พล.อ.ณัฐพล ชี้ปมทุ่นระเบิด เขมรผิดแน่ๆ 2 เรื่อง ยื่นฟ้องกก.ออตตาวาธ.ค.นี้ ยันรัฐไม่ได้ทำงานช้า https://www.matichon.co.th/politics/news_5284226
.
.
‘พล.อ.ณัฐพล’ ระบายปมชายแดนไทย-กัมพูชา ปัดรัฐทำงานช้า แต่ต้องทำตามขั้นตอน ระบุกรณีทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เก็บหลักฐานเพียงพอแล้ว รอฟ้อง กก.ออตตาวา ธ.ค.นี้
.
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 21 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.
ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดระหว่างลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกว่า อยากให้สื่อเข้าใจว่าการทำงานของภาครัฐต้องทำตามขั้นตอน เพราะหากพูดอะไรไปก่อนตามความคิดหรือความเชื่อ และหากมีเหตุผลว่าไม่ใช่ ทีหลังต่อไปสื่อจะไม่เชื่อคำพูดตน จึงขอความเห็นใจจากเรื่องนี้
.
พล.อ.
ณัฐพลกล่าวว่า ดูตามโซเชียลในช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา มีสื่อหลายสำนัก หลายนักวิชาการด่าว่าทำงานช้า ไม่ทันใจเท่ากับ สมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หรือ ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา อยากบอกว่าทั้งฮุน เซน และฮุน มาเนต โพสต์ทางโซเชียล ถ้าไม่ใช่เขาลบออกได้ แต่เราจะทำตัวแบบนั้นไม่ได้ ถ้าทำอย่างนั้นเราจะศีลเสมอกัน ซึ่งระหว่างที่ตนปฏิบัติหน้าที่ การพูดอะไรแต่ละครั้งจะต้องใช่หรือถูกมากที่สุด อาจจะผิดพลาดได้แต่ต้องน้อยที่สุด นั่นคือสิ่งที่พยายามยึดถืออยู่
.
พล.อ.
ณัฐพลกล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม ได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 18 ก.ค. เพราะมีความห่วงใย และได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารีเข้าสำรวจเพิ่มเติมเพื่อจะต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเพราะอะไรถึงบอกว่าใหม่ ถ้าบอกว่าในพื้นที่นี้กวาดล้างแล้ว ฉะนั้น ที่เจอน่าจะเป็นของใหม่ เหตุผลที่เราจะต้องตอบให้ได้คือเราเจอในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ นอกจากลูกนั้นมีลูกอื่นอีกหรือไม่ และที่วางคืออะไร ไทยมีใช้หรือไม่ หรือมีใช้เฉพาะกัมพูชา เลยสั่งให้สำรวจ
.
พล.อ.
ณัฐพลกล่าวว่า การสำรวจตรวจค้นทุ่นระเบิดไม่ใช่การหาของในสนามหญ้า ต้องค่อยเป็นค่อยไป ถ้าเราไปเร่งรัดมาก ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจค้นเกิดประสบอุบัติเหตุอีก ตนจะถูกตำหนิอีกว่าเรื่องแบบนี้ทำไมเร่งรัด จึงอยากให้รีบ แต่ต้องรอบคอบ และเห็นแก่ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ โดยจากการสั่งการไป ตนขอเวลาสัก 3 วันได้หรือไม่ เพราะสังคมอยากทราบ ซึ่งเขาสามารถจบภารกิจได้ภายใน 3 วัน ตรวจค้นได้อีก 2 จุด เพิ่มอีก 7-8 ทุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนต้องการ เมื่อทราบว่ามีจุดอื่นๆ ที่วางไว้อีก ได้ทราบชนิดของทุ่นระเบิดด้วยว่าเป็น PMN-2 ซึ่งเราไม่เคยมีใช้ เราไม่เคยใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 ที่เป็นของรัสเซีย จึงเป็นสิ่งยืนยันว่าที่วางระเบิดเป็นของประเทศอื่น ไม่ใช่ของเราแน่นอน
.
