ประโยชน์ของสตรอว์เบอร์รี
1. ช่วยบูสต์ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง โดยข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย ระบุว่า สตรอว์เบอร์รี 9 ผล จะให้วิตามินซีมากถึง 112 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณวิตามินซีที่มากพอกับขนาดที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ดังนั้นการกินสตรอว์เบอร์รีจึงสามารถช่วยเสริมกำลังของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้
อีกทั้งผลการศึกษาจาก UCLA เมื่อปี 2010 ยังแสดงให้เห็นว่า วิตามินซีที่มีในสตรอว์เบอร์รียังจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อระบบไหลเวียนของหลอดเลือดเราด้วยนะคะ
2. ช่วยควบคุมความดันเลือดและชะลอการอุดตันของหลอดเลือด
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย ระบุว่า นอกจากสตรอว์เบอร์รีจะเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงแล้ว ในสตรอว์เบอร์รียังมีใยอาหารค่อนข้างสูง และมีส่วนประกอบของน้ำค่อนข้างมาก แถมยังมีสารที่ช่วยควบคุมความดันเลือดและชะลอการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจได้อีกต่างหาก
3. ช่วยลดคอเลสเตอรอล ดีต่อใจ
ซูเปอร์ไฟเบอร์เพกตินในสตรอว์เบอร์รีมีคุณสมบัติช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้วิตามินซีและไฟเบอร์ของสตรอว์เบอร์รียังมีส่วนในการลดจำนวนคอเลสเตอรอลที่เกาะตามผนังหลอดเลือดได้ด้วย
ขณะที่การศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดยังพบว่า สารแอนโทไซยานินในสีแดงสดของผลสตรอว์เบอร์รีก็มีส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เพราะจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกาย และช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงได้อีกทาง
4. ลดความดันโลหิต
การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The American Journal of Clinical Nutrition พบว่า สารฟลาโวนอยด์ในผลไม้ตระกูลเบอร์รีทุกชนิดสามารถช่วยป้องกันความดันโลหิตสูงและช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ เนื่องจากสตรอว์เบอร์รีก็มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตของเราให้อยู่ในจุดสมดุลนั่นเอง
5. บำรุงและดูแลสุขภาพตา
สารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีในสตรอว์เบอร์รีมีส่วนช่วยป้องกันโรคต้อ และชะลอความเสื่อมของดวงตาจากการถูกรังสียูวีทำลายได้ นอกจากนี้วิตามินซียังเป็นสารอาหารสำคัญของการบำรุงดูแลเลนส์ตาและกระจกตาของเราให้สมบูรณ์แข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อโรคและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาของเรา
6. ช่วยลดน้ำหนัก
สตรอว์เบอร์รีมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนอะดิโปเนกติน (Adiponectin) และฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จัดการไขมันสะสมในร่างกายได้อยู่หมัด ฉะนั้นสาว ๆ ที่อยากลดน้ำหนักให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ก็ไม่ควรพลาดสตรอว์เบอร์รีด้วยประการทั้งปวง
7. บำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัย
ผลการศึกษาจาก American Journal of Clinical Nutrition เผยว่า วิตามินซีที่มีอยู่เยอะในสตรอว์เบอร์รีก็มีส่วนช่วยลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และความแห้งกร้านของผิวพรรณที่เกิดจากความเสื่อมตามอายุได้ด้วยนะจ๊ะสาว ๆ
8. แก้ท้องผูก
สตรอว์เบอร์รีเพียง 9 ผล ก็มีไฟเบอร์ราว ๆ 3.4 กรัมแล้วนะคะ ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น เพราะในสตรอว์เบอร์รีก็ยังมีกรดโฟลิก กรดที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย จึงช่วยแก้ปัญหาท้องผูกให้กับเราได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรกินผัก-ผลไม้อื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับใยอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะคนที่มีอาการท้องผูกหนักมาก ๆ
9. เป็นผลไม้ต้านมะเร็ง
American Cancer Society เผยประโยชน์ดี๊ดีของสตรอว์เบอร์รีมาว่า ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) หรือสารพฤกษเคมี บวกกับวิตามินซี และแร่ธาตุดี ๆ อีกหลายชนิดในสตรอว์เบอร์รี ก็มีส่วนสำคัญในการต้านเซลล์มะเร็ง และมีสรรพคุณบำบัดโรค โดยเฉพาะคุณสมบัติป้องกันโรคมะเร็งเต้านมของคุณสาว ๆ
10. ลดการอักเสบในร่างกาย
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยผลการศึกษามาว่า ผู้หญิงที่กินสตรอว์เบอร์รีสัปดาห์ละ 16 ผลขึ้นไป จะมีแนวโน้มเสี่ยงต่ออาการอักเสบลดลง โดยเฉพาะอาการข้อต่ออักเสบ โรคเกาต์ หรือโรคข้อเสื่อม เนื่องจากสตรอว์เบอร์รีมีสารต้านอนมูลอิสระค่อนข้างสูง และยังมีสารพฤกษเคมีที่มีคุณสมบัติล้างกรดยูริกอันเป็นกรดที่กระตุ้นให้เกิดโรคข้อต่าง ๆ ได้
11. บำรุงสมอง
ความเสื่อมของเส้นประสาทและประสิทธิภาพการทำงานของสมองมีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นตามอายุของเรา แต่เราเองก็สามารถป้องกันความเสื่อมสภาพของสมองได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอย่างสตรอว์เบอร์รีนี่เองค่ะ
