ่หัน
ควันโชยจึ่งรับรู้...ว่าไฟ
สำลักเลือดเกินไหว...ปอดต้าน
แรงใจใคร่ใช้ไป...ใกล้หมด แล้วเอย
คีย์บอร์ดเพื่อนทางบ้าน...หมื่นล้านอักษร
ภมรซุ่มใกล้พุ่ม...มาลี
หวังเกล็ดกลีบมารศรี...สักเสี้ยว
อยากรสกดฤดี...ข่มอยาก สักเดี๋ยวแฮ
หากสบช่องเสพเคี้ยว...อาจเสี้ยวบ่พอ
รอนะกาลอีกใกล้...เผด็จศึก แล้วแม่
เร่งปราบไพรีคึก...ข่มกร้าว
จะกลับเพื่อบันทึก...เราต่อ
จะฉ่ำด้วยอะคร้าว...อะเคื้อจงสงวน
พลันตูมหวนกึกก้อง... กัมปนาท
เกินกว่าอสุนีบาต...ฟาดให้
หมิ่นหมิ่นชะตาขาด...แล้วพ่อ
ผาดผาดว่าใกล้ใกล้...คืบใกล้อวสาน
วืดผ่านศีรษะข้าม...คำราม
ใจหวาดและหวิวตาม...ร่างด้วย
สักครู่หมดโมงยาม...ขานสติ
บึ้มอัดสะบัดย้วย...ฉีกทิ้งสังขาร
อนิจจาจารร่างไล้...สงคราม
สาบอืดคลุมถิ่นคาม...เขตนี้
ปฐพีหมุดนิรนาม...ยังอยู่
เหมือนกลบเพิ่งแต่กี้...พุ่งคลุ้งวิญญาณแค้น
ล่วงเกินแดนไพล่ล้ำ...โทษทัณฑ์
ผลักปากกล้องปืนหัน...ส่องด้วย
ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ดัน...พาดสิทธิ์
ถูกปลิดให้มอดม้วย...เช่นนี้เลวเสมือน
ตาเมือนเบือนพาทใช้...เจรจา
สันติภาพบลาบลาบลา...บ่ต้อง
ร้าวนั้นปล่อยร้างคา...ขมขื่น
ปืนต่อปืนแผดก้อง...โห่ร้องเร็ววา
แดนอาณัติแหว่งให้...ปัญหา
ดินต่อดินกึ่งพา...ประโยชน์ได้
เขตต่อเขตขีดมา...มาตรขยับ เวยพ่อ
ตาต่อตาสอดไส้...สวบขย้ำโมโห
โอ้...อัปสรารื้นน้ำ...ตานวล
แลอิทธิฤทธิ์อิศวร...แน่ไซร้?
เร่งเกษียรสมุทรกวน...อำมฤต
อมตะกลับยังให้...ทอดเรื้อกลียุค
...
...จึงป่นแดนมนุษย์แผ้ว…ถากไว้บวงสรวง...
ศิขรินเสียดเมฆ-ฟ้า…โอบพลัน มะมา
อากาศเจียดแบ่งปัน…เพื่อนข้า
ดาวเดือนแจ่มข้ามมัน…สองฝั่ง
สูรย์ส่องยังผืนหล้า...เท่าชั้นเทียมเห็น
สืบพงศ์เป็นว่านเหย้า..เถาเครือ
เลือดพี่น้องย่อมเจือ...แทรกบ้าง
วิภาษขาดเกินเหลือ...เผื่อแผ่ ถ้อยนอ
ดองรักแลเกลียวสร้าง...อดีตนั้นหอมหวาน
สัญญะคานซบใช้...หลักใจ
น้ำหนักหนักกับใคร...ถ่วงตุ้ม
ตรีมุขประทับไสว...สันติสุข
บัดเมฆขมุกขมัวคลุ้ม...มืดนั้นใคร่ใคร
เทือกไพรดงรักช้ำ…กลัดหนอง
พนมนิ่งประหนึ่งประคอง…พุ่มนั้น
ปราสาทยอดภูหมอง...โถมหมอก
ฟ้าแหวกอ้อมอกบั้น…แผ่นชั้นทองปลิว
ลิ่วลิ่วมาเร่าร้อน…สะบัดณรงค์
ฤาศิวะประสงค์…เลือกแล้ว
วิบุลบ่จำนง…สาระสืบ สรรแล