พล.อ.
ณัฐพลกล่าวอีกว่า อีกประการหนึ่ง เราต้องตอบสังคมโลกให้ได้ว่าที่มาวางคือของใหม่ มีวิธีดู 2 อย่างคือ 1.จุดที่วาง ถ้าใหม่ การกลบร่องรอยจะเป็นของใหม่ แต่หากเป็นของเก่า หญ้าหรือวัชพืชจะขึ้นมาเลย แต่จุดที่เราตรวจพบเป็นลักษณะเอาเศษวัชพืช เศษใบไม้มาวางคลุมไว้ และ 2.ทุ่นระเบิดที่เราตรวจพบ ถ้าทุ่นเก่า ส่วนที่เป็นโลหะจะเป็นสนิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบและกู้ขึ้นมาพบว่าส่วนที่เป็นโลหะยังวาวอยู่ ดังนั้น ถ้าเราทำงานอย่างนี้จะไม่มีใครมาเถียงเราได้ และสามารถชี้แจงได้ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ก.ค. ภารกิจขั้นต้นได้จบลงแล้ว แต่ยังตรวจค้นต่อไป แค่นี้หลักฐานเราก็เพียงพอแล้ว
.
รมช.กลาโหมกล่าวว่า ถ้านับเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. ที่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ 5 วันได้ถึงขนาดนี้ ในประสบการณ์ชีวิตรับราชการของตน ถือว่าเร็วแล้ว ซึ่งการประชุมคณะกรรมการออตตาวาจะมีขึ้นประมาณเดือน พ.ย.-ธ.ค.68 เพราะฉะนั้น การส่งฟ้อง หากส่งฟ้องวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือวันนี้มีค่าเท่ากัน เพราะต้องรอเดือน ธ.ค.68 สู้เราทำสำนวนให้รอบคอบไม่ดีกว่าหรือ นี่คือสิ่งที่ ศบ.ทก.ยึดถืออยู่ เพราะถ้าเราทำสำนวนไปไม่รอบคอบ ศาลไม่รับฟ้อง สำนวนก็ตก หรือทำไปแล้ว กัมพูชาสามารถโต้กลับมาได้ เราก็จะเสียความน่าเชื่อถือไป
.
รมช.กลาโหมกล่าวด้วยว่า ตรงนี้คือสิ่งที่ตนห่วงใยมากกว่า จึงขอให้เข้าใจหน่วยงานภาครัฐ ไม่ใช่ได้ข่าวมาแล้วจะมาตำหนิหน่วยงานภาครัฐว่าทำไมช้า สื่อได้ข่าวมาแล้วจะตำหนิ
ฮุน เซน ฮุน มาเนต หรือกัมพูชาไปตนไม่ว่า คนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน แต่ได้ข่าวมาแล้วกลับมาตำหนิภาครัฐ ตรงนี้ที่อยากขอความเห็นใจ เพราะภาครัฐต้องทำงานตามขั้นตอน รัดกุม ถ้าทำแล้วพลาดจะมาตำหนิตนอีกว่าทำไมไม่รอบคอบ
.
รมช.กลาโหมกล่าวอีกว่า งานของ ศบ.ทก.และกระทรวงกลาโหมไม่ใช่แค่งานเรื่องทุ่นระเบิดเรื่องเดียว เราดูแม้กระทั่งสวัสดิการของน้องทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิการว่าจะทำอย่างไร เราคิดอยู่ตลอด ฉะนั้น คนที่รับผิดชอบ ปัญหาจะมาหลายทาง ตอนนี้ตนเองเหมือนหมาวิ่งกัดเห็บที่หางตัวเอง คือพยายามทำให้ดีที่สุด
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นฟ้องคณะกรรมการออตตาวา ยื่นในนามรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.
