ไอซ์ เปิด ข้อมูล ไผ่ ลิกค์ เป็น ส.ส. กี่สมัย หลังระบุ รอฝายมา 20 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_5275266
.
.
ไอซ์ เปิด ข้อมูล ไผ่ ลิกค์ เป็น ส.ส. กี่สมัย หลังระบุ รอฝายมา 20 ปี
.
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมรูปภาพ เกี่ยวกับนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ที่ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นส.ส.มาแล้ว 20 ปี โดยไอซ์ รักชนกระบุข้อความว่า
.
“
คุณไผ่บอกว่ารอฝายมา 20 ปี เลยลองหาข้อมูลดู ว่า ส.ส. เขตนี้ 20 ปีที่ผ่านมาเป็นใครบ้าง แต่นแตนแต๊น
.
ทั้งนี้ในภาพดังกล่าวระบุว่า นาย
ไผ่ ลิกค์ เป็นส.ส. สมัย โดยเริ่มเป็นส.ส.สมัยแรกเมื่อปี 2554 ,2562 และ 2566
.
ขณะที่ก่อนหน้านั้น นาย
เรืองวิทย์ ลิกค์ เป็นส.ส. กำแพงเพชร 8 สมัย ตั้งแต่ปี 2529-254
.
https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/pfbid0w4ujLjbyTNZNhWbD5f6no3VFfQSUtd2RHasiJPmZy49mkcqJ2vFXifJ1kqfP4Sj9l
.
.
พริษฐ์เห็นด้วย นฤมล ลดภาระงานครู ลุ้นอนุกมธ.งบ’69 ปรับลด-ยกเลิกโครงการไม่จำเป็นของ ศธ. หวังคืนครูให้ห้องเรียน. https://www.matichon.co.th/politics/news_5275316
.
ไอติม เห็นด้วย นฤมล ลดภาระงานครู ลุ้น อนุกมธ.งบ’69 ปรับลด-ยกเลิกโครงการไม่จำเป็นของ ศธ. หวังคืนครูให้ห้องเรียน
.
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ลดภาระงานครูให้ตรงจุด เริ่มที่การตัดงบโครงการ-กิจกรรมที่ไม่จำเป็น ออกจาก งบ 69 ในที่ประชุมสัปดาห์นี้ ความว่า เห็นข่าวที่ รมว. ศึกษาธิการ กำลังเตรียมดึงครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็กไปทำงานด้านธุรการเพื่อหวังลดภาระงานครู แล้วมีทั้งข้อสงสัยและข้อกังวลว่าแนวทางดังกล่าว อาจเป็นการ “แก้ปัญหาไม่ตรงจุด”
.
1. เชื่อว่าเราทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเราต้องเร่งลดภาระงานครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน เพื่อคืนครูให้ห้องเรียน และคืนคุณค่าให้วิชาชีพครู ซึ่งล้วนจะส่งผลบวกต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา
.
2.อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของ รมว. ในการเกลี่ยครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็ก ให้ไปทำหน้าที่ธุรการ-การเงิน-พัสดุแทน (ตามรายละเอียดเท่าที่ปรากฏในบทสัมภาษณ์) ไม่น่าจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพที่สุด
.
2.1. หากข้อเสนอของ รมว. หมายถึงการรอให้ครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็กเกษียณอายุ เพื่อนำอัตราและงบประมาณสำหรับตำแหน่งดังกล่าว ไปเปิดรับพนักงานธุรการแทนที่จะเปิดรับครู (ซึ่งเป็นการตีความบทสัมภาษณ์ รมว. ในแง่ดี) ผมเห็นว่าแม้แนวทางดังกล่าวอาจแก้ปัญหาในอนาคตได้บ้าง แต่จะไม่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที
.
2.2. แต่หากข้อเสนอของ รมว. หมายถึงการดึงครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็ก ไปทำหน้าที่เป็นพนักงานธุรการตามสถานศึกษาตั้งแต่วันนี้ (ซึ่งดูสอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ รมว.มากกว่า) ผมเห็นว่าแนวทางดังกล่าว ไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหา แต่อาจจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาเพราะแนวทางนี้เป็นการบั่นทอนการทำงานของครูที่ถูกโยกให้ไปทำงานธุรการแทน เพราะเป็นการบังคับให้เขาต้องไปทำงานที่เขาไม่ได้สมัครเข้ามาทำ และไม่ตรงกับทักษะที่เขาได้เล่าเรียนหรือพัฒนาสะสมมา
.
