วันที่1
อยากขลิบมานานแล้ว แต่ยังกล้าๆกลัวๆ จนวัย35แล้ว พอดีได้หยุดยาว มีโอกาสเหมาะเตรียมใจเจ็บตัวในวันหยุด
เข้าไปที่คลีนิคย่านบางกะปิ ไปตอนเที่ยง บอกหมอจะมาขลิบไร้เลือด หมอก็อธิบายข้อดีข้อเสีย บอกส่วนมากลูกค้ามาขลิบแบบธรรมดา 7500 บาท แผลสวยเหมือนกัน แต่จะหายช้ากว่าขลิบไร้เลือด อยู่ที่ฝีมือหมอ หมอควบคุมลงมีด ส่วนขลิบไร้เลือด อุปกรณ์ควบคุมหมอ ครอบเข้าไปแล้วหมอไม่เห็น กดตัดหนังแม็กเย็บเองตามอุปกรณ์ มีไรก็โทษอุปกรณ์นะ(หมออัธยาศัยดีเหมือนพูดเล่น แต่ตรูลังเลแล้ว ที่ฟังมา หมอไม่อวยขลิบไร้เลือดให้ตรูมีกำลังใจเลย ถึงแม้จะแพงกว่า) หมอบอกนัดขลิบบ่าย3 ค่อยมาบอกอีกทีจะตัดสินใจขลิบแบบไหน
กลับบ้าน ที่ตั้งใจตั้งนาน หาข้อมูลไหม่แบบไหนดีกันวะ ทั้งรีวิว ทั้งAi เทไปทางขลิบไร้เลือด น่าจะเจ็บน้อยกว่าหลังขลิบ จัดไปเลยงั้น
บ่าย3 มาตามนัด ผู้ช่วยหมอพาขึ้นเตียง บอกให้เอาโทรศัพท์มาเล่นได้ หมอฉีดยาชา ค่อยๆถามว่ายังรู้สึกเจ็บไหม น่าจะ5จึกได้ ไม่เจ็บอย่างที่อ่านรีวิวให้กลัวเลยแหะ ฉีดยาชาถอนฟันเจ็บกว่าเยอะมาก ต่อไปไม่รู้สึกอะไรละ หมอบอกตัดเส้นสองสลึงเรียบร้อย ต่อมาหมอเอาเครื่องขลิบครอบ เล็งๆโน้นนี่นั่น 15นาทีมั้งเสร็จแล้ว พันแผล จ่ายยา สอนทำแผล กลับบ้าน มีไรก็ถ่ายรูปถามทางไลน์ได้(ช่วงนี้ไม่เจ็บ เคยอ่านรีวิวมาเขาบอกจะน้ำตาเล็ดตอนยาชาหมดฤทธิ์สินะ)
กลับถึงบ้าน นอนเตรียมรับดาเมจ 4โมงครึ่ง ยาชาหมดเริ่มเจ็บแล้ว ก็เจ็บอยู่นะแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเจ็บมากเท่าไรเหมือนที่อ่านรีวิว ปวดไมเกรนเจ็บกว่าอีก กินพารากันไว้เพิ่มเติม
เข้านอน ตื่นขึ้นมาตี1 ว่าจะตื่นมากินยาพาราดักไว้อีก (ปกติยาหมดฤทธิ์ซัก4ชั้วโมงจะเจ็บ) เอ้า ทำไมไม่เจ็บแล้ววะ) ไม่เจ็บก็ไม่กินยาพาราเข้านอนต่อ (ยาแก้อักเสบกินปกติ)
วันที่2.