ณัฐพลกล่าวว่า เป็นการดำเนินการในนามกระทรวงการต่างประเทศ แต่อยู่ภายใต้การอำนวยการของ ศบ.ทก. หลังจากที่ประชุม ศบ.ทก.เห็นชอบ กระทรวงการต่างประเทศก็จะดำเนินการในการทำหนังสือประท้วง แนวทางที่คุยกันไว้คือ นอกจากทำหนังสือประท้วงไปยังออตตาวาแล้ว เรายังประท้วงไปยังกัมพูชาด้วย ซึ่งรายละเอียดขอยังไม่เปิดเผย
.
เมื่อถามว่า หากผลการยื่นร้องต่อคณะกรรมการออตตาวาแล้วชนะ ผลที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมคืออะไร พล.อ.
ณัฐพลกล่าวว่า ในบทลงโทษนั้นไม่ชัดเจน ต้องขึ้นอยู่กับทางออตตาวา แต่ยืนยันว่าปัจจุบันกัมพูชาผิดอยู่ 2 เรื่องแน่ๆ 1.การวางทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งสมาชิกที่มีพันธะกรณีกับอนุสัญญาออตตาวาจะต้องไม่ทำแบบนี้ 2.ยังมีของใหม่อยู่ในครอบครอง ซึ่งสมาชิกของอนุสัญญาจะต้องทำลายทุ่นระเบิด ไม่ว่าจะทำลายหมดทันที หรือค่อยทำลาย อย่างไรต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนว่าจะทำลายหมดเมื่อไหร่ แต่ถ้ายังทำลายไม่หมด และเอามาใช้ก็ผิดแล้ว ที่จริงแล้วตนไม่อยากจะพูดออกสื่อก่อน พูดไปอาจทำให้ทางกัมพูชารู้ว่าตนคิดอะไรอยู่ แต่ต้องเรียนว่าขณะนี้ตนคงต้องยอม อาจจะเสียเปรียบบ้าง คิดว่าเพื่อความได้เปรียบจะไม่บอกอะไร แต่สังคมเป็นอย่างนี้ สื่อมวลชนต้องทำหน้าที่หาข้อมูลตนก็เห็นใจสื่อ จึงต้องให้ข้อมูล และตนทำงานยากขึ้น จะทำงานง่ายๆ สบายๆ ไม่ได้แล้ว
.
“
พูดเลยว่าเขาผิด 2 เรื่อง และจะส่งข้อมูลไปยังประเทศที่เป็นสปอนเซอร์ของกัมพูชา ที่สนับสนุนเงิน ในพันธกรณีที่เกี่ยวกับออตตาวาว่าสนับสนุนเงินเขาไป ปัจจุบันเขาเป็นแบบนี้ ก็แล้วแต่เขาจะพิจารณา ผมถึงได้บอกว่าการที่จะบอกเขา สำนวนเราต้องแน่น ชัดเจนมีภาพให้เห็น มีหลักฐาน ไม่ใช่เพียงแค่มีคนบอกว่าใหม่ เราเคยกวาดล้างมาแล้ว ก็ไม่น่าจะมีของเก่า หากส่งสำนวนไปแค่นี้ สื่อคิดว่าสำนวนจะตกหรือไม่” พล.อ.ณัฐพลกล่าว.
.
.
“นันทนา” ย้ำจุดยืนขอ สว. ชะลอเลือกองค์กรอิสระ หยุดดึงดันทำเพื่อประโยชน์กลุ่มตนเอง
.
“อ.นันทนา” ย้ำจุดยืนขอให้ สว. ชะลอลงมติเลือกองค์กรอิสระ ท่ามกลางคดีฮั้ว ไม่หวั่นแม้ถูกไล่ออกจากห้องประชุม ซัด สว.เสียงข้างมากไม่มีจิตสำนึก หยุดดึงดันทำเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเอง
.
วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงจุดยืนต่อกรณีที่ประชุมวุฒิสภาจะมีการโหวตเลือกองค์กรอิสระในวันพรุ่งนี้ (22 กรกฎาคม 2568) ว่า ต้องฟ้องประชาชนว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 ที่ตั้งร่วมระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้สรุปสำนวนส่งไปยัง กกต.ชุดใหญ่แล้ว ซึ่งมีบุคคลที่ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 229 คน หมายความว่าข้อกล่าวหามีมูลความจริง ใกล้ถึงจุดที่ กกต. จะรับรองและส่งฟ้องศาลอาญาแผนกคดีเลือกตั้ง แต่เหตุใดวุฒิสภายังเดินหน้าที่จะเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระอยู่
.
