พระพุทธภูมิ ๓

ก็พระพุทธภูมินี้มีอยู่ ๓ คือ
๑. ท่านที่เป็นอุคฆติตัญญู คือ ผู้รู้พลัน พอยกข้อความขึ้นก็รู้พลัน จึงบำเพ็ญปัญญาบารมีมาก และเข้มแข็งในการบำเพ็ญบารมี ๑๐ นั้นตลอด
เฉพาะออกคำตั้งปณิธาน เมื่อได้รับพระพุทธพยากรณ์เป็นนิยตแน่นอนแล้ว ต้องบำเพ็ญระยะกาล ๔ อสงขัย ๑ แสนกัป
จึงมีชื่อว่า พระปัญญาธิกพุทธภูมินิยตบรมโพธิสัตว์
             ๒. ท่านที่เป็นวิปจิตัญญู คือ ผู้รู้ด้วยการฟังอธิบายจึงได้สร้างสมขึ้นให้แจ่มแจ้ง จึงมีสัทธา-ความเชื่อมั่นบำเพ็ญบารมี ๑๐ ตามสมควรไม่หยุด
เฉพาะกาลออกคำตั้งปณิธาน และเมื่อได้รับพระพุทธพยากรณ์เป็นนิยตแน่นอนแล้ว มีระยะกาลบำเพ็ญบารมีอีก ๘ อสงขัย ๒ แสนกัป
จึงมีชื่อว่า พระสัทธาธิกพุทธภูมินิยตบรมโพธิสัตว์
             ๓. ท่านที่เป็นเนยยะ คือ ผู้พอนำได้มีเพียรมั่น คงบำเพ็ญบารมี ๑๐ ได้มากอย่างสบาย เพราะผ่านสิ่งกีดขวางได้หมด จึงเป็นผู้ยิ่งด้วยวิริย-ความเพียร เฉพาะกาลออกคำปณิธาน และเมื่อได้รับพระพุทธพยากรณ์เป็นนิยตแน่นอนแล้ว ต้องบำเพ็ญมีระยะกาลอีก ๑๖ อสงขัย ๔ แสนกัป
จึงมีชื่อว่า พระวิริยาธิกพุทธภูมินิยตบรมโพธิสัตว์


คัดลอกบางส่วนจากหนังสือ
พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ
ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย
ของ
พระราชกวี
(อ่ำ ธมฺมทตฺโต ป.ธ.๖)
วัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพมหานคร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่