ตื่นมาน้องก็ไม่รู้สึกเจ็บ เลยออกไปทำธุระข้างนอก แผลไม่เจ็บแต่ไปเจ็บที่หัวเสียดสีแทน ที่เดินลำบากเพราะเจ็บหัว ฉี่ลำบากหน่อย
วันที่3
แผลขลิบก็ยังไม่เจ็บ แต่หัวซ้ำคล้ำเชียว โดนกางเกงมีร้องโอ้ย (เกิดมา35ปีมีหนังคอยคุมหัวตลอด หัวยังชมพูอยู่เลย(เรื่องจริง😅) ไม่ชินกับหัวเปิด หาทิชชู่นุ่มๆมาห่อเวลาออกไปข้างนอกไปก่อน
วันที่4
ครบ3วันหมอนัด (เคยอ่านรีวิวมาต้องเจ็บอีกนี้แหละ)
ผู้ช่วยหมอแกะผ้าก็อต เจ็บจิ๊ด เจ็บจริงครั้งนี้ ผู้ช่วยหมอล้างแผล หมอมาตรวจเช็คบอกเรียบร้อยดี (แต่สังเกตุด้านบนแม็กเย็บซิลิโคนเรียงปกติไม่มีแผล แต่ด้านล่างถัดเส้นสองสลึงลงมามีแผล กว้างประมาณ1x1เซ็น ) แสบตรงนี้แหละ
กลับบ้าน กินยานอน ตอนนี้ไม่เจ็บแผลอีกแล้วละ (แอบงงอยู่มีแผลอยู่ทำไมไม่เจ็บ) แต่ยังเจ็บที่หัวอยู่
วันที่5
ตื่นมาไม่เจ็บที่แผลขลิบ แต่ยังเจ็บที่หัวเหมือนเดิม หมอบอกอาบน้ำโดนน้ำได้แล้ว แต่ยังไม่วางใจอาบน้ำแบบไม่ให้แผลโดนน้ำดีกว่า
ล้างแผลเอง ใส่น้ำเกลือให้ชุ่มๆจะได้แกะผ้าก็อตง่ายๆ
ซื้อวาสลีนสีเขียวทาที่หัวกับบริเวณรอบๆที่ไม่ใช่แผลก็ดีขึ้นหน่อย
วันที่6
ยังปกติ เหมือนวันที่5 หัวที่เจ็บซ้ำค่อยๆดีขึ้น ไม่เจ็บแผลขลิบ เจ็บจิ๊ดๆนิดหน่อยตอนแกะผ้าก็อตล้างแผล ตรงที่มีแผลด้านล่างเหมือนว่าแม็กจะจมไปในแผลครึ่งหนึ่ง ค่อนข้างหนักใจ
วันที่7
แผลขลิบไม่เจ็บเช่นเดิม หัวก็ไม่ค่อยเจ็บแล้ว (เพิ่งฉลาดเอาผ้าก็อตแบบยืดมาคลุมหัวแทนเวลาไปข้างนอก)
สิ่งที่น่ากลัวจากที่อ่านรีวิวก็มาถึง ตี3น้องตื่น โอ้โห แม็กรอบๆเหมือนเอามีดมาจ่อที่รอบน้อง แล้วขู่ถ้าขยายขึ้นอีกมีน้องขาดแน่ เจ็บจนร้องซี๊ด หลับตานึกถึงสิ่งน่ากลัว ก็ไม่หาย เปิดมือถือพิมพ์ค้นหา อสุภะ ค่อยยังชั่วน้องหดลงละ แต่ภาพอสุภะน่ากลัว

นอนหลับต่อ ตี 4 ตี 5 น้องก็ตื่นอีก เปิดมือถือวนไป (แฟนนอนอยู่ข้างๆก็งง มันทำอะไร)
วันที่8
จากที่แผลขลิบไม่เจ็บ เริ่มเจ็บเล็กน้อยผลจากน้องชายตื่น มีแผลปริเลือดซึมนิดหน่อย ตอนล้างแผลก็จะแสบหน่อย นอนกลางวันน้องก็ตื่น ตี4ตี5จากที่ไม่เคยฝันดี ก็ฝันดีซะงั้น ดีนะหยุดกลางคันตื่นมาสงบใจได้ เปิดมือถือดูอสุภะวนไป😅