“จึงขอฟ้องประชาชนว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะคดีงวดเข้ามาแล้ว และตำแหน่งที่กำลังจะลงมติในวันพรุ่งนี้คือ กกต. และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 ท่าน หากมีการเห็นชอบให้บุคคลเหล่านี้เข้าไปดำรงตำแหน่งจะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่างชัดเจน เพราะ กกต. จะมีอำนาจในการส่งฟ้องศาลอาญา ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจในการไต่สวนและวินิจฉัยในเรื่องการได้มาซึ่ง สว.ที่มิชอบ”
.
ขณะเดียวกัน สว.เสียงข้างมาก ได้ทำหน้าที่ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญและ กกต. ในฐานะผู้ร้อง และยังเป็นผู้ถูกร้อง แต่มีอำนาจที่จะส่งคนเข้าไปในองค์กรอิสระ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำโดยจริยธรรม โดยจิตสำนึก ควรชะลอการลงมติไปก่อน ให้คดีของท่านทั้งหลายเป็นที่ยุติว่าบริสุทธิ์จึงค่อยกลับมาลงมติก็ยังไม่สายเกินไป แต่การเร่งรีบเพื่อให้มีการบรรจุญัตติคงทำไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ แต่ความจริงแล้วเป็นประโยชน์แฝงเร้นให้กับตนเองและพรรคพวกของตนเอง
.
น.ส.นันทนา ระบุต่อไปว่า เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาในคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 มี สว. ที่ถูกกล่าวหา 138 คน เท่ากับ 3 ใน 4 ของสภาฯ ท่านยังดึงดันที่จะลงมติเลือกคนที่จะไปพิจารณาและตัดสินคดี สิ่งเหล่านี้เหมาะสมหรือไม่ ประชาชนคงไม่อยากจะเห็นความบิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรมอันเกิดขึ้นมาจากการลงมติของ สว.เสียงข้างมาก ที่ดันทุรังจะใส่คนให้เข้าไปในองค์กรอิสระพิจารณาคดีของตนเอง เป็นความขัดกันของผลประโยชน์อย่างชัดเจน
.
ส่วนกรณีที่มีคนบอกว่าหากไม่ทำก็จะขัดต่อกฎหมายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น น.ส.นันทนา ยืนยันว่าการชะลอการลงมติไม่เข้าข่ายมาตรา 157 ทั้งนี้ มีนักกฎหมายหลายท่านพูดแล้วว่าการที่ สว. จะชะลอการลงมติเห็นชอบบุคลากรในองค์กรอิสระออกไปนั้น เป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย ในขณะที่ตนเองเป็นผู้ถูกกล่าวหาแล้วไปทำหน้าที่ให้คนไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระก็เหมือนกับไปเลือกผู้พิพากษามาตัดสินคดีของตนเอง ขณะที่ประชาชนรอดูอยู่ว่าผลของการตรวจสอบที่มาของ สว. จะเป็นอย่างไร
.
แต่ขณะเดียวกัน สว.เสียงข้างมาก ยังลงมติเพื่อจะเลือกคนที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมเข้าไป และเมื่อเป็นคนที่เหมาะสมของตนเองก็ส่งผลต่อคดีไปในทิศทางบวกให้กับตนเองหรือไม่ การชะลอการลงมติไม่ได้เข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะเมื่อคดีของท่านสิ้นสุดแล้วพบว่า ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านสามารถกลับมาลงมติให้บุคคลในองค์กรอิสระนั้นได้ ถ้าเขาอยู่ครบวาระแล้วไม่มีใครมาแทนหรือสรรหาใครมาเพิ่ม เขาสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะได้คนใหม่
.
