== King of Comedy (1999) ชีวิตรันทดของนักแสดงตัวประกอบ (คนเล็กไม่เกรงใจนรก) ==



อี้เทียนเฉา ชายผู้มีความฝันอยากเป็นนักแสดงไม่ว่าจะละครเวที ภาพยนตร์ ละคร
อะไรก็ตามขอให้ได้แสดงเถอะเขายินดี แต่เส้นทางใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่ายๆ
นอกจากที่เขาจะเปิดสอนการแสดงในชุมชน (ที่ไม่มีใครมาเรียนสักที)
อี้เทียนเฉาก็หมั่นไปยังกองถ่ายเพื่อหวังว่าจะมีใครรับเขาไปร่วมงาน



แต่เมื่อมีงานก็แค่ตัวประกอบ โผล่เข้าฉากปุ๊บตายทันที หรือไม่งั้นก็นอนตายเป็นศพตั้งแต่แรก
ชีวิตอะไรจะน่าเศร้าเช่นนี้ แต่อาเฉาก็ไม่ย่อท้อ ความฝันในการเป็นนักแสดงไม่เคยจางหายไปจากจิตวิญญาณของเขาเลยสักวัน



จนกระทั่งอาเฉาได้พบกับอาเพียว หญิงสาวที่ทำงานเป็นเด็กนั่งดริ้งค์ในบาร์
เธอมาหาพระเอกของเราเพื่อหวังฝึกวิชาแอคติ้งในตัวให้มากขึ้นเพื่อจะได้เรียกเงินจากแขกได้อย่างเป็นกอบเป็นกำมากกว่าเดิม..
และเมื่อใกล้ชิดกันมากขึ้นความรู้สึกดีดีก็ค่อยๆก่อตัวระหว่างคนทั้งสอง ..
และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง อย่างกะทันหันและคาดไม่ถึง โอกาสที่จะได้เป็นดาราของอี้เทียนเฉาก็ใกล้จะมาถึงแล้ว



King of Comedy (喜劇之王) หรือในชื่อไทยว่าคนเล็กไม่เกรงใจนรก
ผลงานการกำกับร่วมกันอีกครั้งของ Lee Lik-chi และโจว ซิงฉือ
เรื่องราวชีวิตของนักแสดงตัวประกอบที่อยากมีโอกาสฉายแสงให้กับตัวเองในวงการบันเทิงแต่มันก็ยากเย็นเหลือเกิน
นำแสดงโดยโจว ซิงฉือ ..ม่อ เหวิน เหว่ย (คาเรน ม็อก) ..จาง ป๋อจือ และอู๋ เมิ่งต๋า



นี่คือหนังที่จะทำให้คุณยิ้มทั้งน้ำตา จากโปสเตอร์หนังก็เห็นว่าทุกคนยิ้มแต่มีน้ำตาไหลออกมาทั้งนั้น
นั่นล่ะคือสิ่งที่คนดูจะรู้สึกกับหนังเรื่องนี้ไม่ต่างกัน เพราะมันเป็นการให้เห็นถึงชีวิตที่อาจจะดูเป็นพวกขี้แพ้นิดๆ
ของพระเอกที่พยายามแค่ไหนก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันสักที แต่วงการบันเทิงมันก็แบบนี้
ใครจะไปประสบความสำเร็จกันได้ง่ายๆ โอกาสที่แต่ละคนจะมีเข้ามามันก็น้อยพอๆกับการงมเข็มในมหาสมุทร
แต่กระนั้นอาเฉาไม่เคยย่อท้อแต่อย่างใด



โดนกดขี่ ดูถูกสารพัด ชนิดที่เงินค่าตัวไม่เอา ขอแค่ข้าวกล่องกองถ่ายกินแค่นั้นก็พอ
ขอแค่ได้มีโอกาสแสดงฝีมือให้คนอื่นได้เห็น ให้ได้รับการยอมรับกันบ้าง ผมเชื่อว่าชีวิตจริงก็เป็นแบบนี้
หลายคนขอแค่ได้โอกาสแรกเท่านั้นล่ะ อะไรก็ยอมทั้งนั้น แต่ใครล่ะที่จะให้โอกาสกันได้ง่ายๆ
หลายคนทั้งชีวิต พยายามแทบตาย สุดท้ายได้แค่เดินผ่านหน้ากล้องไม่ได้เคยมีบทพูดเลยแม้แต่คำเดียว



และยังว่าด้วยอีกอาชีพที่เหมือนจะเป็นคนชายขอบอย่างสาวในบาร์ คอยให้บริการหนุ่มๆขี้เหงา ขี้เมา และขี้..ทั้งหลาย
แต่ละคนจะมานั่งเลือกแขกกันก็ไม่ได้ ทุกคนต่างก็ต้องทำงานเพื่อหวังหาเงินมาเลี้ยงตัวเองทั้งนั้น
โดยบทนี้เป็นจางป๋อจือ ที่แสดงหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในชีวิต คู่กันกับหนังโคตรเศร้าอย่าง Fly Me to Polaris 



การแสดงของจางป๋อจือ ที่หากว่าใครเป็นแฟนตัวยงของเธอรับรองว่าโคตรจะคุ้ม เพราะมีครบทุกรสชาติ
โดยเฉพาะความเพี้ยนแบบสุดขั้วที่รับประกันได้เลยว่า สาวสวยขนาดนี้ไม่ไปต๊องที่ไหนนอกจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ยิ่งในซีนอารมณ์เศร้าเธอโชว์ความสามารถระดับสุดยอด ทำให้เธอกลายเป็นดาวดวงใหม่ของวงการหนังฮ่องกงในทันที



ท้ายเรื่องมีความดราม่าหนักหน่วงมาก ฉากตัดสลับไปมาให้เห็นถึงชีวิตที่กำลังจะรุ่งโรจน์ของอาเฉา
กับชีวิตสาวบาร์ของอาเพียว มันขัดแย้งในความรู้สึกแบบสุดๆ ..
King of Comedy สำหรับผมมันจึงไม่ใช่หนังตลกโปกฮาเลยสักนิด แต่มันเป็นดราม่าเสียดสีชีวิตของคนที่ขาดโอกาสในสังคม
ไม่มีที่ยืนได้พิสูจน์ตัวเองให้กับพวกเขาเหล่านั้น ในหนังอาจจะมีจุดเปลี่ยนชีวิตที่พลิกผันได้
แต่กับความเป็นจริง บางคนรอจนตายก็ไม่มีวันนั้น
รวมไปถึงเรื่องของความรักที่เชื่อกันว่า โจวซิงฉือ นำเอาชีวิตรักของตัวเองในห้วงเวลานั้นมาเขียนเป็นบทภาพยนตร์!!!



สุดท้ายพระเอกจะไปถึงฝันได้หรือไม่ อาเพียวยังจะต้องจมอยู่กับการเป็นสาวบาร์ตลอดไปหรือเปล่า
ไปหาชมกันได้นะครับ กับหนังที่แปลชื่อไทยว่า คนเล็กไม่เกรงใจนรก
คือมันต้องคนเล็กทุกเรื่องสิน่าถ้าโจวซิงฉือเล่น ขัดใจจริงๆ จะเล็กไปไหน
และก็เรื่องนี้เฉินหลงมารับบทตัวประกอบด้วยนะครับ ใช่แล้ว รับเชิญมาให้เล่นเป็นตัวประกอบจริงๆ!!!


เพราะหนังมันฝังใจ


=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่