วันที่ 9-12
ยังคงเหมือนเดิมคล้ายวันที่8 ช่วงนี้อดทนเฉพาะตอนน้องตื่น ตื่นทุกวัน อดทนรอแผลแห้ง รอซิลิโคนกับแม็กหลุด เหมือนใกล้จะหลุดแล้ว น้องจะได้เป็นอิสระซักที (คิดในใจทำไมใส่ซิลิโคนให้วงเล็กจัง ไซส์น้องก็ใหญ่อยู่รัดซะแน่นทำให้น้องบวมๆ)
ลองอาบน้ำให้น้ำโดนแผล แผลเปื่อย อย่าให้โดนน้ำจะดีกว่า หรือโดนแปบเดียวไม่ถึงนาที ผมเล่นอาบน้ำสระผมเกือบ5นาทีได้
วันที่ 13-16
ยังเหมือนเดิม แผลปรินิดหน่อย เพราะน้องแข็งตัวบ่อยเหมือนเดิม แต่แผลดีขึ้น เหมือนแม็กจะหลุดจากหนังแล้วบางส่วนแต่ยังติดที่ซิลิโคน อยากจะเอากรรไกรตัดซิลิโคนออกจริง ปล่อยไว้ก็รัดน้องแน่น แถมแม็กทิ่มอีก😵💫รอนิดหน่อยดีกว่าตามหมอแนะนำ
วันที่17-19
แผลแห้งดีขึ้น เส้นสองสลึงไหมเริ่มละลายจะหมดละ ตัดสินใจใช้กรรไกรตัดซิลิโคนออก เพราะมันไม่ติดกับหนังละ ตัดออกครึ่งเดียวก่อน อีกครึ่งยังติดหนังอยู่ เก็บไว้ก่อน (ในเอกสารหมอบอกรอหลุดเอง 3-4สัปดาห์ ถ้าเกินนี้ไม่หลุดเองพิจารณาดูแผลและตัดเองได้)
หลังตัดแล้วแข็งตัวไม่ค่อยเจ็บแล้วแหะ ตรงที่เคยบวมก็ค่อยๆยุบลง
แต่ความซวยปรากฎ นี่ก็อีก1ข้อเสียของขลิบไร้เลือด คือเห็นแม็กฝั่งในเนื้อ 3ชิ้น สะกิดไม่ออก แม็กอื่นจะฝั่งติดกับซิลิโคน หลุดออกพร้อมซิลิโคนแผลสวยงาม แต่3อันนี้มันเย็บหลุดนอกซิลิโคนฝั่งที่เนื้อ (หนักใจสงสัยต้องไปหาหมอเอาออกเจ็บตัวอีกรอบ)รอดูมีเหลือก่อนค่อยไปทีเดียว
วันที่20
ซิลิโคนยังติดอยู่ สังเกตุแม็กเย็บไม่ตรงอีกด้านฝังที่เนื้อทำให้หลุดช้า เก็บไว้ก่อน ล้างแผลพันแผลรอดูวันต่อไป
วันที่ 21
ซิลิโคนหลุดแล้ว แต่เหลือแม็กจมติดโคนน้อง รวมทั้งหมดแล้ว 5แม็ก
สะกิดๆจะเจ็บไม่ออก (พรุ่งนี้เตรียมไปหาหมอ)
วันที่22
ล้างแผลตอนสายๆก่อนจะไปหาหมอ ลองสะกิดๆแม็กก็เริ่มออกนี่นาแต่เจ็บจิ๊ดๆ เจ็บก็หยุดเริ่มใหม่ (คิดในใจ ทนเอาออกเองดีกว่างั้น มือหมอเจ็บกว่านี้แน่หรืออาจต้องฉีดยาชา) สุดท้ายก็ออกเองหมด งมอยู่นานเหมือนกัน อารมณ์เหมือนเบ็ดติดที่ปากปลาค่อยๆแงะออก😵💫
หมดพันธนาการน้องชายแล้ว โล่งแล้วทีนี้ รอวันใช้งานได้ รู้สึกตอนแข็งตัวยังตึงๆเจ็บๆอยู่หรือหมอขลิบหนังตึงเกินไป