“ท่านก็รอสิคะ รอให้คดีของท่านสิ้นสุดก่อนแล้วต่อไป ท่านจะมาลงมติก็ไม่เป็นที่สงสัย เป็นที่คลางแคลงใจของประชาชนใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นยืนยันว่าการชะลอลงมติจะทำให้ สว. สง่างาม เป็นจิตสำนึกที่ดี ท่านกำลังใช้จริยธรรมชั้นสูงในการพยุงรักษากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย จึงเรียกร้องวิงวอนให้ยุติชะลอการลงมติในการเลือก กกต. และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ออกไปก่อน ถ้าท่านตัดสินใจที่จะชะลอประชาชนจะแซ่ซ้องสรรเสริญว่า ท่านทำเพื่อประเทศชาติ แต่ถ้าท่านยังดึงดันที่จะใส่คนเข้าไปในองค์กรอิสระก็แปลว่า ท่านไม่เห็นหัวประชาชน ท่านยังดึงดันที่จะทำเพื่อประโยชน์แห่งท่านและกลุ่มของท่านเท่านั้น”
JJNY : ชี้ปมทุ่น เขมรผิดแน่ๆ 2 เรื่อง ยื่นฟ้อง ธ.ค.นี้│“นันทนา”ย้ำจุดยืน│ส.ว.จี้ถามคืบหน้าแก้รธน.│จับหนุ่มเขมรลอบเข้าไทย
.
‘พล.อ.ณัฐพล’ ระบายปมชายแดนไทย-กัมพูชา ปัดรัฐทำงานช้า แต่ต้องทำตามขั้นตอน ระบุกรณีทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เก็บหลักฐานเพียงพอแล้ว รอฟ้อง กก.ออตตาวา ธ.ค.นี้
.
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 21 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดระหว่างลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกว่า อยากให้สื่อเข้าใจว่าการทำงานของภาครัฐต้องทำตามขั้นตอน เพราะหากพูดอะไรไปก่อนตามความคิดหรือความเชื่อ และหากมีเหตุผลว่าไม่ใช่ ทีหลังต่อไปสื่อจะไม่เชื่อคำพูดตน จึงขอความเห็นใจจากเรื่องนี้
.
พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ดูตามโซเชียลในช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา มีสื่อหลายสำนัก หลายนักวิชาการด่าว่าทำงานช้า ไม่ทันใจเท่ากับ สมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หรือ ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา อยากบอกว่าทั้งฮุน เซน และฮุน มาเนต โพสต์ทางโซเชียล ถ้าไม่ใช่เขาลบออกได้ แต่เราจะทำตัวแบบนั้นไม่ได้ ถ้าทำอย่างนั้นเราจะศีลเสมอกัน ซึ่งระหว่างที่ตนปฏิบัติหน้าที่ การพูดอะไรแต่ละครั้งจะต้องใช่หรือถูกมากที่สุด อาจจะผิดพลาดได้แต่ต้องน้อยที่สุด นั่นคือสิ่งที่พยายามยึดถืออยู่
.
พล.อ.ณัฐพลกล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม ได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 18 ก.ค. เพราะมีความห่วงใย และได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารีเข้าสำรวจเพิ่มเติมเพื่อจะต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเพราะอะไรถึงบอกว่าใหม่ ถ้าบอกว่าในพื้นที่นี้กวาดล้างแล้ว ฉะนั้น ที่เจอน่าจะเป็นของใหม่ เหตุผลที่เราจะต้องตอบให้ได้คือเราเจอในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่ นอกจากลูกนั้นมีลูกอื่นอีกหรือไม่ และที่วางคืออะไร ไทยมีใช้หรือไม่ หรือมีใช้เฉพาะกัมพูชา เลยสั่งให้สำรวจ
.
พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า การสำรวจตรวจค้นทุ่นระเบิดไม่ใช่การหาของในสนามหญ้า ต้องค่อยเป็นค่อยไป ถ้าเราไปเร่งรัดมาก ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจค้นเกิดประสบอุบัติเหตุอีก ตนจะถูกตำหนิอีกว่าเรื่องแบบนี้ทำไมเร่งรัด จึงอยากให้รีบ แต่ต้องรอบคอบ และเห็นแก่ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ โดยจากการสั่งการไป ตนขอเวลาสัก 3 วันได้หรือไม่ เพราะสังคมอยากทราบ ซึ่งเขาสามารถจบภารกิจได้ภายใน 3 วัน ตรวจค้นได้อีก 2 จุด เพิ่มอีก 7-8 ทุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนต้องการ เมื่อทราบว่ามีจุดอื่นๆ ที่วางไว้อีก ได้ทราบชนิดของทุ่นระเบิดด้วยว่าเป็น PMN-2 ซึ่งเราไม่เคยมีใช้ เราไม่เคยใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 ที่เป็นของรัสเซีย จึงเป็นสิ่งยืนยันว่าที่วางระเบิดเป็นของประเทศอื่น ไม่ใช่ของเราแน่นอน
.
พล.อ.ณัฐพลกล่าวอีกว่า อีกประการหนึ่ง เราต้องตอบสังคมโลกให้ได้ว่าที่มาวางคือของใหม่ มีวิธีดู 2 อย่างคือ 1.จุดที่วาง ถ้าใหม่ การกลบร่องรอยจะเป็นของใหม่ แต่หากเป็นของเก่า หญ้าหรือวัชพืชจะขึ้นมาเลย แต่จุดที่เราตรวจพบเป็นลักษณะเอาเศษวัชพืช เศษใบไม้มาวางคลุมไว้ และ 2.ทุ่นระเบิดที่เราตรวจพบ ถ้าทุ่นเก่า ส่วนที่เป็นโลหะจะเป็นสนิม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบและกู้ขึ้นมาพบว่าส่วนที่เป็นโลหะยังวาวอยู่ ดังนั้น ถ้าเราทำงานอย่างนี้จะไม่มีใครมาเถียงเราได้ และสามารถชี้แจงได้ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 19 ก.ค. ภารกิจขั้นต้นได้จบลงแล้ว แต่ยังตรวจค้นต่อไป แค่นี้หลักฐานเราก็เพียงพอแล้ว
.
รมช.กลาโหมกล่าวว่า ถ้านับเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. ที่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ 5 วันได้ถึงขนาดนี้ ในประสบการณ์ชีวิตรับราชการของตน ถือว่าเร็วแล้ว ซึ่งการประชุมคณะกรรมการออตตาวาจะมีขึ้นประมาณเดือน พ.ย.-ธ.ค.68 เพราะฉะนั้น การส่งฟ้อง หากส่งฟ้องวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือวันนี้มีค่าเท่ากัน เพราะต้องรอเดือน ธ.ค.68 สู้เราทำสำนวนให้รอบคอบไม่ดีกว่าหรือ นี่คือสิ่งที่ ศบ.ทก.ยึดถืออยู่ เพราะถ้าเราทำสำนวนไปไม่รอบคอบ ศาลไม่รับฟ้อง สำนวนก็ตก หรือทำไปแล้ว กัมพูชาสามารถโต้กลับมาได้ เราก็จะเสียความน่าเชื่อถือไป
.
รมช.กลาโหมกล่าวด้วยว่า ตรงนี้คือสิ่งที่ตนห่วงใยมากกว่า จึงขอให้เข้าใจหน่วยงานภาครัฐ ไม่ใช่ได้ข่าวมาแล้วจะมาตำหนิหน่วยงานภาครัฐว่าทำไมช้า สื่อได้ข่าวมาแล้วจะตำหนิฮุน เซน ฮุน มาเนต หรือกัมพูชาไปตนไม่ว่า คนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน แต่ได้ข่าวมาแล้วกลับมาตำหนิภาครัฐ ตรงนี้ที่อยากขอความเห็นใจ เพราะภาครัฐต้องทำงานตามขั้นตอน รัดกุม ถ้าทำแล้วพลาดจะมาตำหนิตนอีกว่าทำไมไม่รอบคอบ
.
