ทรัมป์' มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องไทยและกัมพูชาเพื่ออะไร?

[เรื่อง: กฤษฎา บุญเรือง]

https://www.facebook.com/share/p/1CKZ3YN7Vz/?mibextid=wwXIfr


อ่านสัญญาณ 'ทรัมป์' ต่อสายตรงผู้นำ 'ไทย-กัมพูชา' เรียกร้องทั้งสองฝ่ายหยุดยิง ขู่หากไม่ยุติความขัดแย้งจะไม่ทำดีลการค้าด้วย ผ่านมุมมอง กฤษฎา บุญเรือง นักวิชาการอิสระ

เริ่มต้นที่วอชิงตันดีซี :

ล็อบบี้อิสบริษัทหนึ่งถูกจ้างโดยรัฐบาลกัมพูชาให้เป็นผู้วิ่งเต้นผ่านบุคลากรที่ใกล้ชิดกับคนในทำเนียบขาว จุดประสงค์คือต้องการให้ทีมทรัมป์เอนเอียงไปสนับสนุนกัมพูชาและลงโทษไทย

แต่ความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งในวงการล็อบบี้อิส และเพื่อนมิตรภาพชาวไทยในวอชิงตันดีซีก็มีน้ำหนักเช่นกัน Friends of Thailand in US Congress & DC & others

จึงทำให้เกิดการถ่วงดุลมาที่ตรงกลาง กลายเป็นคำแถลงของทรัมป์ ว่า 'อเมริกา (ทรัมป์) จะเป็นตัวกลางนำมาสู่การหยุดยิง เพื่อลดความเสียหายและสูญเสียเลือดเนื้อ และนำมาสู่สันติภาพโดยเร็วที่สุด'

ความเห็น :

ทรัมป์หวังว่าจะเป็นการสร้างเครดิตให้กับตนเอง โดยมีข้อต่อรองคือภาษีศุลกากรที่กำลังเจรจาอยู่ ซึ่งทั้งไทยและกัมพูชาถือเป็นเรื่องสำคัญและล่อแหลมมากต่อเศรษฐกิจที่เปราะบางของทั้งสองประเทศ

หากทั้งสองประเทศหยุดยิงตามคำขู่ของทรัมป์จริง ก็จะทำให้เขาได้เครดิตอย่างไม่คาดฝัน และอาจเป็นมาตรฐานใหม่ที่เกิดขึ้น หลังจากที่อ้างว่าตนเองเป็นบุคคลที่ทำให้อินเดียและปากีสถานหยุดความขัดแย้งครั้งที่แล้ว

กองเชียร์ที่ประจบประแจงใกล้ชิด 'ใช้รางวัลโนเบลสันติภาพเป็นตัวล่อ' ให้ทรัมป์แถลงการณ์โดยด่วน ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ทั้งที่รู้กันทั่วไปว่าทรัมป์เองไม่มีความเข้าใจในเรื่องความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาเลย และไม่ได้ติดตามโดยส่วนตัวด้วยซ้ำไป

และขณะนี้เขากำลังอยู่ในระหว่างการพักผ่อนเล่นกอล์ฟที่สก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าหนีปัญหาจากวอชิงตัน ดีซี เรื่องอื้อฉาวกรณี Jeffrey Epstein ที่นำมาสู่คะแนนนิยมตกต่ำมากถึง 37% ในปัจจุบันและมีข่าวว่าแตกร้าวกับสตรีหมายเลขหนึ่งด้วย

ความมั่นคง :

รักษาการนายกรัฐมนตรีไทยจำเป็นต้องโทรกลับโดยด่วนอย่างแน่นอน ทั้งนี้เพื่อรักษาความสมดุลย์ทางการเมืองทั้งในและนอกประเทศเอาไว้

และหากไทยเลือกที่จะไม่โทรกลับ เช่น ใช้ข้ออ้างว่าไทยจะจัดการปัญหาเรื่องนี้ระหว่างไทยกับกัมพูชาได้โดยตรงโดยที่ไม่มีประเทศอื่นใดหรือมหาอำนาจจำเป็นจะต้องเข้ามาช่วยเหลือไกล่เกลี่ยนั้นก็คงเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่จะทำให้ทรัมป์เสียหน้าและโกรธ และนำมาสู่การลงโทษเรื่องภาษีศุลกากร

ขณะเดียวกันไทยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้อาวุธที่ผลิตโดยสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอาวุธระดับสูงและเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 รวมทั้งเทคโนโลยีการสื่อสารและการข่าวกรองต่างๆ ซึ่งไทยจำเป็นจะต้องได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาต่อไป

และเรื่องนี้จะกลายเป็นความซ้ำซ้อนกับข่าวลือเรื่องสหรัฐกดดันให้ไทยยอมเปิดฐานทัพเรือที่พังงาเพื่อให้ความสะดวกต่อสหรัฐมากขึ้น ถึงขั้นที่จะนำบุคลากรมาประจำการโดยถาวร เพื่อเป็นการปิดกั้นอิทธิพลของจีนตามนโยบายอินโดแปซิฟิก หรืออย่างน้อยข่มขู่จีนในบริเวณอ่าวเบงกอลและเป็นเครื่องมือในการแทรกแซงกิจกรรมในเมียนมา

สรุปคือ 'รัฐบาลไทยคงอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก' และเมื่อเจรจากับสหรัฐแล้วไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็จะถูกคำวิจารณ์อย่างรุนแรงในประเทศอย่างแน่นอน

อีกประการหนึ่งคือบทบาทของจีนที่ได้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเช่นกัน และจีนจะถอดบทเรียนที่อเมริกาแทรกแซงครั้งนี้โดยด่วน เพื่อเตรียมรับมือกับกลวิธีรุกของสหรัฐในกรณีอินเดียปากีสถานและไทยกับกัมพูชา เป็นต้น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่