ที่มา :
https://women.kapook.com/view293139.html
อัพเดทข้อมูลโดย จขกท. (CartoonZX)
กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อน ๆ ในโลกออนไลน์ขณะนี้ กรณีโพสต์ของ ไฮโซน้ำหวาน พัสวี ภรรยาของ นาวิน ต้าร์ ที่ได้โพสต์คลิปของสามีและลูก ๆ ทั้ง 3 ขณะใช้เวลาครอบครัวด้วยกันในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พร้อมบอกเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่โอเค จากสายตาของคนในร้าน จนกลายเป็นวันธรรมดาที่แสนจะหนัก เพราะต้องทำหน้าที่ปกป้องลูก ๆ โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้
"วันนี้เป็นอีกวันธรรมดาที่แสนจะหนักเมื่อต้องทำหน้าที่ปกป้องลูกทั้ง 3 คน จากสายตาคนคนนึงที่ดูโหดร้ายและน่ากลัว ทุกวันหยุดของเรา เพราะคุณพ่อเดินออกไปข้างนอกเหลือแค่คุณแม่ ปกติน้ำหวานจะพาลูก ๆ ทั้ง 3 คน ออกไปนั่งร้านกาแฟและกินขนมนอกบ้าน ด้วยความที่เด็ก 3 คนของเรา เคยชินกับการไปร้านกาแฟเจ้าประจำ ในความเป็นเด็กมีคุยกันร้องเพลง ซึ่งอาจจะมีเสียงรบกวนบ้าง แต่เราดูแลลูกเป็นอย่างดี ไม่ได้ทำให้รบกวนใครจนเกินไป มีลูกค้าทุกโต๊ะนั่งยิ้มและหลายท่านทักทายคุยกับเด็ก ๆ แต่ในความสนุกนั้น กับมีสายตาคู่นึงนั่งค้อนน้องและหันมามองลูกทั้ง 3 เหมือนจะกินลูกน้ำหวานทั้ง 3 คนเข้าไปในท้อง ด้วยความที่อาจจะมานั่งทำวิทยานิพนธ์ ต้องการความเงียบแบบไร้เสียง ซึ่งส่วนตัวแนะนำว่าคุณควรนั่งทำที่ห้องเงียบ ๆ เพราะร้านกาแฟเสียงเครื่องปั่นก็ดังมาก ทุกโต๊ะก็นั่งกันเป็นครอบครัวบ้าง คุยสนุกกับเพื่อน ๆ บ้าง โดยรวมดูอบอุ่น แต่มีท่านผู้หญิงอายุประมาณ 23-25 อยู่ท่านนึง มาด้วยอาการหันมามองเด็ก ๆ ด้วยสายตาแย่ ๆ ถึง 3-4 ครั้ง ทำให้เด็กตกใจ และเค้ายังไม่รู้ว่าเค้าผิดยังไง ทำไมต้องเจอการสายตาแบบนี้กับผู้ใหญ่ที่ไร้ความคิด ไร้คุณธรรมเช่นนี้ ถ้าคุณอยากจะว่า ต้องว่าที่น้ำหวาน เลี้ยงลูกอบรมไม่ดี ไม่ใช่ส่งสายตานี้ไปที่เด็ก 1 ขวบครึ่ง 5 ขวบ และ 7 ขวบ แบบนี้ ในขณะที่คุณก็คงเคยผ่านการเป็นเด็กมาก่อน น้ำหวานอาจจะอบรมลูกไม่ได้พอ แต่ด้วยการเลี้ยงดูของคนเป็นแม่เราจะสอนให้เข้าใจ ไม่ใช่สั่งด้วยสายตาอย่างไร้เหตุผลเพื่อทำให้เด็กกลัว น้ำหวานอยู่ในจุดที่ปกป้องลูกด้วยความอดทนสูงสุด คือเดินเข้าไปที่โต๊ะดังกล่าวและมองเพื่อส่งสายตาบอกว่าว่าที่ชั้นสิ และในขณะเดียวกันได้บอกลูกว่าไม่ต้องกลัวนะลูก แม่อยู่ตรงนี้ หนูไม่ได้ทำอะไรผิด เพื่อให้กำลังใจลูกไม่ให้กลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะน้องโกะกำลังจะร้องไห้ และน้ำหวานได้พูดตรงโต๊ะนั้นไปว่าการที่ผู้ใหญ่แสดงปฏิกิริยาแบบนี้ต่อเด็ก มันแย่กว่าสิ่งที่เด็กเสียงดังเยอะมากค่ะ ซึ่งน้ำหวานก็รอเค้าที่จะคุยโต้ตอบ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบคำพูดใด ๆ แต่วันนี้รู้สึกอัดอั้นจริง ๆ ไม่อยากให้คุณแม่ท่านไหนมาเจอในสิ่งที่เจอแบบน้ำหวาน ในเหตุการณ์จริง มันแย่กว่านี้มากค่ะ #แม่ลูก3"