รมช.กลาโหมกล่าวอีกว่า งานของ ศบ.ทก.และกระทรวงกลาโหมไม่ใช่แค่งานเรื่องทุ่นระเบิดเรื่องเดียว เราดูแม้กระทั่งสวัสดิการของน้องทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิการว่าจะทำอย่างไร เราคิดอยู่ตลอด ฉะนั้น คนที่รับผิดชอบ ปัญหาจะมาหลายทาง ตอนนี้ตนเองเหมือนหมาวิ่งกัดเห็บที่หางตัวเอง คือพยายามทำให้ดีที่สุด
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นฟ้องคณะกรรมการออตตาวา ยื่นในนามรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า เป็นการดำเนินการในนามกระทรวงการต่างประเทศ แต่อยู่ภายใต้การอำนวยการของ ศบ.ทก. หลังจากที่ประชุม ศบ.ทก.เห็นชอบ กระทรวงการต่างประเทศก็จะดำเนินการในการทำหนังสือประท้วง แนวทางที่คุยกันไว้คือ นอกจากทำหนังสือประท้วงไปยังออตตาวาแล้ว เรายังประท้วงไปยังกัมพูชาด้วย ซึ่งรายละเอียดขอยังไม่เปิดเผย
.
เมื่อถามว่า หากผลการยื่นร้องต่อคณะกรรมการออตตาวาแล้วชนะ ผลที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมคืออะไร พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ในบทลงโทษนั้นไม่ชัดเจน ต้องขึ้นอยู่กับทางออตตาวา แต่ยืนยันว่าปัจจุบันกัมพูชาผิดอยู่ 2 เรื่องแน่ๆ 1.การวางทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งสมาชิกที่มีพันธะกรณีกับอนุสัญญาออตตาวาจะต้องไม่ทำแบบนี้ 2.ยังมีของใหม่อยู่ในครอบครอง ซึ่งสมาชิกของอนุสัญญาจะต้องทำลายทุ่นระเบิด ไม่ว่าจะทำลายหมดทันที หรือค่อยทำลาย อย่างไรต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนว่าจะทำลายหมดเมื่อไหร่ แต่ถ้ายังทำลายไม่หมด และเอามาใช้ก็ผิดแล้ว ที่จริงแล้วตนไม่อยากจะพูดออกสื่อก่อน พูดไปอาจทำให้ทางกัมพูชารู้ว่าตนคิดอะไรอยู่ แต่ต้องเรียนว่าขณะนี้ตนคงต้องยอม อาจจะเสียเปรียบบ้าง คิดว่าเพื่อความได้เปรียบจะไม่บอกอะไร แต่สังคมเป็นอย่างนี้ สื่อมวลชนต้องทำหน้าที่หาข้อมูลตนก็เห็นใจสื่อ จึงต้องให้ข้อมูล และตนทำงานยากขึ้น จะทำงานง่ายๆ สบายๆ ไม่ได้แล้ว
.
“พูดเลยว่าเขาผิด 2 เรื่อง และจะส่งข้อมูลไปยังประเทศที่เป็นสปอนเซอร์ของกัมพูชา ที่สนับสนุนเงิน ในพันธกรณีที่เกี่ยวกับออตตาวาว่าสนับสนุนเงินเขาไป ปัจจุบันเขาเป็นแบบนี้ ก็แล้วแต่เขาจะพิจารณา ผมถึงได้บอกว่าการที่จะบอกเขา สำนวนเราต้องแน่น ชัดเจนมีภาพให้เห็น มีหลักฐาน ไม่ใช่เพียงแค่มีคนบอกว่าใหม่ เราเคยกวาดล้างมาแล้ว ก็ไม่น่าจะมีของเก่า หากส่งสำนวนไปแค่นี้ สื่อคิดว่าสำนวนจะตกหรือไม่” พล.อ.ณัฐพลกล่าว.
.
.