รออัปเดตต่อไป
ขลิบไร้เลือด+ซิลิโคน+ตัดเส้นสองสลึง 12,000 บาท
สามารถส่งรูปถ่ายปรึกษาหมอทางไลน์ได้ตลอด (ผมส่งครั้งเดียวให้หมอดูแผล1x1cm นอกนั้นยังไม่ค่อยพบปัญหา)
รีวิว ขลิบไร้เลือดและติดตามอาการ
อยากขลิบมานานแล้ว แต่ยังกล้าๆกลัวๆ จนวัย35แล้ว พอดีได้หยุดยาว มีโอกาสเหมาะเตรียมใจเจ็บตัวในวันหยุด
เข้าไปที่คลีนิคย่านบางกะปิ ไปตอนเที่ยง บอกหมอจะมาขลิบไร้เลือด หมอก็อธิบายข้อดีข้อเสีย บอกส่วนมากลูกค้ามาขลิบแบบธรรมดา 7500 บาท แผลสวยเหมือนกัน แต่จะหายช้ากว่าขลิบไร้เลือด อยู่ที่ฝีมือหมอ หมอควบคุมลงมีด ส่วนขลิบไร้เลือด อุปกรณ์ควบคุมหมอ ครอบเข้าไปแล้วหมอไม่เห็น กดตัดหนังแม็กเย็บเองตามอุปกรณ์ มีไรก็โทษอุปกรณ์นะ(หมออัธยาศัยดีเหมือนพูดเล่น แต่ตรูลังเลแล้ว ที่ฟังมา หมอไม่อวยขลิบไร้เลือดให้ตรูมีกำลังใจเลย ถึงแม้จะแพงกว่า) หมอบอกนัดขลิบบ่าย3 ค่อยมาบอกอีกทีจะตัดสินใจขลิบแบบไหน
กลับบ้าน ที่ตั้งใจตั้งนาน หาข้อมูลไหม่แบบไหนดีกันวะ ทั้งรีวิว ทั้งAi เทไปทางขลิบไร้เลือด น่าจะเจ็บน้อยกว่าหลังขลิบ จัดไปเลยงั้น
บ่าย3 มาตามนัด ผู้ช่วยหมอพาขึ้นเตียง บอกให้เอาโทรศัพท์มาเล่นได้ หมอฉีดยาชา ค่อยๆถามว่ายังรู้สึกเจ็บไหม น่าจะ5จึกได้ ไม่เจ็บอย่างที่อ่านรีวิวให้กลัวเลยแหะ ฉีดยาชาถอนฟันเจ็บกว่าเยอะมาก ต่อไปไม่รู้สึกอะไรละ หมอบอกตัดเส้นสองสลึงเรียบร้อย ต่อมาหมอเอาเครื่องขลิบครอบ เล็งๆโน้นนี่นั่น 15นาทีมั้งเสร็จแล้ว พันแผล จ่ายยา สอนทำแผล กลับบ้าน มีไรก็ถ่ายรูปถามทางไลน์ได้(ช่วงนี้ไม่เจ็บ เคยอ่านรีวิวมาเขาบอกจะน้ำตาเล็ดตอนยาชาหมดฤทธิ์สินะ)
กลับถึงบ้าน นอนเตรียมรับดาเมจ 4โมงครึ่ง ยาชาหมดเริ่มเจ็บแล้ว ก็เจ็บอยู่นะแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเจ็บมากเท่าไรเหมือนที่อ่านรีวิว ปวดไมเกรนเจ็บกว่าอีก กินพารากันไว้เพิ่มเติม
เข้านอน ตื่นขึ้นมาตี1 ว่าจะตื่นมากินยาพาราดักไว้อีก (ปกติยาหมดฤทธิ์ซัก4ชั้วโมงจะเจ็บ) เอ้า ทำไมไม่เจ็บแล้ววะ) ไม่เจ็บก็ไม่กินยาพาราเข้านอนต่อ (ยาแก้อักเสบกินปกติ)
วันที่2.