โดยในโพสต์ดังกล่าวก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ทั้งคณะทัวร์ที่เข้ามาติติงทางฝั่งของน้ำหวาน ว่าการพาเด็กเล็ก ๆ ไปร้านกาแฟแล้วส่งเสียงดัง ถือเป็นการรบกวนลูกค้ารายอื่น ๆ แม้จะคิดว่าเสียงไม่ดังเกินไป แต่ความรู้สึกถูกรบกวนของคนเราก็ไม่เท่ากัน จึงควรเกรงใจคนรอบข้าง และสอนลูกในเรื่องนี้ด้วย บ้างก็ว่าลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน อีกฝ่ายส่งสายตาก็ถือว่าสุภาพแล้ว เหมือนเป็นการเตือนทางอ้อม จริง ๆ เขาอาจจะอยากตำหนิผู้ปกครองมากกว่า อย่างไรก็ตามหลายคนมองว่าเรื่องนี้เด็กไม่ผิด เพราะเป็นธรรมชาติของเด็ก แต่แนะนำว่าหากอยากพาลูก ๆ ไปพักผ่อน ควรไปคาเฟ่สำหรับเด็ก หรือร้านที่เป็นสไตล์สำหรับครอบครัวอาจจะเหมาะสมกว่า ขณะเดียวกันก็มีคนเห็นด้วยกับน้ำหวานว่าแม้ร้านกาแฟจะไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่ก็ไม่ใช่ที่สำหรับนั่งทำงานเช่นกัน พร้อมกันนี้ก็มีแฟน ๆ ที่คอมเมนต์ส่งกำลังใจให้กับน้ำหวานและครอบครัวกันด้วย ล่าสุด ไฮโซน้ำหวาน ได้ชี้แจงเรื่องดราม่าดังกล่าวพร้อมเล่าว่าไม่ได้ตั้งใจจะว่าใคร เพียงแค่ต้องการให้กำลังใจกับกลุ่มแม่ๆ ที่ติดตามโซเชียลของตนเองแค่นั้น ในฐานะคนเป็นแม่แต่ก็ต้องใช้กฎหมายในการปกป้องตนเองและลูกๆเมื่อเจอคอมเม้นท์ติชมที่หยาบคายเกินกว่าเหตุ และเธอได้บอกว่าตัวเธอรับคำติชมได้โดยเฉพาะคอมเม้นท์ที่เป็นกลาง โดยที่ตัวเธอเองจะดำเนินคดีกับคอมเม้นท์ดูหมิ่นตามกฎหมายต่อไป
สรุปดราม่า ไฮโซน้ำหวาน เล่าเหตุปกป้องลูกในร้านกาแฟ เจอชาวเน็ตทัวร์ลง-เสียงแตก !?
อัพเดทข้อมูลโดย จขกท. (CartoonZX)
กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อน ๆ ในโลกออนไลน์ขณะนี้ กรณีโพสต์ของ ไฮโซน้ำหวาน พัสวี ภรรยาของ นาวิน ต้าร์ ที่ได้โพสต์คลิปของสามีและลูก ๆ ทั้ง 3 ขณะใช้เวลาครอบครัวด้วยกันในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พร้อมบอกเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่โอเค จากสายตาของคนในร้าน จนกลายเป็นวันธรรมดาที่แสนจะหนัก เพราะต้องทำหน้าที่ปกป้องลูก ๆ โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้
"วันนี้เป็นอีกวันธรรมดาที่แสนจะหนักเมื่อต้องทำหน้าที่ปกป้องลูกทั้ง 3 คน จากสายตาคนคนนึงที่ดูโหดร้ายและน่ากลัว ทุกวันหยุดของเรา เพราะคุณพ่อเดินออกไปข้างนอกเหลือแค่คุณแม่ ปกติน้ำหวานจะพาลูก ๆ ทั้ง 3 คน ออกไปนั่งร้านกาแฟและกินขนมนอกบ้าน ด้วยความที่เด็ก 3 คนของเรา เคยชินกับการไปร้านกาแฟเจ้าประจำ ในความเป็นเด็กมีคุยกันร้องเพลง ซึ่งอาจจะมีเสียงรบกวนบ้าง แต่เราดูแลลูกเป็นอย่างดี ไม่ได้ทำให้รบกวนใครจนเกินไป มีลูกค้าทุกโต๊ะนั่งยิ้มและหลายท่านทักทายคุยกับเด็ก ๆ แต่ในความสนุกนั้น กับมีสายตาคู่นึงนั่งค้อนน้องและหันมามองลูกทั้ง 3 เหมือนจะกินลูกน้ำหวานทั้ง 3 คนเข้าไปในท้อง ด้วยความที่อาจจะมานั่งทำวิทยานิพนธ์ ต้องการความเงียบแบบไร้เสียง ซึ่งส่วนตัวแนะนำว่าคุณควรนั่งทำที่ห้องเงียบ ๆ เพราะร้านกาแฟเสียงเครื่องปั่นก็ดังมาก ทุกโต๊ะก็นั่งกันเป็นครอบครัวบ้าง คุยสนุกกับเพื่อน ๆ บ้าง โดยรวมดูอบอุ่น แต่มีท่านผู้หญิงอายุประมาณ 23-25 อยู่ท่านนึง มาด้วยอาการหันมามองเด็ก ๆ ด้วยสายตาแย่ ๆ ถึง 3-4 ครั้ง ทำให้เด็กตกใจ และเค้ายังไม่รู้ว่าเค้าผิดยังไง ทำไมต้องเจอการสายตาแบบนี้กับผู้ใหญ่ที่ไร้ความคิด ไร้คุณธรรมเช่นนี้ ถ้าคุณอยากจะว่า ต้องว่าที่น้ำหวาน เลี้ยงลูกอบรมไม่ดี ไม่ใช่ส่งสายตานี้ไปที่เด็ก 1 ขวบครึ่ง 5 ขวบ และ 7 ขวบ แบบนี้ ในขณะที่คุณก็คงเคยผ่านการเป็นเด็กมาก่อน น้ำหวานอาจจะอบรมลูกไม่ได้พอ แต่ด้วยการเลี้ยงดูของคนเป็นแม่เราจะสอนให้เข้าใจ ไม่ใช่สั่งด้วยสายตาอย่างไร้เหตุผลเพื่อทำให้เด็กกลัว น้ำหวานอยู่ในจุดที่ปกป้องลูกด้วยความอดทนสูงสุด คือเดินเข้าไปที่โต๊ะดังกล่าวและมองเพื่อส่งสายตาบอกว่าว่าที่ชั้นสิ และในขณะเดียวกันได้บอกลูกว่าไม่ต้องกลัวนะลูก แม่อยู่ตรงนี้ หนูไม่ได้ทำอะไรผิด เพื่อให้กำลังใจลูกไม่ให้กลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะน้องโกะกำลังจะร้องไห้ และน้ำหวานได้พูดตรงโต๊ะนั้นไปว่าการที่ผู้ใหญ่แสดงปฏิกิริยาแบบนี้ต่อเด็ก มันแย่กว่าสิ่งที่เด็กเสียงดังเยอะมากค่ะ ซึ่งน้ำหวานก็รอเค้าที่จะคุยโต้ตอบ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบคำพูดใด ๆ แต่วันนี้รู้สึกอัดอั้นจริง ๆ ไม่อยากให้คุณแม่ท่านไหนมาเจอในสิ่งที่เจอแบบน้ำหวาน ในเหตุการณ์จริง มันแย่กว่านี้มากค่ะ #แม่ลูก3"
โดยในโพสต์ดังกล่าวก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ทั้งคณะทัวร์ที่เข้ามาติติงทางฝั่งของน้ำหวาน ว่าการพาเด็กเล็ก ๆ ไปร้านกาแฟแล้วส่งเสียงดัง ถือเป็นการรบกวนลูกค้ารายอื่น ๆ แม้จะคิดว่าเสียงไม่ดังเกินไป แต่ความรู้สึกถูกรบกวนของคนเราก็ไม่เท่ากัน จึงควรเกรงใจคนรอบข้าง และสอนลูกในเรื่องนี้ด้วย บ้างก็ว่าลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน อีกฝ่ายส่งสายตาก็ถือว่าสุภาพแล้ว เหมือนเป็นการเตือนทางอ้อม จริง ๆ เขาอาจจะอยากตำหนิผู้ปกครองมากกว่า อย่างไรก็ตามหลายคนมองว่าเรื่องนี้เด็กไม่ผิด เพราะเป็นธรรมชาติของเด็ก แต่แนะนำว่าหากอยากพาลูก ๆ ไปพักผ่อน ควรไปคาเฟ่สำหรับเด็ก หรือร้านที่เป็นสไตล์สำหรับครอบครัวอาจจะเหมาะสมกว่า ขณะเดียวกันก็มีคนเห็นด้วยกับน้ำหวานว่าแม้ร้านกาแฟจะไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่ก็ไม่ใช่ที่สำหรับนั่งทำงานเช่นกัน พร้อมกันนี้ก็มีแฟน ๆ ที่คอมเมนต์ส่งกำลังใจให้กับน้ำหวานและครอบครัวกันด้วย ล่าสุด ไฮโซน้ำหวาน ได้ชี้แจงเรื่องดราม่าดังกล่าวพร้อมเล่าว่าไม่ได้ตั้งใจจะว่าใคร เพียงแค่ต้องการให้กำลังใจกับกลุ่มแม่ๆ ที่ติดตามโซเชียลของตนเองแค่นั้น ในฐานะคนเป็นแม่แต่ก็ต้องใช้กฎหมายในการปกป้องตนเองและลูกๆเมื่อเจอคอมเม้นท์ติชมที่หยาบคายเกินกว่าเหตุ และเธอได้บอกว่าตัวเธอรับคำติชมได้โดยเฉพาะคอมเม้นท์ที่เป็นกลาง โดยที่ตัวเธอเองจะดำเนินคดีกับคอมเม้นท์ดูหมิ่นตามกฎหมายต่อไป