3. แม้โดยหลักการแล้ว แนวคิดเรื่องการเพิ่มอัตราของพนักงานธุรการ (โดยคนที่สมัครเป็นพนักงานธุรการจริงๆ) อาจเป็นวิธีการหนึ่งในการลดภาระงานครูได้ แต่คำถามที่เราต้องถามลึกลงไปกว่านั้น คือครูจำเป็นต้องมีภาระงานมากขนาดที่เป็นอยู่ตั้งแต่แรกหรือไม่ – นอกจากงานธุรการ-การเงิน-พัสดุ งานอีกประเภทหนึ่งที่เพิ่มภาระงานครูโดยไม่จำเป็น คือโครงการหรือกิจกรรมต่างๆที่สถานศึกษาถูก “ขอความร่วมมือ” ให้ต้องทำ และทำให้ครูต้องใช้เวลาไปกับทั้งการจัดกิจกรรมที่อาจไม่ก่อประโยชน์สูงสุดให้ผู้เรียน รวมถึงการเขียนรายงานและกรอกข้อมูลยิบย่อยเพื่อส่งกลับไปที่หน่วยงานต้นเรื่อง
.
4. ดังนั้น หาก รมว. เอาจริงกับการยกเลิกหรือปรับลดโครงการและกิจกรรมลักษณะนี้ ท่าน รมว. จะไม่เพียงแต่ลดภาระงานครูได้จริงและโดยเร็ว แต่ท่านยังจะได้ประหยัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นจากโครงการดังกล่าว เพื่อนำงบไปใช้กับภารกิจที่เป็นประโยชน์กับผู้เรียนกว่า
.
5. จึงเป็นจังหวะที่ประจวบเหมาะพอดีที่สัปดาห์นี้ หน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ จะเรียงคิวเข้ามาชี้แจงในที่ประชุม อนุฯ กมธ. งบ 69 เพื่อของบประมาณไปดำเนินโครงการและกิจกรรมดังกล่าว (เช่น การประเมิน ITA ของสถานศึกษา / โรงเรียนสีขาว) – หากท่าน รมว. เห็นว่าโครงการไหนสามารถยกเลิกหรือปรับลดได้ ก็หวังว่าท่านจะขอความร่วมมือจาก ส.ส. พรรคท่าน และ ส.ส. รัฐบาล มาร่วมกันตัดงบประมาณดังกล่าว เพื่อร่วมกันคืนครูให้ห้องเรียน และคืนภาษีให้ประชาชน ไปพร้อมๆกันครับ
.
https://www.facebook.com/paritw/posts/pfbid02kN3pdM34F3fTjGKqXNjBL74A2B79t8v528sAyBkWFhyy5hCuZupWhZz1i9uFUfJNl
.
.
"วิจัยกรุงศรี" ชี้ความเสี่ยงจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ และเศรษฐกิจจีนกดดันการส่งออกไทย และคาดเฟดลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้
วันที่ 15 ก.ค.68 วิจัยกรุงศรี ระบุว่า
เศรษฐกิจโลก ความเสี่ยงจากนโยบายการค้าสูงขึ้นอีกครั้งหลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้าสูงถึง 20-50% ขณะที่ภาวะอุปทานส่วนเกินกดดันเศรษฐกิจจีนต่อเนื่องสหรัฐฯ
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มชะลอตัวชัดเจนขึ้นใน 2H68 คาดหนุนเฟดปรับลดดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีนี้ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐฯ ลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 227,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม รายงานจาก ADP ระบุว่า ธุรกิจเอกชนลดการจ้างงานลงในเดือนมิถุนายน ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่เผชิญความไม่แน่นอน
ความตึงเครียดทางการค้าสูงขึ้นหลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากกว่า 27 ประเทศ ในอัตรา 20–50% รวมถึงการปรับขึ้นภาษีนำเข้าทองแดงที่ 50% โดยจะมีผลในวันที่ 1 สิงหาคม นอกจากนี้ ยังมีแผนขึ้นภาษีนำเข้ายาในอัตราสูงถึง 200% ซึ่งอาจซ้ำเติมห่วงโซ่อุปทานและค่าครองชีพของผู้บริโภค ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ท่ามกลางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากแรงกดดันด้านการค้า นโยบายจำกัดผู้อพยพ สภาพการเงินที่ตึงตัว และหนี้เอกชนที่สูง จากปัจจัยดังกล่าว วิจัยกรุงศรีคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 2-3 ครั้ง ในปีนี้
.
