ปัจจุบันมีเครื่องมือ AI มากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ทั้งในด้านการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ และการใช้ชีวิตประจำวัน
และนี่คือตัวอย่างบางส่วนที่ได้รับความนิยมและมีความสามารถสูง
ChatGPT (OpenAI)
เป็นผู้นำในกลุ่มนี้ มีความสามารถในการสนทนาโต้ตอบแบบธรรมชาติ ตอบคำถาม สร้างเนื้อหาได้หลากหลายรูปแบบ เช่น บทความ อีเมล โค้ด หรือแม้แต่บทกวี สามารถวิเคราะห์ข้อมูล สรุปข้อมูล และเรียนรู้จากบทสนทนาที่ผ่านมาได้ ปัจจุบันมีเวอร์ชันที่สามารถวิเคราะห์ไฟล์ เช่น PDF หรือ Spreadsheet ได้ด้วย
Gemini (Google)
เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ Google มีความสามารถคล้ายกับ ChatGPT แต่มีจุดเด่นคือสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดผ่าน Google Search ได้ ทำให้ได้ข้อมูลที่ทันสมัยกว่า นอกจากนี้ยังสามารถโต้ตอบเกี่ยวกับรูปภาพ และสร้างสรรค์ผลงานได้หลายรูปแบบ
Claude (Anthropic)
เป็น AI ที่เน้นความปลอดภัยและความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการสนทนาและเขียนเชิงสร้างสรรค์ได้ดีเยี่ยม สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและปรับปรุงเอกสารได้ จุดเด่นคือความแม่นยำในการเข้าใจความแตกต่างเล็กน้อยของการเขียนโปรแกรมและการสนทนาที่เป็นธรรมชาติ
Copy.ai / Jasper / Rytr
เครื่องมือเหล่านี้เน้นการสร้างเนื้อหาสำหรับการตลาดและการเขียนโฆษณาโดยเฉพาะ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น บทความ, หัวข้อบล็อก, คำบรรยายสินค้า
Midjourney / DALL·E 3 / Stable Diffusion / Ideogram
เป็น AI ที่สามารถสร้างภาพจากคำอธิบายที่เป็นข้อความ (text-to-image) ได้อย่างน่าทึ่ง โดยมีความหลากหลายของสไตล์และความซับซ้อนของภาพแตกต่างกันไป เหมาะสำหรับศิลปิน นักออกแบบ หรือผู้ที่ต้องการภาพประกอบที่ไม่ซ้ำใคร
Canva AI: แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิกยอดนิยมที่นำ AI เข้ามาช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างกราฟิก แบนเนอร์ หรือสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ด้วยฟังก์ชัน AI ที่ช่วยในการจัดองค์ประกอบและปรับแต่ง
Runway / Descript / Wondershare Filmora
เครื่องมือเหล่านี้ใช้ AI เพื่อช่วยในการสร้างและตัดต่อวิดีโอ เช่น การถอดเสียงพูดเป็นข้อความ (transcription), การสร้างคำบรรยายอัตโนมัติ, การลบพื้นหลัง, หรือแม้แต่การสร้างวิดีโอจากข้อความ
Murf.ai / Synthesia: AI ที่สามารถเปลี่ยนข้อความให้กลายเป็นเสียงพูด (text-to-speech) ที่เหมือนจริง โดยสามารถเลือกลักษณะของผู้บรรยายได้ หรือสร้างวิดีโอที่มีอวตารเสมือนจริงบรรยายจากข้อความ
Grammarly / Wordtune
เครื่องมือช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ การสะกดคำ และปรับปรุงคุณภาพการเขียนให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการปรับสำนวนการเขียนให้เหมาะสมกับบริบท
Notion AI
เป็นส่วนเสริมของ Notion ที่ช่วยในการสรุปเนื้อหา, ตรวจสอบไวยากรณ์, แปลภาษา, และช่วยจัดการข้อมูลต่างๆ ในพื้นที่ทำงาน
Otter.ai / MeetGeek
AI ที่ช่วยในการถอดเสียงการประชุมเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ สรุปประเด็นสำคัญ และระบุผู้พูด ทำให้การประชุมมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถทบทวนข้อมูลได้ง่าย
IBM Watson
แพลตฟอร์ม AI ที่มีชื่อเสียงด้านความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ การบริการลูกค้า หรือการตัดสินใจทางธุรกิจ
Salesforce Einstein: AI ที่ถูกฝังอยู่ในระบบ CRM ของ Salesforce เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า, คาดการณ์แนวโน้ม, และให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์กับลูกค้า
และยังมีอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง
เพื่อนๆล่ะ มีใครใช้ ai ตัวไหนอยู่เป็นประจำ หรือชอบใช้ตัวไหนกันบ้าง คอมเมนต์บอกกันได้นะ
Top ai ตัวเด่นตัวดัง พ.ศ.นี้มีอะไรบ้างมาดูกัน
