มันแปลกดีนะ ที่บางบทสนทนามันไม่ต้องใช้เสียงดังหรือคำที่ยาวเหยียดเพื่อจะกรีดลึกเข้าไปในใจเรา… แค่คำว่า “Forgive me” ของซาสึเกะ ก็เหมือนแบกเอาทุกบาป ความล้มเหลว และการยอมจำนนในฐานะ “ผู้ใหญ่ที่ควรปกป้อง” มาวางไว้ตรงหน้าโบรูโตะ แต่เด็กคนนั้น… เขากลับมองผ่านมันไป เห็นเพียง “พี่ชาย” ที่ยอมรับบาปแทนเขาโดยไม่ลังเล
มันเป็นความสัมพันธ์ที่เกินกว่าคำว่าอาจารย์-ศิษย์ หรือพ่อ-ลูก พวกเขาเหมือนกระจกสะท้อนกันและกัน ทั้งสองต่างรู้ดีว่าโลกนี้มันไม่แฟร์ และบางครั้งความจริงก็เลวร้ายเกินกว่าจะอธิบาย เพราะ “ถูก” กับ “จำเป็นต้องทำ” มันไม่เคยอยู่ฝั่งเดียวกันเลย
โบรูโตะไม่อยากให้คาวากิถูกเกลียด ซาสึเกะเองก็ไม่อยากให้เด็กที่เขาสัญญาจะปกป้องต้องรับความเกลียดชังนั้นไปแทน แต่โลกภายนอกโหดร้ายเกินกว่าจะให้ความจริงค่อยๆ ถูกเข้าใจ จึงต้องมี “แพะรับบาป” เพื่อให้สังคมสงบ… และซาสึเกะที่เคยแบกบาปมาทั้งชีวิต ก็เลือกจะทำมันอีกครั้งโดยไม่ลังเล
โบรูโตะเองก็ไม่ใช่เหยื่อที่ร้องขอความเห็นใจ เขาเป็นเด็กที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วเกินวัยเพราะโลกมันบังคับ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคาวากิก็ซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายด้วยตรรกะธรรมดา เขารู้ดีว่าคาวากิไม่ได้ผิดทั้งหมด แต่คนก็ยังโทษ และเขาก็เลือกจะเงียบ แบกรับความเข้าใจผิดทั้งหมดไว้ เพราะเขา "เข้าใจ" เข้าใจโลก เข้าใจคน เข้าใจว่าบางอย่างมันไม่ได้ยุติธรรม แต่ก็ต้องมีใครยอมรับไว้บ้าง เพื่อให้สิ่งอื่นเดินหน้าต่อได้
มันเศร้านะ… ที่ “การยอมรับความเกลียดชัง” กลายเป็นความรักรูปแบบหนึ่ง ที่พวกเขาไม่เคยพูดออกมาตรงๆ แต่รู้สึกได้ผ่านสายตา ผ่านคำพูดสั้นๆ และความเงียบที่เต็มไปด้วยน้ำหนัก
สุดท้ายสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ คือการส่งต่อบางอย่างเล็กน้อย แค่ผ้าคาดหัวเก่าๆ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพัน ที่อาจไม่ต้องเข้าใจทั้งหมด แต่จะถูกจดจำไปตลอดชีวิต
เพราะบางครั้ง การเป็นพี่น้อง ไม่ได้ต้องการคำว่า “สมบูรณ์แบบ” แค่ยอมรับกัน… แม้ในวันที่โลกทั้งใบหันหลังให้ก็พอ
มันไม่ใช่แค่เรื่องของนินจา หรือภารกิจ แต่เป็นเรื่องของ "คน" ที่ยังพยายามเชื่อในคำว่า "พวกพ้อง" แม้โลกจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม..
#Naruto #Boruto #นารูโตะ #โบรูโตะ
#BorutoTwoBlueVortex
ซาสึเกะขอโทษโบรูโตะ… ยอมรับว่าตัวเองล้มเหลวในฐานะผู้ใหญ่!
มันเป็นความสัมพันธ์ที่เกินกว่าคำว่าอาจารย์-ศิษย์ หรือพ่อ-ลูก พวกเขาเหมือนกระจกสะท้อนกันและกัน ทั้งสองต่างรู้ดีว่าโลกนี้มันไม่แฟร์ และบางครั้งความจริงก็เลวร้ายเกินกว่าจะอธิบาย เพราะ “ถูก” กับ “จำเป็นต้องทำ” มันไม่เคยอยู่ฝั่งเดียวกันเลย
โบรูโตะไม่อยากให้คาวากิถูกเกลียด ซาสึเกะเองก็ไม่อยากให้เด็กที่เขาสัญญาจะปกป้องต้องรับความเกลียดชังนั้นไปแทน แต่โลกภายนอกโหดร้ายเกินกว่าจะให้ความจริงค่อยๆ ถูกเข้าใจ จึงต้องมี “แพะรับบาป” เพื่อให้สังคมสงบ… และซาสึเกะที่เคยแบกบาปมาทั้งชีวิต ก็เลือกจะทำมันอีกครั้งโดยไม่ลังเล
โบรูโตะเองก็ไม่ใช่เหยื่อที่ร้องขอความเห็นใจ เขาเป็นเด็กที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วเกินวัยเพราะโลกมันบังคับ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคาวากิก็ซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายด้วยตรรกะธรรมดา เขารู้ดีว่าคาวากิไม่ได้ผิดทั้งหมด แต่คนก็ยังโทษ และเขาก็เลือกจะเงียบ แบกรับความเข้าใจผิดทั้งหมดไว้ เพราะเขา "เข้าใจ" เข้าใจโลก เข้าใจคน เข้าใจว่าบางอย่างมันไม่ได้ยุติธรรม แต่ก็ต้องมีใครยอมรับไว้บ้าง เพื่อให้สิ่งอื่นเดินหน้าต่อได้
มันเศร้านะ… ที่ “การยอมรับความเกลียดชัง” กลายเป็นความรักรูปแบบหนึ่ง ที่พวกเขาไม่เคยพูดออกมาตรงๆ แต่รู้สึกได้ผ่านสายตา ผ่านคำพูดสั้นๆ และความเงียบที่เต็มไปด้วยน้ำหนัก
สุดท้ายสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ คือการส่งต่อบางอย่างเล็กน้อย แค่ผ้าคาดหัวเก่าๆ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพัน ที่อาจไม่ต้องเข้าใจทั้งหมด แต่จะถูกจดจำไปตลอดชีวิต
เพราะบางครั้ง การเป็นพี่น้อง ไม่ได้ต้องการคำว่า “สมบูรณ์แบบ” แค่ยอมรับกัน… แม้ในวันที่โลกทั้งใบหันหลังให้ก็พอ
มันไม่ใช่แค่เรื่องของนินจา หรือภารกิจ แต่เป็นเรื่องของ "คน" ที่ยังพยายามเชื่อในคำว่า "พวกพ้อง" แม้โลกจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม..
#Naruto #Boruto #นารูโตะ #โบรูโตะ
#BorutoTwoBlueVortex