ญี่ปุ่น
คาด BOJ คงอัตราดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีภายใต้ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อที่มีทิศทางชะลอตัว ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รายงานว่า ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นปรับลดราคารถยนต์ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายนลงถึง 19.4% YoY ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากสุดนับตั้งแต่ปี 2559 สะท้อนว่าบริษัทญี่ปุ่นยอมลดกำไรเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน หลังสหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่น 25% ตั้งแต่เดือนเมษายน
อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นมีแนวโน้มผ่อนคลายลงในครึ่งหลังของปีจากแรงหนุนของมาตรการภาครัฐ เช่น การระบายข้าวในสต็อกและเงินอุดหนุนพลังงาน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงภายนอกประเทศยังคงสูง โดยเฉพาะประเด็นความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าเกษตรและยานยนต์จากญี่ปุ่นหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าภายในวันที่ 1 สิงหาคม ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวรวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลง วิจัยกรุงศรีคาดว่า BOJ จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมในระยะนี้ เพื่อประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไปจนถึงสิ้นปี 2568 นี้
.
จีน
จีนเผชิญแรงกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกินอย่างต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมิถุนายนยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 1% YoY นานติดต่อกัน 28 เดือน ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตหดตัวแรงขึ้นจาก -3.3% เป็น -3.6% แรงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566 สอดคล้องกับกำไรภาคอุตสาหกรรมซึ่งหดตัว -9.1% ในเดือนพฤษภาคมและ -1.1% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้
.
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่อยู่ในระดับต่ำและดัชนีราคาผู้ผลิตที่ลดลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงปัญหาอุปทานส่วนเกินในภาคการผลิตและภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังคงฉุดรั้งภาคธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวม แม้รัฐบาลพยายามกระตุ้นอุปสงค์ผ่านมาตรการอุดหนุนการแลกซื้อสินค้าใหม่ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา วิจัยกรุงศรีประเมินว่าภาวะอุปทานส่วนเกินของจีนยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่ระดับอุปทานส่วนเกินจะไม่ส่งผลเชิงลบต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ หากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง ภาคการส่งออกอาจขยายตัวชะลอลง ซึ่งจะซ้ำเติมปัญหาในภาคการผลิตที่กำลังพึ่งพาอุปสงค์ต่างประเทศมากขึ้นในจังหวะที่อุปสงค์ในประเทศยังอ่อนแอ
.
เศรษฐกิจไทย
.
การส่งออกของไทยเผชิญความเสี่ยงถูกสหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงถึง 36% หากการเจรจาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ทันวันที่ 1 สิงหาคมนี้
.
วิจัยกรุงศรีประเมินกรณีเลวร้ายหากสหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้ากับไทยในอัตรา 36% มูลค่าการส่งออกจะหายไปกว่า 1.62 แสนล้านบาท และหากยกเว้นภาษีนำเข้าแก่สหรัฐฯ ไทยอาจเสี่ยงเกิดภาวะ Twin Influx ในวันที่ 7 กรกฏาคม ไทยได้รับจดหมายจากสหรัฐฯ แจ้งเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตราสูงถึง 36% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ หากไม่มีข้อตกลงทางการค้าใหม่เกิดขึ้น ล่าสุดรัฐบาลไทยได้ยื่นข้อเสนอทางการค้าปรับปรุงเพิ่มเติม (ดังตาราง) หลังการเจรจารอบแรกไม่ประสบความความสำเร็จ รวมถึงเร่งขอเจรจาเพื่อต่อรองให้ได้อัตราภาษีที่ลดลงต่ำกว่า 36%
.
หากสินค้าส่งออกของไทยต้องถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงถึง 36% ซึ่งนับเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงในบรรดาประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ และสูงกว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวียดนามซึ่งสามารถเจรจาลดอัตราภาษีเหลือ 20% (และ 40% สำหรับสินค้าที่ต้องสงสัยว่าถูกส่งผ่าน) ในกรณีเลวร้ายนี้วิจัยกรุงศรีประเมินว่ามูลค่าการส่งออกของไทยจะหายไปถึง 1.621 แสนล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กลุ่มสิ่งทอ เครื่องหนังและรองเท้า อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม ยางและพลาสติก
.