จึงป่นแดนมนุษย์แผ้ว…ถากไว้บวงสรวง
ลมลวงพัดแผกนั้น...ร้อนรน
แลงเก่ากาลอดทน...ร่อนแล้ว
เทวสถานพบภูตปน...ผสมสู่
กองพะเนินเทินทแกล้ว..เรียกร้องชำระ
ผงะศพแร้งลากทึ้ง…อึงคนึง ฉาวเวย
หึ่งหึ่งแมลงวันอึง…เสพโอ้
ต่องแต่งม่องเท่งทึง…อุจาด
เย้ยยั่วยั้วหนอนโหร้…ผุดเหน้าพะนอเนื้อ
เถือพลิกเศษกระดูกกร้าว…ขาวโพลน
หมาถ่อยกระชากโยน…ถ่มก้าง
ฟุดฟิดกลิ่นโทนโทน…เห็นอยู่
บอดจมูกยังคั่งค้าง…เน่านั้นชวนหลอน
ก่อนศพคงโอดโอ้...ทุรนทุราย
สุ่มสุ่มสวดมนต์หมาย...จะพ้น
เนิบเนิบกระเถิบกาย...ว่าถด แลนา
ร่างแบบแบบทะลักล้น...เลือดแค้นใครหวา
นัยน์ตาเหลือกร่างดิ้น ...ทุลักทุเล
เถ้าถ่านเพลิงแค้นเห...หลบให้
เห็นตาเพื่อนมองเฉ...ไปอื่น
จ่อปากตะโกนใกล้...เรียกแล้วบ่หัน
ควันโชยจึ่งรับรู้...ว่าไฟ
สำลักเลือดเกินไหว...ปอดต้าน
แรงใจใคร่ใช้ไป...ใกล้หมด แล้วเอย
คีย์บอร์ดเพื่อนทางบ้าน...หมื่นล้านอักษร
ภมรซุ่มใกล้พุ่ม...มาลี
หวังเกล็ดกลีบมารศรี...สักเสี้ยว
อยากรสกดฤดี...ข่มอยาก สักเดี๋ยวแฮ
หากสบช่องเสพเคี้ยว...อาจเสี้ยวบ่พอ
รอนะกาลอีกใกล้...เผด็จศึก แล้วแม่
เร่งปราบไพรีคึก...ข่มกร้าว
จะกลับเพื่อบันทึก...เราต่อ
จะฉ่ำด้วยอะคร้าว...อะเคื้อจงสงวน
พลันตูมหวนกึกก้อง... กัมปนาท
เกินกว่าอสุนีบาต...ฟาดให้
หมิ่นหมิ่นชะตาขาด...แล้วพ่อ
ผาดผาดว่าใกล้ใกล้...คืบใกล้อวสาน
วืดผ่านศีรษะข้าม...คำราม
ใจหวาดและหวิวตาม...ร่างด้วย
สักครู่หมดโมงยาม...ขานสติ
บึ้มอัดสะบัดย้วย...ฉีกทิ้งสังขาร
อนิจจาจารร่างไล้...สงคราม
สาบอืดคลุมถิ่นคาม...เขตนี้
ปฐพีหมุดนิรนาม...ยังอยู่
เหมือนกลบเพิ่งแต่กี้...พุ่งคลุ้งวิญญาณแค้น
ล่วงเกินแดนไพล่ล้ำ...โทษทัณฑ์
ผลักปากกล้องปืนหัน...ส่องด้วย
ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ดัน...พาดสิทธิ์
ถูกปลิดให้มอดม้วย...เช่นนี้เลวเสมือน
ตาเมือนเบือนพาทใช้...เจรจา
สันติภาพบลาบลาบลา...บ่ต้อง
ร้าวนั้นปล่อยร้างคา...ขมขื่น
ปืนต่อปืนแผดก้อง...โห่ร้องเร็ววา
แดนอาณัติแหว่งให้...ปัญหา
ดินต่อดินกึ่งพา...ประโยชน์ได้
เขตต่อเขตขีดมา...มาตรขยับ เวยพ่อ
ตาต่อตาสอดไส้...สวบขย้ำโมโห
โอ้...อัปสรารื้นน้ำ...ตานวล
แลอิทธิฤทธิ์อิศวร...แน่ไซร้?
เร่งเกษียรสมุทรกวน...อำมฤต
อมตะกลับยังให้...ทอดเรื้อกลียุค
...