ตื่นมาน้องก็ไม่รู้สึกเจ็บ เลยออกไปทำธุระข้างนอก แผลไม่เจ็บแต่ไปเจ็บที่หัวเสียดสีแทน ที่เดินลำบากเพราะเจ็บหัว ฉี่ลำบากหน่อย
วันที่3
แผลขลิบก็ยังไม่เจ็บ แต่หัวซ้ำคล้ำเชียว โดนกางเกงมีร้องโอ้ย (เกิดมา35ปีมีหนังคอยคุมหัวตลอด หัวยังชมพูอยู่เลย(เรื่องจริง😅) ไม่ชินกับหัวเปิด หาทิชชู่นุ่มๆมาห่อเวลาออกไปข้างนอกไปก่อน
วันที่4
ครบ3วันหมอนัด (เคยอ่านรีวิวมาต้องเจ็บอีกนี้แหละ)
ผู้ช่วยหมอแกะผ้าก็อต เจ็บจิ๊ด เจ็บจริงครั้งนี้ ผู้ช่วยหมอล้างแผล หมอมาตรวจเช็คบอกเรียบร้อยดี (แต่สังเกตุด้านบนแม็กเย็บซิลิโคนเรียงปกติไม่มีแผล แต่ด้านล่างถัดเส้นสองสลึงลงมามีแผล กว้างประมาณ1x1เซ็น ) แสบตรงนี้แหละ
กลับบ้าน กินยานอน ตอนนี้ไม่เจ็บแผลอีกแล้วละ (แอบงงอยู่มีแผลอยู่ทำไมไม่เจ็บ) แต่ยังเจ็บที่หัวอยู่
วันที่5
ตื่นมาไม่เจ็บที่แผลขลิบ แต่ยังเจ็บที่หัวเหมือนเดิม หมอบอกอาบน้ำโดนน้ำได้แล้ว แต่ยังไม่วางใจอาบน้ำแบบไม่ให้แผลโดนน้ำดีกว่า
ล้างแผลเอง ใส่น้ำเกลือให้ชุ่มๆจะได้แกะผ้าก็อตง่ายๆ
ซื้อวาสลีนสีเขียวทาที่หัวกับบริเวณรอบๆที่ไม่ใช่แผลก็ดีขึ้นหน่อย
วันที่6
ยังปกติ เหมือนวันที่5 หัวที่เจ็บซ้ำค่อยๆดีขึ้น ไม่เจ็บแผลขลิบ เจ็บจิ๊ดๆนิดหน่อยตอนแกะผ้าก็อตล้างแผล ตรงที่มีแผลด้านล่างเหมือนว่าแม็กจะจมไปในแผลครึ่งหนึ่ง ค่อนข้างหนักใจ
วันที่7
แผลขลิบไม่เจ็บเช่นเดิม หัวก็ไม่ค่อยเจ็บแล้ว (เพิ่งฉลาดเอาผ้าก็อตแบบยืดมาคลุมหัวแทนเวลาไปข้างนอก)
สิ่งที่น่ากลัวจากที่อ่านรีวิวก็มาถึง ตี3น้องตื่น โอ้โห แม็กรอบๆเหมือนเอามีดมาจ่อที่รอบน้อง แล้วขู่ถ้าขยายขึ้นอีกมีน้องขาดแน่ เจ็บจนร้องซี๊ด หลับตานึกถึงสิ่งน่ากลัว ก็ไม่หาย เปิดมือถือพิมพ์ค้นหา อสุภะ ค่อยยังชั่วน้องหดลงละ แต่ภาพอสุภะน่ากลัว
วันที่8
จากที่แผลขลิบไม่เจ็บ เริ่มเจ็บเล็กน้อยผลจากน้องชายตื่น มีแผลปริเลือดซึมนิดหน่อย ตอนล้างแผลก็จะแสบหน่อย นอนกลางวันน้องก็ตื่น ตี4ตี5จากที่ไม่เคยฝันดี ก็ฝันดีซะงั้น ดีนะหยุดกลางคันตื่นมาสงบใจได้ เปิดมือถือดูอสุภะวนไป😅
วันที่ 9-12