ส่วนกรณีหากไทยและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงทางการค้าที่มีลักษณะคล้ายกับข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับเวียดนาม โดยที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 20% ขณะที่ไทยยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 0% ผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอาจรุนแรงน้อยกว่ากรณีที่มีการเรียกเก็บภาษีที่ 36% ถึง 9.3 เท่า หรือคิดเป็นมูลค่าส่งออกที่หายไป 0.174 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม การยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ดังกล่าวอาจเป็นการแก้ปัญหาหนึ่งแต่จะสร้างอีกปัญหาตามมา โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก จากแบบจำลองพบว่าในระยะยาวการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้นถึง 27% หรือประมาณ 1.883 แสนล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าที่มีความอ่อนไหว อาทิ กลุ่มสินค้าเกษตร และอาหารและเครื่องดื่ม อาจเผชิญกับการหลั่งไหลเข้าของสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตรากว่า 100% ขณะที่กลุ่มสินค้าอื่น ๆ เช่น ยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง สิ่งทอ เครื่องหนังและรองเท้า ยางและพลาสติก ก็อาจมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นในระดับเลขสองหลักเช่นกัน
.
JJNY : ไอซ์เปิดข้อมูล ไผ่│พริษฐ์ลุ้นอนุกมธ.งบ’69│"วิจัยกรุงศรี" ชี้ความเสี่ยงจากนโยบายการค้า│ญี่ปุ่นซัดจีน คุกคามร้ายแรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5275266
.
ไอซ์ เปิด ข้อมูล ไผ่ ลิกค์ เป็น ส.ส. กี่สมัย หลังระบุ รอฝายมา 20 ปี
.
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมรูปภาพ เกี่ยวกับนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ที่ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นส.ส.มาแล้ว 20 ปี โดยไอซ์ รักชนกระบุข้อความว่า
.
“คุณไผ่บอกว่ารอฝายมา 20 ปี เลยลองหาข้อมูลดู ว่า ส.ส. เขตนี้ 20 ปีที่ผ่านมาเป็นใครบ้าง แต่นแตนแต๊น
.
ทั้งนี้ในภาพดังกล่าวระบุว่า นายไผ่ ลิกค์ เป็นส.ส. สมัย โดยเริ่มเป็นส.ส.สมัยแรกเมื่อปี 2554 ,2562 และ 2566
.
ขณะที่ก่อนหน้านั้น นายเรืองวิทย์ ลิกค์ เป็นส.ส. กำแพงเพชร 8 สมัย ตั้งแต่ปี 2529-254
.
https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/pfbid0w4ujLjbyTNZNhWbD5f6no3VFfQSUtd2RHasiJPmZy49mkcqJ2vFXifJ1kqfP4Sj9l
.
.
พริษฐ์เห็นด้วย นฤมล ลดภาระงานครู ลุ้นอนุกมธ.งบ’69 ปรับลด-ยกเลิกโครงการไม่จำเป็นของ ศธ. หวังคืนครูให้ห้องเรียน. https://www.matichon.co.th/politics/news_5275316
.
ไอติม เห็นด้วย นฤมล ลดภาระงานครู ลุ้น อนุกมธ.งบ’69 ปรับลด-ยกเลิกโครงการไม่จำเป็นของ ศธ. หวังคืนครูให้ห้องเรียน
.
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง ลดภาระงานครูให้ตรงจุด เริ่มที่การตัดงบโครงการ-กิจกรรมที่ไม่จำเป็น ออกจาก งบ 69 ในที่ประชุมสัปดาห์นี้ ความว่า เห็นข่าวที่ รมว. ศึกษาธิการ กำลังเตรียมดึงครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็กไปทำงานด้านธุรการเพื่อหวังลดภาระงานครู แล้วมีทั้งข้อสงสัยและข้อกังวลว่าแนวทางดังกล่าว อาจเป็นการ “แก้ปัญหาไม่ตรงจุด”
.
1. เชื่อว่าเราทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเราต้องเร่งลดภาระงานครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน เพื่อคืนครูให้ห้องเรียน และคืนคุณค่าให้วิชาชีพครู ซึ่งล้วนจะส่งผลบวกต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา
.
2.อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของ รมว. ในการเกลี่ยครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็ก ให้ไปทำหน้าที่ธุรการ-การเงิน-พัสดุแทน (ตามรายละเอียดเท่าที่ปรากฏในบทสัมภาษณ์) ไม่น่าจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพที่สุด
.
