TSMC รายได้-กำไรทุบสถิติ ความต้องการชิป AI ยังฉ่ำ Nvidia-Apple หาเงินมากองให้แทบไม่ทันครึ่งปีหลังต้องระวัง ฤทธิ์ภาษีทรัมป์ ทำสะดุด
.
TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน รายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่สูงกว่าคาดการณ์ทั้งรายได้และกำไรที่ทะยานขึ้นเกือบ 61% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากแรงขับเคลื่อนของความต้องการชิป AI และเทคโนโลยีระดับสูงที่ยังคงแข็งแกร่งทั่วโลก
.
รายรับรวมของ TSMC เพิ่มขึ้น 38.65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอยู่ที่ 9.33 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 61% อยู่ที่ 3.99 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตามผลกระทบจากนโยบายภาษีและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้การลงทุนในปีนี้เป็นไปอย่างระมัดระวัง
.
ไตรมาสนี้ TSMC ยังได้รับอานิสงส์จากเทรนด์ AI ทั่วโลกจากการเป็นผู้ผลิตชิปประมวลผลระดับสูงให้กับลูกค้ารายใหญ่อย่าง Nvidia และ Apple ซึ่งดันให้กลุ่มธุรกิจ High Performance Computing (HPC) ซึ่งรวมถึง AI และการสื่อสาร 5G สร้างรายได้ถึง 60% ของยอดขายทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 52% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยในแง่เทคโนโลยีการจัดส่งเวเฟอร์ โดยเฉพาะในกลุ่มชิปขั้นสูง (7 นาโนเมตรหรือต่ำกว่า) คิดเป็น 74% ของรายได้จากแผ่นเวเฟอร์ทั้งหมด
TSMC รายได้-กำไรทุบสถิติ ความต้องการชิป AI ยังฉ่ำ Nvidia-Apple หาเงินมากองให้แทบไม่ทันครึ่งปีหลังต้องระวัง ฤทธิ์ภาษีทรัม
.
TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน รายงานผลประกอบการไตรมาสสองที่สูงกว่าคาดการณ์ทั้งรายได้และกำไรที่ทะยานขึ้นเกือบ 61% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากแรงขับเคลื่อนของความต้องการชิป AI และเทคโนโลยีระดับสูงที่ยังคงแข็งแกร่งทั่วโลก
.
รายรับรวมของ TSMC เพิ่มขึ้น 38.65% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอยู่ที่ 9.33 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันหรือราว 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 61% อยู่ที่ 3.99 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตามผลกระทบจากนโยบายภาษีและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้การลงทุนในปีนี้เป็นไปอย่างระมัดระวัง
.
ไตรมาสนี้ TSMC ยังได้รับอานิสงส์จากเทรนด์ AI ทั่วโลกจากการเป็นผู้ผลิตชิปประมวลผลระดับสูงให้กับลูกค้ารายใหญ่อย่าง Nvidia และ Apple ซึ่งดันให้กลุ่มธุรกิจ High Performance Computing (HPC) ซึ่งรวมถึง AI และการสื่อสาร 5G สร้างรายได้ถึง 60% ของยอดขายทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 52% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยในแง่เทคโนโลยีการจัดส่งเวเฟอร์ โดยเฉพาะในกลุ่มชิปขั้นสูง (7 นาโนเมตรหรือต่ำกว่า) คิดเป็น 74% ของรายได้จากแผ่นเวเฟอร์ทั้งหมด