ยังคงเหมือนเดิมคล้ายวันที่8 ช่วงนี้อดทนเฉพาะตอนน้องตื่น ตื่นทุกวัน อดทนรอแผลแห้ง รอซิลิโคนกับแม็กหลุด เหมือนใกล้จะหลุดแล้ว น้องจะได้เป็นอิสระซักที (คิดในใจทำไมใส่ซิลิโคนให้วงเล็กจัง ไซส์น้องก็ใหญ่อยู่รัดซะแน่นทำให้น้องบวมๆ)
ลองอาบน้ำให้น้ำโดนแผล แผลเปื่อย อย่าให้โดนน้ำจะดีกว่า หรือโดนแปบเดียวไม่ถึงนาที ผมเล่นอาบน้ำสระผมเกือบ5นาทีได้
วันที่ 13-16
ยังเหมือนเดิม แผลปรินิดหน่อย เพราะน้องแข็งตัวบ่อยเหมือนเดิม แต่แผลดีขึ้น เหมือนแม็กจะหลุดจากหนังแล้วบางส่วนแต่ยังติดที่ซิลิโคน อยากจะเอากรรไกรตัดซิลิโคนออกจริง ปล่อยไว้ก็รัดน้องแน่น แถมแม็กทิ่มอีก😵💫รอนิดหน่อยดีกว่าตามหมอแนะนำ
วันที่17-19
แผลแห้งดีขึ้น เส้นสองสลึงไหมเริ่มละลายจะหมดละ ตัดสินใจใช้กรรไกรตัดซิลิโคนออก เพราะมันไม่ติดกับหนังละ ตัดออกครึ่งเดียวก่อน อีกครึ่งยังติดหนังอยู่ เก็บไว้ก่อน (ในเอกสารหมอบอกรอหลุดเอง 3-4สัปดาห์ ถ้าเกินนี้ไม่หลุดเองพิจารณาดูแผลและตัดเองได้)
หลังตัดแล้วแข็งตัวไม่ค่อยเจ็บแล้วแหะ ตรงที่เคยบวมก็ค่อยๆยุบลง
แต่ความซวยปรากฎ นี่ก็อีก1ข้อเสียของขลิบไร้เลือด คือเห็นแม็กฝั่งในเนื้อ 3ชิ้น สะกิดไม่ออก แม็กอื่นจะฝั่งติดกับซิลิโคน หลุดออกพร้อมซิลิโคนแผลสวยงาม แต่3อันนี้มันเย็บหลุดนอกซิลิโคนฝั่งที่เนื้อ (หนักใจสงสัยต้องไปหาหมอเอาออกเจ็บตัวอีกรอบ)รอดูมีเหลือก่อนค่อยไปทีเดียว
วันที่20
ซิลิโคนยังติดอยู่ สังเกตุแม็กเย็บไม่ตรงอีกด้านฝังที่เนื้อทำให้หลุดช้า เก็บไว้ก่อน ล้างแผลพันแผลรอดูวันต่อไป
วันที่ 21
ซิลิโคนหลุดแล้ว แต่เหลือแม็กจมติดโคนน้อง รวมทั้งหมดแล้ว 5แม็ก
สะกิดๆจะเจ็บไม่ออก (พรุ่งนี้เตรียมไปหาหมอ)
วันที่22
ล้างแผลตอนสายๆก่อนจะไปหาหมอ ลองสะกิดๆแม็กก็เริ่มออกนี่นาแต่เจ็บจิ๊ดๆ เจ็บก็หยุดเริ่มใหม่ (คิดในใจ ทนเอาออกเองดีกว่างั้น มือหมอเจ็บกว่านี้แน่หรืออาจต้องฉีดยาชา) สุดท้ายก็ออกเองหมด งมอยู่นานเหมือนกัน อารมณ์เหมือนเบ็ดติดที่ปากปลาค่อยๆแงะออก😵💫
หมดพันธนาการน้องชายแล้ว โล่งแล้วทีนี้ รอวันใช้งานได้ รู้สึกตอนแข็งตัวยังตึงๆเจ็บๆอยู่หรือหมอขลิบหนังตึงเกินไป รออัปเดตต่อไป
ขลิบไร้เลือด+ซิลิโคน+ตัดเส้นสองสลึง 12,000 บาท
สามารถส่งรูปถ่ายปรึกษาหมอทางไลน์ได้ตลอด (ผมส่งครั้งเดียวให้หมอดูแผล1x1cm นอกนั้นยังไม่ค่อยพบปัญหา)