จากที่รอคิวมา 5 ปี พ่อบ้านก็ได้รับการผ่าตัด เปลี่ยนข้อต่อเข่าเฉพาะส่วน เป็นชิ้นส่วนเทียมใส่ทดแทนข้อต่อเข่าที่เสื่อม การผ่าเข่าครั้งนี้ ได้โรงพยาบาลไม่ไกลจากบ้าน ขับรถมาก็ประมาณ 10 นาที เป็นโรงพยาบาลเอกชน The Clementine Churchill Hospital - Harrow (รัฐบาลอังกฤษจ่ายเงินค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด) ตามกำหนดที่ รพ.แจ้ง คือ เข้าห้องผ่าตัด 14.00 (เวลาประเทศอังกฤษ) แต่ต้องมาถึง รพ.ก่อนเที่ยง เพื่อเช็คร่างกายทำประวัติ ต่างๆ เมื่อผ่าแล้ว แอดมิท 1 คืน ถ้าทุกอย่างปกติ ก็ กลับบ้านช่วงบ่าย
พ่อบ้านบอกอย่ากังวลนะ ไม่มีอะไรมาก เหมือนฉันมาพักผ่อนโรงแรม 1 คืน ที่สำคัญฉันแฮปปี้สุดๆ ในการเข้า รพ.ครั้งนี้ เมื่อถึง รพ.ก็ถ่ายภาพส่งให้ดูสถานที่ รวมทั้งอาหารการกินทุกมื้อที่อยู่ใน รพ. จนรุ่งขึ้นก็กลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย
จขกท.ไปเที่ยวอังกฤษ 3 ครั้ง ก็ไม่เคยเจ็บป่วยเข้า รพ. และไม่เคยเห็นว่าอาหารคนป่วยในอังกฤษจะแตกต่างจาก รพ.ในเมืองไทย มากน้อยแค่ไหน แต่รู้จากพ่อบ้านและเพื่อนคนไทยที่อาศัยอยู่อังกฤษ บอกว่า กว่าจะได้เข้าไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในอังกฤษ ยากเย็นเข็ญใจสุดๆ แต่ถ้าได้เข้าไปแล้ว เขาก็รักษาให้อย่างดีที่สุดเช่นกัน คนไทยโชคดีไม่มีประเทศไหนเหมือนที่ไปหาหมอที่ รพ.ได้ทุกวัน ทุกเวลา
ก่อนผ่าตัดก็ทำการถ่ายภาพส่งให้ทางเมืองไทยว่าไม่ต้องเป็นห่วง นอนอุ่น หลับสบายแน่นอน
ภาพห้องพักผู้ป่วย โดยมีพี่ชายพาน้องชายไปส่งแล้วกลับบ้านเลย รพ.ไม่ต้องให้มีคนเฝ้าใดๆ ญาติกลับบ้านไป
มีเมนูอาหารให้เลือก แล้วแจ้งล่วงหน้าเลย ว่าจะกินอะไร มื้อไหนบ้าง
เข้าห้องผ่าตัดก็สลบไปเลย ออกมาจากห้องผ่าตัดบอกว่าหิวสุดๆ เพราะก่อนมา รพ. ได้กินแค่ ขนมปัง 2 แผ่น+ชา 1 แก้ว
อาหารเย็นที่คนป่วยกิน หลังจากออกจากห้องผ่าตัดแล้ว จานหลักในจาน มีไก่และมันฝรั่งแครอท ของหวาน เป็น รูบาร์บกับคัสตาร์ด(Rhubarb crumble custard) และมี ชาอังกฤษ+นมสด แถมกาแฟมาอีก 1 ซอง บอกว่ากินเกลี้ยงไม่มีเหลือเพราะหิวมาก
อาหารเช้า เขาสั่งไว้ คือ ชุดEnglish Breakfast (เบคอน ไส้กรอก ไข่ ขนมปัง ซุปถั่ว) และ ชาอังกฤษ+นมสด อีกเช่นเคย
อาหารกลางวัน : Cottage pie with vegetables(พายเนื้อกับมันฝรั่ง) ของหวาน : Apple crumble with custard เครื่องดื่ม : น้ำผลไม้

หลังกินกลางวัน รพ. ก็มีการ X-Ray บริเวณที่ผ่าตัด แล้วก็ให้คนไข้รีบกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้เลย แค่แนะนำว่าต้องปฎิบัติตัวอย่างไร ระหว่างนั้นถ้ามีอาการใดๆ ที่คิดว่าไม่ปกติ ก็แจ้งกับ GP(แพทย์ประจำตัวในเขตที่พักอาศัย) ไม่ต้องมานอนดูอาการใกล้ชิด หมอ พยาบาล ให้สิ้นเปลืองงบประมาณแบบในเมืองไทย เตียงก็จะได้ว่างรอรับคนป่วยที่รอคิวต่อไป รักษาให้แล้ว เสร็จก็กลับไปบ้าน ดูแลตัวเองบ้านใครบ้านมันกัน
จขกท. ไม่อยากป่วย แต่อยากกินแบบนี้จัง