ปัจจุบันมีเครื่องมือ AI มากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ทั้งในด้านการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ และการใช้ชีวิตประจำวัน
และนี่คือตัวอย่างบางส่วนที่ได้รับความนิยมและมีความสามารถสูง
ChatGPT (OpenAI)
เป็นผู้นำในกลุ่มนี้ มีความสามารถในการสนทนาโต้ตอบแบบธรรมชาติ ตอบคำถาม สร้างเนื้อหาได้หลากหลายรูปแบบ เช่น บทความ อีเมล โค้ด หรือแม้แต่บทกวี สามารถวิเคราะห์ข้อมูล สรุปข้อมูล และเรียนรู้จากบทสนทนาที่ผ่านมาได้ ปัจจุบันมีเวอร์ชันที่สามารถวิเคราะห์ไฟล์ เช่น PDF หรือ Spreadsheet ได้ด้วย
Gemini (Google)
เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ Google มีความสามารถคล้ายกับ ChatGPT แต่มีจุดเด่นคือสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดผ่าน Google Search ได้ ทำให้ได้ข้อมูลที่ทันสมัยกว่า นอกจากนี้ยังสามารถโต้ตอบเกี่ยวกับรูปภาพ และสร้างสรรค์ผลงานได้หลายรูปแบบ
Claude (Anthropic)
เป็น AI ที่เน้นความปลอดภัยและความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการสนทนาและเขียนเชิงสร้างสรรค์ได้ดีเยี่ยม สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและปรับปรุงเอกสารได้ จุดเด่นคือความแม่นยำในการเข้าใจความแตกต่างเล็กน้อยของการเขียนโปรแกรมและการสนทนาที่เป็นธรรมชาติ
Copy.ai / Jasper / Rytr
เครื่องมือเหล่านี้เน้นการสร้างเนื้อหาสำหรับการตลาดและการเขียนโฆษณาโดยเฉพาะ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น บทความ, หัวข้อบล็อก, คำบรรยายสินค้า
Midjourney / DALL·E 3 / Stable Diffusion / Ideogram
เป็น AI ที่สามารถสร้างภาพจากคำอธิบายที่เป็นข้อความ (text-to-image) ได้อย่างน่าทึ่ง โดยมีความหลากหลายของสไตล์และความซับซ้อนของภาพแตกต่างกันไป เหมาะสำหรับศิลปิน นักออกแบบ หรือผู้ที่ต้องการภาพประกอบที่ไม่ซ้ำใคร
Canva AI: แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิกยอดนิยมที่นำ AI เข้ามาช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างกราฟิก แบนเนอร์ หรือสื่อโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ด้วยฟังก์ชัน AI ที่ช่วยในการจัดองค์ประกอบและปรับแต่ง
Runway / Descript / Wondershare Filmora
เครื่องมือเหล่านี้ใช้ AI เพื่อช่วยในการสร้างและตัดต่อวิดีโอ เช่น การถอดเสียงพูดเป็นข้อความ (transcription), การสร้างคำบรรยายอัตโนมัติ, การลบพื้นหลัง, หรือแม้แต่การสร้างวิดีโอจากข้อความ
Murf.ai / Synthesia: AI ที่สามารถเปลี่ยนข้อความให้กลายเป็นเสียงพูด (text-to-speech) ที่เหมือนจริง โดยสามารถเลือกลักษณะของผู้บรรยายได้ หรือสร้างวิดีโอที่มีอวตารเสมือนจริงบรรยายจากข้อความ
Grammarly / Wordtune
เครื่องมือช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ การสะกดคำ และปรับปรุงคุณภาพการเขียนให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการปรับสำนวนการเขียนให้เหมาะสมกับบริบท
Notion AI
เป็นส่วนเสริมของ Notion ที่ช่วยในการสรุปเนื้อหา, ตรวจสอบไวยากรณ์, แปลภาษา, และช่วยจัดการข้อมูลต่างๆ ในพื้นที่ทำงาน
Otter.ai / MeetGeek
AI ที่ช่วยในการถอดเสียงการประชุมเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ สรุปประเด็นสำคัญ และระบุผู้พูด ทำให้การประชุมมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถทบทวนข้อมูลได้ง่าย
IBM Watson
แพลตฟอร์ม AI ที่มีชื่อเสียงด้านความสามารถในการประมวลผลภาษาธรรมชาติและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ การบริการลูกค้า หรือการตัดสินใจทางธุรกิจ
Salesforce Einstein: AI ที่ถูกฝังอยู่ในระบบ CRM ของ Salesforce เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า, คาดการณ์แนวโน้ม, และให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์กับลูกค้า
และยังมีอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง
เพื่อนๆล่ะ มีใครใช้ ai ตัวไหนอยู่เป็นประจำ หรือชอบใช้ตัวไหนกันบ้าง คอมเมนต์บอกกันได้นะ