ไม่ดูถือว่าพลาด! "สงครามส่งด่วน" ของแท้... ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว

กระแสเป็นเรื่องที่สร้างได้ด้วยเทคนิกการตลาด
แต่ของดี มาจากการบอกต่อ
"สงครามส่งด่วน" เป็นอย่างหลัง
ปีที่แล้ว ซีรีย์แห่งปี คือ Queen of Tears
ปีนี้ ซีรีย์ที่ทำถึง  คือ สงครามส่งด่วน

ด้วย จุดแข็งที่ซ่อนอยู่ พร้อมสไตล์งานที่มีลายเซ็นผู้กำกับที่ทำงาน
ด้านสารคดีมามากมาย แต่ซีรีย์นี้ เขายกระดับขึ้นเป็นงานดราม่า ที่เต็มไปด้วย
มุมมองอันแหลมคม และการวางแผนความคิดมาอย่างดี
ทั้งการขยี้หลายแง่มุมที่เราเคยคุ้นชินจากสื่อโซเชี่ยล ผ่านการกำหนดทิศทาง
ความบันเทิงทางความคิด ความเป็นมืออาชีพในการจัดฉาก เครื่องแต่งกาย
ที่ masterful /ชำนาญ จนดู effortless / ไม่ตั้งใจจนเกินไป  
ได้ผลงานกลมกล่อม ที่สามารถขับเคลื่อนความคิดและอารมณ์ของผู้ชม  

1. สมจริง  แต่เต็มไปด้วยการหักมุมหักเหลี่ยม
ทั้งเกมรัก และเกมธุรกิจ
เป็นเรื่องราวที่คล้ายจะเรียบง่าย แต่ยากจะคาดเดา
อีพี 2 เป็นต้นไป มันส์ และน่าติดตาม
ส่วนอีพี 1 ปูเรื่อง ไม่กระชับนัก แต่ปูที่มาของเงินก้อนแรก
และภาพรวมสายสัมพันธ์ไทย-จีน ในสังคมปัจจุบัน บนฐานการวิจัยเจาะลึก
ผ่านเลนส์มุมมองที่แหลมคม ดังนั้นจะพบความสนุกในมุขเสียดสี
การรักษาความเป็นกลางในการนำเสนอได้อย่างมีน้ำหนัก

2. ชั้นเชิงการซ่อนความหมาย
บทสนทนา อาทิ ซีนแห่งการพบกันครั้งแรกของผู้ชายสองคน
ที่สัมพันธ์กับนางเอก กลไกการเขียนบท เนียบเนียน
เป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ซ่อนความหมายระหว่างบรรทัดมากมาย
เช่นเดียวกับการหยิบฉวยคำพูด ท่วงท่า ในแวดวงธุรกิจ
ที่ทำให้ผู้ชมต้องใช้สมองตีความ ทำให้เรื่องราวที่เรียบง่าย
ไม่ได้ดูง่าย ธรรมดา จนขาดความท้าทาย

การใช้ภาพสัญลักษณ์ ไก่กางปีกจะบิน
ไม่เพียงเชื่อมโยงกับยูคอน อาชาแห่งความฝัน
รางวัลเป้าหมายของเหล่า startup ได้อย่างชาญฉลาดและแยบยล
แต่ยังอธิบายความบ้านๆ กับภาวะ think big ของพระเอกได้อย่างลงตัว
ไก่ยินได้ ไม่มีอยู่จริง นั่นคือ ความท้าทายที่จะทำสิ่งที่ไม่เคยมี ให้มีขึ้นได้

3. ตัวละครที่ครองใจผู้ชม
ตัวละครทั้งหมดเผชิญกับวิกฤตของตนเอง
แต่พวกเขาคือ คนที่ผู้ชมรักและเห็นใจได้ ในด้านใดด้านหนึ่ง
เป็นบุคคลใกล้ตัว ที่ถูกเล่าออกมาอย่างสง่างาม  
ซึ่งทำให้เกิดแรงเชียร์ จากคนส่วนใหญ่ ที่เผชิญ
สภาวการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ ความกดดันจากครอบครัว
ไม่ต่างจากตัวละคร

นักแสดงทั้งหมด ทำงานออกมาได้น่าทึ่ง
ทุกคนเต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ทางการแสดง
อินกับบท และสามารถที่จะสื่อสารให้
ผู้ชมเข้าใจความรู้สึกอันซับซ้อนได้

ในขณะที่ตัวละครทะเยอทะยานเพราะปมความจำเป็นเรื่องเงิน
พวกเขากลับอยู่ในโลกของความสัมพันธ์ต่อมนุษย์ที่ "priceless"
เลอค่า จนไม่อาจประเมินราคาได้

