IMT-GT: วิสัยทัศน์การพัฒนาเชิงโครงสร้างและความร่วมมือภูมิภาค
1. บทนำ
“Sukavichinomics” คือแนวคิดพัฒนาประเทศที่ได้รับการขนานนามตามชื่อ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบด้านโครงสร้างพื้นฐานของไทยในช่วงปี 2536–2540 วิสัยทัศน์นี้เน้นการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมในระยะยาว โดยผสมผสานหลักการความเท่าเทียมทางภูมิศาสตร์ (spatial equity) การเชื่อมต่อระบบขนส่งแบบหลากหลายรูปแบบ และความร่วมมือข้ามพรมแดนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในช่วงเวลาเดียวกัน โครงการความร่วมมือสามเหลี่ยมเศรษฐกิจอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2536 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและความร่วมมือข้ามพรมแดนในภูมิภาคนี้ ซึ่ง Sukavichinomics ถือเป็นกรอบยุทธศาสตร์พื้นฐานที่สนับสนุนเป้าหมายของ IMT-GT ในการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน และโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ
2. หลักการสำคัญของ Sukavichinomics
การวางแผนระยะยาวและแบบองค์รวม: การสร้างเครือข่ายคมนาคมขนาดใหญ่ครอบคลุมเส้นทางทางบก ทางราง และทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนย้ายสินค้าและประชากรระหว่างเมืองหลักและเมืองชายแดน
ความเป็นธรรมทางพื้นที่: มุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่ชายขอบ เช่น จังหวัดภาคใต้ที่อยู่ในโครงการ IMT-GT ให้มีโอกาสและศักยภาพทางเศรษฐกิจเทียบเท่ากับศูนย์กลางเมืองหลวง
ความร่วมมือข้ามชาติ: สร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศในสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจร่วมกัน
3. แผนแม่
แม่บทโครงสร้างพื้นฐาน
ของ Sukavichinomics ซึ่งสนับสนุน
IMT-GT (Indonesia–Malaysia–Thailand Growth Triangle)
4. การผสาน Sukavichinomics กับ IMT-GT
IMT-GT ถูกออกแบบมาเป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจสามประเทศที่มีเป้าหมายเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคผ่าน
การส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงชายแดน
การพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์และอุตสาหกรรมในจังหวัดชายแดน
การส่งเสริมการค้าและการลงทุนแบบบูรณาการ
Sukavichinomics มอบกรอบยุทธศาสตร์ที่มีความสอดคล้องกับเป้าหมายเหล่านี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงจังหวัดภาคใต้ของไทย เช่น สงขลา ยะลา นราธิวาส และสตูล ให้กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเศรษฐกิจที่สำคัญในระดับภูมิภาค
5. ความสำเร็จและความท้าทาย
แม้ว่านโยบาย Sukavichinomics จะถูกชะลอในช่วงยุคหลังปี 2544 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและนโยบายประชานิยมที่มุ่งเน้นเรื่องอื่น แต่โครงสร้างหลักและแผนแม่บทเหล่านี้ยังคงเป็นรากฐานสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์พัฒนาในยุคต่อมา เช่น
การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
ยุทธศาสตร์ ACMECS
การขยายวิสัยทัศน์ IMT-GT ไปจนถึงปี 2036
ความท้าทายสำคัญ คือ การรักษาความต่อเนื่องของนโยบายในบริบทการเมืองที่เปลี่ยนแปลงบ่อย และการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเข้าถึงและสร้างประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างแท้จริง
6. บทสรุป
Sukavichinomics เป็นกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่มีวิสัยทัศน์ระยะยาวและครอบคลุมพื้นที่ภูมิภาค ช่วยเปลี่ยนโฉมหน้าการพัฒนาของประเทศไทยจากระบบรวมศูนย์ไปสู่การเติบโตแบบกระจายและเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค ภายใต้กรอบการร่วมมือ IMT-GT ทำให้ประเทศไทยสามารถเสริมสร้างศักยภาพของพื้นที่ชายแดนและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


IMT-GT (Indonesia–Malaysia–Thailand Growth Triangle) tags การเมืองผิดหรือครับ ทีมงานพันทิปจึงซ่อนลิ้งค์?