2.1. หากข้อเสนอของ รมว. หมายถึงการรอให้ครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็กเกษียณอายุ เพื่อนำอัตราและงบประมาณสำหรับตำแหน่งดังกล่าว ไปเปิดรับพนักงานธุรการแทนที่จะเปิดรับครู (ซึ่งเป็นการตีความบทสัมภาษณ์ รมว. ในแง่ดี) ผมเห็นว่าแม้แนวทางดังกล่าวอาจแก้ปัญหาในอนาคตได้บ้าง แต่จะไม่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที
.
2.2. แต่หากข้อเสนอของ รมว. หมายถึงการดึงครูที่เกินเกณฑ์จากโรงเรียนขนาดเล็ก ไปทำหน้าที่เป็นพนักงานธุรการตามสถานศึกษาตั้งแต่วันนี้ (ซึ่งดูสอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ รมว.มากกว่า) ผมเห็นว่าแนวทางดังกล่าว ไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหา แต่อาจจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาเพราะแนวทางนี้เป็นการบั่นทอนการทำงานของครูที่ถูกโยกให้ไปทำงานธุรการแทน เพราะเป็นการบังคับให้เขาต้องไปทำงานที่เขาไม่ได้สมัครเข้ามาทำ และไม่ตรงกับทักษะที่เขาได้เล่าเรียนหรือพัฒนาสะสมมา
.
3. แม้โดยหลักการแล้ว แนวคิดเรื่องการเพิ่มอัตราของพนักงานธุรการ (โดยคนที่สมัครเป็นพนักงานธุรการจริงๆ) อาจเป็นวิธีการหนึ่งในการลดภาระงานครูได้ แต่คำถามที่เราต้องถามลึกลงไปกว่านั้น คือครูจำเป็นต้องมีภาระงานมากขนาดที่เป็นอยู่ตั้งแต่แรกหรือไม่ – นอกจากงานธุรการ-การเงิน-พัสดุ งานอีกประเภทหนึ่งที่เพิ่มภาระงานครูโดยไม่จำเป็น คือโครงการหรือกิจกรรมต่างๆที่สถานศึกษาถูก “ขอความร่วมมือ” ให้ต้องทำ และทำให้ครูต้องใช้เวลาไปกับทั้งการจัดกิจกรรมที่อาจไม่ก่อประโยชน์สูงสุดให้ผู้เรียน รวมถึงการเขียนรายงานและกรอกข้อมูลยิบย่อยเพื่อส่งกลับไปที่หน่วยงานต้นเรื่อง
.
4. ดังนั้น หาก รมว. เอาจริงกับการยกเลิกหรือปรับลดโครงการและกิจกรรมลักษณะนี้ ท่าน รมว. จะไม่เพียงแต่ลดภาระงานครูได้จริงและโดยเร็ว แต่ท่านยังจะได้ประหยัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นจากโครงการดังกล่าว เพื่อนำงบไปใช้กับภารกิจที่เป็นประโยชน์กับผู้เรียนกว่า
.
5. จึงเป็นจังหวะที่ประจวบเหมาะพอดีที่สัปดาห์นี้ หน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ จะเรียงคิวเข้ามาชี้แจงในที่ประชุม อนุฯ กมธ. งบ 69 เพื่อของบประมาณไปดำเนินโครงการและกิจกรรมดังกล่าว (เช่น การประเมิน ITA ของสถานศึกษา / โรงเรียนสีขาว) – หากท่าน รมว. เห็นว่าโครงการไหนสามารถยกเลิกหรือปรับลดได้ ก็หวังว่าท่านจะขอความร่วมมือจาก ส.ส. พรรคท่าน และ ส.ส. รัฐบาล มาร่วมกันตัดงบประมาณดังกล่าว เพื่อร่วมกันคืนครูให้ห้องเรียน และคืนภาษีให้ประชาชน ไปพร้อมๆกันครับ
.
https://www.facebook.com/paritw/posts/pfbid02kN3pdM34F3fTjGKqXNjBL74A2B79t8v528sAyBkWFhyy5hCuZupWhZz1i9uFUfJNl
.
.
การส่งออกของไทยเผชิญความเสี่ยงถูกสหรัฐฯเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงถึง 36% หากการเจรจาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ทันวันที่ 1 สิงหาคมนี้