เพิ่มเติม คนป่วยกลับไปนอนบ้านแล้วค่ะ ความปวดแผลหลังผ่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับการทนปวดมา 5 ปีก่อนผ่าตัด ลุกเดิน ทำกิจวัตรส่วนตัวต่างๆ ได้ มีกินยาแก้ปวดตามอาการ ลาพักงาน5 วัน พยายามพักขานอนราบไว้เพื่อลดอาการบวม

คนป่วยฝากขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจให้หายไวๆ
ภาพอาหารและห้องพักคนป่วยที่โรงพยาบาลในอังกฤษ
พ่อบ้านบอกอย่ากังวลนะ ไม่มีอะไรมาก เหมือนฉันมาพักผ่อนโรงแรม 1 คืน ที่สำคัญฉันแฮปปี้สุดๆ ในการเข้า รพ.ครั้งนี้ เมื่อถึง รพ.ก็ถ่ายภาพส่งให้ดูสถานที่ รวมทั้งอาหารการกินทุกมื้อที่อยู่ใน รพ. จนรุ่งขึ้นก็กลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย
จขกท.ไปเที่ยวอังกฤษ 3 ครั้ง ก็ไม่เคยเจ็บป่วยเข้า รพ. และไม่เคยเห็นว่าอาหารคนป่วยในอังกฤษจะแตกต่างจาก รพ.ในเมืองไทย มากน้อยแค่ไหน แต่รู้จากพ่อบ้านและเพื่อนคนไทยที่อาศัยอยู่อังกฤษ บอกว่า กว่าจะได้เข้าไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในอังกฤษ ยากเย็นเข็ญใจสุดๆ แต่ถ้าได้เข้าไปแล้ว เขาก็รักษาให้อย่างดีที่สุดเช่นกัน คนไทยโชคดีไม่มีประเทศไหนเหมือนที่ไปหาหมอที่ รพ.ได้ทุกวัน ทุกเวลา
ก่อนผ่าตัดก็ทำการถ่ายภาพส่งให้ทางเมืองไทยว่าไม่ต้องเป็นห่วง นอนอุ่น หลับสบายแน่นอน
ภาพห้องพักผู้ป่วย โดยมีพี่ชายพาน้องชายไปส่งแล้วกลับบ้านเลย รพ.ไม่ต้องให้มีคนเฝ้าใดๆ ญาติกลับบ้านไป
มีเมนูอาหารให้เลือก แล้วแจ้งล่วงหน้าเลย ว่าจะกินอะไร มื้อไหนบ้าง
เข้าห้องผ่าตัดก็สลบไปเลย ออกมาจากห้องผ่าตัดบอกว่าหิวสุดๆ เพราะก่อนมา รพ. ได้กินแค่ ขนมปัง 2 แผ่น+ชา 1 แก้ว
อาหารเย็นที่คนป่วยกิน หลังจากออกจากห้องผ่าตัดแล้ว จานหลักในจาน มีไก่และมันฝรั่งแครอท ของหวาน เป็น รูบาร์บกับคัสตาร์ด(Rhubarb crumble custard) และมี ชาอังกฤษ+นมสด แถมกาแฟมาอีก 1 ซอง บอกว่ากินเกลี้ยงไม่มีเหลือเพราะหิวมาก
อาหารเช้า เขาสั่งไว้ คือ ชุดEnglish Breakfast (เบคอน ไส้กรอก ไข่ ขนมปัง ซุปถั่ว) และ ชาอังกฤษ+นมสด อีกเช่นเคย
อาหารกลางวัน : Cottage pie with vegetables(พายเนื้อกับมันฝรั่ง) ของหวาน : Apple crumble with custard เครื่องดื่ม : น้ำผลไม้
หลังกินกลางวัน รพ. ก็มีการ X-Ray บริเวณที่ผ่าตัด แล้วก็ให้คนไข้รีบกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้เลย แค่แนะนำว่าต้องปฎิบัติตัวอย่างไร ระหว่างนั้นถ้ามีอาการใดๆ ที่คิดว่าไม่ปกติ ก็แจ้งกับ GP(แพทย์ประจำตัวในเขตที่พักอาศัย) ไม่ต้องมานอนดูอาการใกล้ชิด หมอ พยาบาล ให้สิ้นเปลืองงบประมาณแบบในเมืองไทย เตียงก็จะได้ว่างรอรับคนป่วยที่รอคิวต่อไป รักษาให้แล้ว เสร็จก็กลับไปบ้าน ดูแลตัวเองบ้านใครบ้านมันกัน
จขกท. ไม่อยากป่วย แต่อยากกินแบบนี้จัง
เพิ่มเติม คนป่วยกลับไปนอนบ้านแล้วค่ะ ความปวดแผลหลังผ่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับการทนปวดมา 5 ปีก่อนผ่าตัด ลุกเดิน ทำกิจวัตรส่วนตัวต่างๆ ได้ มีกินยาแก้ปวดตามอาการ ลาพักงาน5 วัน พยายามพักขานอนราบไว้เพื่อลดอาการบวม
คนป่วยฝากขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจให้หายไวๆ