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ1. บทนำ
“Sukavichinomics” คือแนวคิดพัฒนาประเทศที่ได้รับการขนานนามตามชื่อ ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบด้านโครงสร้างพื้นฐานของไทยในช่วงปี 2536–2540 วิสัยทัศน์นี้เน้นการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมในระยะยาว โดยผสมผสานหลักการความเท่าเทียมทางภูมิศาสตร์ (spatial equity) การเชื่อมต่อระบบขนส่งแบบหลากหลายรูปแบบ และความร่วมมือข้ามพรมแดนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในช่วงเวลาเดียวกัน โครงการความร่วมมือสามเหลี่ยมเศรษฐกิจอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2536 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและความร่วมมือข้ามพรมแดนในภูมิภาคนี้ ซึ่ง Sukavichinomics ถือเป็นกรอบยุทธศาสตร์พื้นฐานที่สนับสนุนเป้าหมายของ IMT-GT ในการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน และโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ
2. หลักการสำคัญของ Sukavichinomics
การวางแผนระยะยาวและแบบองค์รวม: การสร้างเครือข่ายคมนาคมขนาดใหญ่ครอบคลุมเส้นทางทางบก ทางราง และทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนย้ายสินค้าและประชากรระหว่างเมืองหลักและเมืองชายแดน
ความเป็นธรรมทางพื้นที่: มุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่ชายขอบ เช่น จังหวัดภาคใต้ที่อยู่ในโครงการ IMT-GT ให้มีโอกาสและศักยภาพทางเศรษฐกิจเทียบเท่ากับศูนย์กลางเมืองหลวง
ความร่วมมือข้ามชาติ: สร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศในสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าและขยายโอกาสทางเศรษฐกิจร่วมกัน
3. แผนแม่แม่บทโครงสร้างพื้นฐาน ของ Sukavichinomics ซึ่งสนับสนุน IMT-GT (Indonesia–Malaysia–Thailand Growth Triangle)
IMT-GT ถูกออกแบบมาเป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจสามประเทศที่มีเป้าหมายเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคผ่าน
การส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงชายแดน
การพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์และอุตสาหกรรมในจังหวัดชายแดน
การส่งเสริมการค้าและการลงทุนแบบบูรณาการ
Sukavichinomics มอบกรอบยุทธศาสตร์ที่มีความสอดคล้องกับเป้าหมายเหล่านี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงจังหวัดภาคใต้ของไทย เช่น สงขลา ยะลา นราธิวาส และสตูล ให้กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเศรษฐกิจที่สำคัญในระดับภูมิภาค
5. ความสำเร็จและความท้าทาย
แม้ว่านโยบาย Sukavichinomics จะถูกชะลอในช่วงยุคหลังปี 2544 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและนโยบายประชานิยมที่มุ่งเน้นเรื่องอื่น แต่โครงสร้างหลักและแผนแม่บทเหล่านี้ยังคงเป็นรากฐานสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์พัฒนาในยุคต่อมา เช่น
การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
ยุทธศาสตร์ ACMECS
การขยายวิสัยทัศน์ IMT-GT ไปจนถึงปี 2036
ความท้าทายสำคัญ คือ การรักษาความต่อเนื่องของนโยบายในบริบทการเมืองที่เปลี่ยนแปลงบ่อย และการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเข้าถึงและสร้างประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างแท้จริง
6. บทสรุป
Sukavichinomics เป็นกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่มีวิสัยทัศน์ระยะยาวและครอบคลุมพื้นที่ภูมิภาค ช่วยเปลี่ยนโฉมหน้าการพัฒนาของประเทศไทยจากระบบรวมศูนย์ไปสู่การเติบโตแบบกระจายและเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค ภายใต้กรอบการร่วมมือ IMT-GT ทำให้ประเทศไทยสามารถเสริมสร้างศักยภาพของพื้นที่ชายแดนและขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