4. รสชาติใหม่ของความรัก
ความรู้สึกเกี่ยวกับความรักในเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องทั่วๆไป
ตรงผสานความ Hurt & Warm, Bitter & Sweet
เจ็บปวดและอบอุ่น หวานๆขมๆ  ไปตลอดเรื่อง
ซึ่งทำให้เกิดอรรถรสอันซับซ้อน และฉายความแกว่งระหว่างขั้ว
ความหวังกับความจริงอยู่ตลอดเวลา ทั้งเกมรักและเกมธุรกิจ

นักแสดงถึงบทและเลือกไม่ถูก ว่าจะรักใครมากกว่า
ตัวอย่างซีนที่ตัวละครเอกเอามือหยิบน้ำแข็งลงแก้วไวน์
ซึ่งผู้ที่มีความรู้เรื่องไวน์จะรู้ว่า ปกติการดื่มไวน์ ไม่ใส่น้ำแข็ง
ซีนนี้ หนังไม่ได้บอกอะไรมากจนเสียอรรถรสทางความคิดของผู้ชมในการสำรวจตัวละคร
ขณะเดียวกัน ซีนนี้ไม่ได้ดูยาก จนคนที่ไม่ดื่มไวน์จะเข้าใจไม่ได้
ถึงอุปนิสัย บุคลิกลักษณะของพระเอก ที่แตกต่างจากฝ่ายตรงข้าม

5. สะท้อนความเป็นไทย ผ่านลักษณะตัวละครเอก
และเรื่องราวการสร้างธุรกิจ ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับ ประเทศไทย ที่มักเคลมว่า
"กำลังพัฒนา" ความเป็นเด็ก ความบ้านๆ ตรงไปตรงมา ความมุ่งมั่นตั้งใจ และน่าเอ็นดู  
ความรักต่อแม่ รวมถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมด้านการร่วมแรงร่วมใจเมื่อเกิดวิกฤต
ทั้งหมดนี้ บรรจุแก่นสาร ความเป็นไทย และเป็นบุคลิกของหนังไทย
ซึ่งเป็นความน่าเอ็นดู ที่ได้รับเสียงปรบมือต้อนรับในเวทีนานาชาติ

ในอนาคต น่าจะมีหนังที่ทำออกมาแบบไม่เกรงบารมีลูกพี่จีน อเมริกา
เปิดความแกรนด์ กระหายความสมบูรณ์ในโลกจิตนาการ ไม่มีความเป็นทีเล่นทีจริง
ซึ่งงานแนวนี้ของไทย ยังหายากอยู่

เรื่องราวทั้งหมด ดูผิวเผิน ไหลลื่น ผ่านการวางแผนทางศิลปะที่ไม่มาก ไม่น้อย
แต่เป็นความธรรมดาที่น่าค้นหา และเข้าใจการสร้างจุดมันส์ เร้าใจ
จากปมเรื่องการต่อสู้ทางธุรกิจในสังคมปัจจุบัน
ซีนที่มีชั้นเชิง อาทิ ใช้จอแดงบนคอมพิวเตอร์ ข้างหลัง
ตัวละคร แทนคำพูดมากมาย

รู้สึกเสียอารมณ์ กับ การเติมคำว่า
ภูมิใจในตัวใครสักคน แทนที่จะพูดว่า เหนื่อยไหม กางเกงยับนะ
ซึ่งให้บทสนทนาที่ดูมีชั้นเชิง ทำให้ตัวละครกดปุ่มน้ำตาผู้ชมได้มากกว่า

ซีรีย์ไทยเรื่องนี้ กำหนดเทรนด์แหวกกระแสหนังผี
โชว์น้ำหนักความคมคาย ทั้งทางความคิดและอารมณ์ที่ลุ่มลึก
คุณภาพนักแสดงไทย ความสนุก หลากรส น่าติดตาม
ซึ่งผู้กำกับไทยคนต่อๆ ไป ต้องหาแนวทางของตนเอง
เพื่อให้แข่งขันได้ในระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชมที่ต้องการผลงานคุณภาพ
สามารถกระเทาะกระบวนทัศน์ รื้อระบบชุดความคิดเดิมๆ ที่ผู้ชมเคยมี
สงครามส่งด่วน ไม่เพียงลบคำวิจารณ์ หนังไทยตื้นเขินเกินไป ไม่ท้าทายความคิด  
แต่เป็นก้าวที่เร้าให้รอติดตามผลงานคนไทยชิ้นต่อๆไป  



*** หากแชร์คอมเม้นท์ โปรดหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อหา
โดยอาจใช้วิธีพูดเป็นนัย ที่ผู้ชมคิดถึงซีนนั้นได้  
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่