ทำไมสารบอแรกซ์จึงเป็นเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก

โซเดียมโบเรท (Sodium Borate) หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามน้ำประสานทอง สารบอแรกซ์หรือผงกรอบ โดยสารเคมีชนิดนี้มีลักษณะเป็นผงละเอียดสีขาว ไม่มีกลิ่น ละลายน้ำได้ดี

ในทางอุตสาหกรรมจึงนิยมใช้สำหรับผลิตแก้ว ภาชนะเคลือบ ชุบโลหะ เพราะทำให้วัสดุทนทานต่อความร้อนได้ดีขึ้น หรือแม้แต่ใช้ในการผสมสูตรผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อราเพื่อการดูแลรักษาเนื้อไม้ หรือใช้เป็นตัวประสานเชื่อมทอง เป็นต้นอย่างไรก็ตาม สารบอแรกซ์กลับถูกนำมาใช้ในอาหารบางชนิด เพื่อสร้างความสด กรอบ และความเหนียวนุ่มที่อาบแฝงไปด้วยสารพิษ โดยอาหารที่มักตรวจพบส่วนประกอบของบอแรกซ์ได้แก่ เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อสด   หมูสด หมูบดหรือปลาบด ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเนื้อสัตว์ เช่น ทอดมัน ลูกชิ้น ไส้กรอก หรือหมูยอ อาหารหวาน เช่น ทับทิมกรอบ ลอดช่อง เป็นต้น ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้ดอง หรือผักดอง ดังนั้น หากผู้บริโภคบริโภคอาหารเหล่านี้จำนวนมาก ร่างกายก็จะได้รับสารบอแรกซ์ปริมาณมากตามไปด้วย ซึ่งส่งผลกระทบคือจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ หงุดหงิด ผิวหนังอักเสบ มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ผิวหนังแห้ง หน้าตาบวม เยื่อตาอักเสบ ตับไตอักเสบ เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคมิให้มีการใช้สารดังกล่าวผิดวัตถุประสงค์ คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก จึงได้ออกประกาศ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2544) เรื่อง ให้บอแรกซ์เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ต้องระบุข้อความดังต่อไปนี้ไว้ในฉลากที่ภาชนะบรรจุสินค้าในหน้าเดียวกันคือ “บอแรกซ์”และระบุคำเตือน : “อันตราย อาจทำให้   ไตวาย ห้ามใช้ในอาหาร” โดยใช้ตัวอักษรสีแดงขนาดใหญ่กว่าตัวอักษรอื่น

หากพบเห็นการใช้สารบอแรกซ์ผิดวัตถุประสงค์ สามารถแจ้งเบาะแสมายังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้วยตนเอง หรือผ่านระบบออนไลน์ ทางเว็บไซต์ www.ocpb.go.th หรือทางแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือที่สายด่วน สคบ. 1166   ในต่างจังหวัดสามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดผู้ประกอบธุรกิจที่ขายสินค้าควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากนั้นไม่ถูกต้อง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่