นี่คือเรื่องของผมและครอบครัว อันนี้อยากระบายเฉยๆ แม่ผมเสียเมื่อเช้าเมื่อวาน ผมมีพี่น้อง 6 คน ผมคนสุดท้อง ผมกับพี่สาวอยู่กับแม่มาตลอด ดมื่อหลายปีก่อน บ้านผมน้ำท่วมจากน้ำทะเลหนุน เมื่อ 10 กว่าปีก่อนปีละครั้ง ก็ยังพอรับได้ จะมาถึงปีละ 4 ครั้ง ท่วมจนถึงที่นอน ด้วยความที่แม่เคยเส้นเลือดในสองแตก ทำให้ใช้งานซีกซ้าย ซีกขวาอ่อนแรง ก็ต้องขนที่นอน ยกให้พ้นน้ำ เห็นแล้วรู้สึกแย่จริง ตอนนั้นผมพึ่งเริ่มทำงานเลยจะไปขอเงินพี่ชายคนโตมาดาวน์บ้าน ด้วยความที่เขาพึ่งสร้างบ้าน ไปประมาณ 5 ล้าน เขาก็บอกว่าไม่มี ตอนนั้นผมก็ไม่เข้าใจ ว่าไม่ช่วยซักหน่อยเหรอ ในใจคิดผมคงพึ่งใครไม่ได้แรกนอกจากตัวเอง จนเมื่อ 4 ปี ที่แล้วผมจึงซื้อบ้าน แล้วพาแม่มาอยู่ด้วย เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว พบว่าแม่ป่วยเป็นโรคไต ผมจึงซื้อรถยนต์มือ 2 คันแรก แล้วเริ่มพาแม่ไปเที่ยว เดือนละ 1 ครั้ง กินข้าวนอกบ้านเดือนละ 2 ครั้ง ช่วงแรกๆ แม่ก็บ่น ว่าจะเปลืองเงินทำไม ผมก็บอกไป "แม่ใช้ไปเหอะ เรื่องเงินผมจัดการเอง"
จนเมื่อตอนเดือนที่แล้ว ได้พาแม่ไปเที่ยว ครั้งสุดท้าย ผ่านมาอีก 6 วัน แม่ก็มีอาการเชื้อลงปอด ผมไปเยียมทุกวัน อาการก็แย่ขึ้นเรื่อยๆ จนแกหยุดหายใจ หมอก็ปั้มหัวใจกลับมา แต่สุดท้ายแม่ก็นอนขยับได้แต่เปลือกตา ช่วงอาทิตย์สุดท้าย ชีพจร ขึ้นไป 180 ผมนี่ถึงกับน้ำตาไหล แก่แค่นอนเฉยๆ ยังหอบขนาดนี้ ผมทนเห็นภาพแบบนั้นไม่ได้ ไม่กล้าไปเยียม 3 วัน จนวันเสาร์ ก็ไปเห็นว่าชีพจลดลง แก่ดูสบายขึ้น แล้วคืนนั้นแก่ก็จากไป ตอนตี 3
แล้วความน่าลำคาญก็เกิดขึ้นลูกหลาน ต่างพากันร้องไห้ ตัวผมไม่ร้องไห้เลยกลับสบายใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ต้องเห็นแม่ทนทุกข์ พอถึงเรื่องการเดินเอกสาร พี่ๆ ก็ให้ผม เดินเอง "ทำสิ แม่อยู่กับ" เรื่องแต่นี้ทำเองไม่ได้เหรอ พอถึงพิธีกรรม ก็ให้ผมทำก่อนซึ้งผมไม่ถนัดเลย แล้วก็มาบอกว่าต้องทำดีๆ นะ ผมแล้วแต่พวกพี่จัดการเลย "แม่เขาอยู่กับ" ปรโยคที่เหมือนกับโยนภาระมาให้ผม ตอนแม่อยู่กับผม ผมไม่เคยไปขอความช่วยเหลือ ผมดูแลแกเป็นอย่างดี พอแกจากไป พี่บางคน ก็เริ่มจอยากได้นู่นอยากได้นี่ การจัดงาน มีคนนึงก็บอกจเก็บซอง ผมเลยบอกไปว่าถ้าจะเก็บก็ออกเงินด้วย เงียบเลย ผมไม่เข้าใจ ทำตอนแม่อยู่ ถึงไม่ดูแลให้ดี เห็นมีปัญหาก็มาขอเงิน พอจากไปก็อยากได้เงินอีก ส่วนตัวผม ไม่ไม่เคยอยากได้เงินทองที่แม่เก็บไว้เลย
ทำไมคนเราถึงต้องเสียใจเมื่อตอนที่ตาย แต่ไม่ส่ใจตอนที่อยู่
จนเมื่อตอนเดือนที่แล้ว ได้พาแม่ไปเที่ยว ครั้งสุดท้าย ผ่านมาอีก 6 วัน แม่ก็มีอาการเชื้อลงปอด ผมไปเยียมทุกวัน อาการก็แย่ขึ้นเรื่อยๆ จนแกหยุดหายใจ หมอก็ปั้มหัวใจกลับมา แต่สุดท้ายแม่ก็นอนขยับได้แต่เปลือกตา ช่วงอาทิตย์สุดท้าย ชีพจร ขึ้นไป 180 ผมนี่ถึงกับน้ำตาไหล แก่แค่นอนเฉยๆ ยังหอบขนาดนี้ ผมทนเห็นภาพแบบนั้นไม่ได้ ไม่กล้าไปเยียม 3 วัน จนวันเสาร์ ก็ไปเห็นว่าชีพจลดลง แก่ดูสบายขึ้น แล้วคืนนั้นแก่ก็จากไป ตอนตี 3
แล้วความน่าลำคาญก็เกิดขึ้นลูกหลาน ต่างพากันร้องไห้ ตัวผมไม่ร้องไห้เลยกลับสบายใจด้วยซ้ำ ที่ไม่ต้องเห็นแม่ทนทุกข์ พอถึงเรื่องการเดินเอกสาร พี่ๆ ก็ให้ผม เดินเอง "ทำสิ แม่อยู่กับ" เรื่องแต่นี้ทำเองไม่ได้เหรอ พอถึงพิธีกรรม ก็ให้ผมทำก่อนซึ้งผมไม่ถนัดเลย แล้วก็มาบอกว่าต้องทำดีๆ นะ ผมแล้วแต่พวกพี่จัดการเลย "แม่เขาอยู่กับ" ปรโยคที่เหมือนกับโยนภาระมาให้ผม ตอนแม่อยู่กับผม ผมไม่เคยไปขอความช่วยเหลือ ผมดูแลแกเป็นอย่างดี พอแกจากไป พี่บางคน ก็เริ่มจอยากได้นู่นอยากได้นี่ การจัดงาน มีคนนึงก็บอกจเก็บซอง ผมเลยบอกไปว่าถ้าจะเก็บก็ออกเงินด้วย เงียบเลย ผมไม่เข้าใจ ทำตอนแม่อยู่ ถึงไม่ดูแลให้ดี เห็นมีปัญหาก็มาขอเงิน พอจากไปก็อยากได้เงินอีก ส่วนตัวผม ไม่ไม่เคยอยากได้เงินทองที่แม่เก็บไว้เลย