12. ป้องกันปัญหาสุขภาพฟัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าสตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้มีวิตามินซีสูง ซึ่งในวิตามินซีก็มีกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน อีกทั้งในสตรอว์เบอร์รียังมีโพลีฟีนอล ที่ช่วยลดการสะสมของคราบพลัค พร้อมทั้งมีคุณสมบัติบำรุงสารเคลือบฟันของเราได้อีกทางด้วยนะคะ
ประโยชน์ของสตรอว์เบอร์รีจัดเต็มกับสุขภาพของเราจริง ๆ ทว่าหากใครคิดว่าการกินสตรอว์เบอร์รีเพียว ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร งั้นเราขอทิ้งท้ายกันด้วยเมนูสตรอว์เบอร์รีให้คุณ ๆ ตามนี้
https://health.kapook.com/view162653.html
12 ประโยชน์ของสตรอว์เบอร์รี ผลไม้มีดีสีแดงสด
ประโยชน์ของสตรอว์เบอร์รี
อีกทั้งผลการศึกษาจาก UCLA เมื่อปี 2010 ยังแสดงให้เห็นว่า วิตามินซีที่มีในสตรอว์เบอร์รียังจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อระบบไหลเวียนของหลอดเลือดเราด้วยนะคะ
2. ช่วยควบคุมความดันเลือดและชะลอการอุดตันของหลอดเลือด
ข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย ระบุว่า นอกจากสตรอว์เบอร์รีจะเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงแล้ว ในสตรอว์เบอร์รียังมีใยอาหารค่อนข้างสูง และมีส่วนประกอบของน้ำค่อนข้างมาก แถมยังมีสารที่ช่วยควบคุมความดันเลือดและชะลอการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจได้อีกต่างหาก
ซูเปอร์ไฟเบอร์เพกตินในสตรอว์เบอร์รีมีคุณสมบัติช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้วิตามินซีและไฟเบอร์ของสตรอว์เบอร์รียังมีส่วนในการลดจำนวนคอเลสเตอรอลที่เกาะตามผนังหลอดเลือดได้ด้วย
ขณะที่การศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดยังพบว่า สารแอนโทไซยานินในสีแดงสดของผลสตรอว์เบอร์รีก็มีส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เพราะจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกาย และช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงได้อีกทาง
การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The American Journal of Clinical Nutrition พบว่า สารฟลาโวนอยด์ในผลไม้ตระกูลเบอร์รีทุกชนิดสามารถช่วยป้องกันความดันโลหิตสูงและช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ เนื่องจากสตรอว์เบอร์รีก็มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตของเราให้อยู่ในจุดสมดุลนั่นเอง
6. ช่วยลดน้ำหนัก
สตรอว์เบอร์รีมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนอะดิโปเนกติน (Adiponectin) และฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จัดการไขมันสะสมในร่างกายได้อยู่หมัด ฉะนั้นสาว ๆ ที่อยากลดน้ำหนักให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ก็ไม่ควรพลาดสตรอว์เบอร์รีด้วยประการทั้งปวง
8. แก้ท้องผูก
สตรอว์เบอร์รีเพียง 9 ผล ก็มีไฟเบอร์ราว ๆ 3.4 กรัมแล้วนะคะ ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น เพราะในสตรอว์เบอร์รีก็ยังมีกรดโฟลิก กรดที่ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย จึงช่วยแก้ปัญหาท้องผูกให้กับเราได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรกินผัก-ผลไม้อื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับใยอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะคนที่มีอาการท้องผูกหนักมาก ๆ
9. เป็นผลไม้ต้านมะเร็ง
American Cancer Society เผยประโยชน์ดี๊ดีของสตรอว์เบอร์รีมาว่า ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) หรือสารพฤกษเคมี บวกกับวิตามินซี และแร่ธาตุดี ๆ อีกหลายชนิดในสตรอว์เบอร์รี ก็มีส่วนสำคัญในการต้านเซลล์มะเร็ง และมีสรรพคุณบำบัดโรค โดยเฉพาะคุณสมบัติป้องกันโรคมะเร็งเต้านมของคุณสาว ๆ
10. ลดการอักเสบในร่างกาย
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยผลการศึกษามาว่า ผู้หญิงที่กินสตรอว์เบอร์รีสัปดาห์ละ 16 ผลขึ้นไป จะมีแนวโน้มเสี่ยงต่ออาการอักเสบลดลง โดยเฉพาะอาการข้อต่ออักเสบ โรคเกาต์ หรือโรคข้อเสื่อม เนื่องจากสตรอว์เบอร์รีมีสารต้านอนมูลอิสระค่อนข้างสูง และยังมีสารพฤกษเคมีที่มีคุณสมบัติล้างกรดยูริกอันเป็นกรดที่กระตุ้นให้เกิดโรคข้อต่าง ๆ ได้
11. บำรุงสมอง
ความเสื่อมของเส้นประสาทและประสิทธิภาพการทำงานของสมองมีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นตามอายุของเรา แต่เราเองก็สามารถป้องกันความเสื่อมสภาพของสมองได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอย่างสตรอว์เบอร์รีนี่เองค่ะ
12. ป้องกันปัญหาสุขภาพฟัน
อย่างที่ทราบกันดีว่าสตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้มีวิตามินซีสูง ซึ่งในวิตามินซีก็มีกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน อีกทั้งในสตรอว์เบอร์รียังมีโพลีฟีนอล ที่ช่วยลดการสะสมของคราบพลัค พร้อมทั้งมีคุณสมบัติบำรุงสารเคลือบฟันของเราได้อีกทางด้วยนะคะ
ประโยชน์ของสตรอว์เบอร์รีจัดเต็มกับสุขภาพของเราจริง ๆ ทว่าหากใครคิดว่าการกินสตรอว์เบอร์รีเพียว ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร งั้นเราขอทิ้งท้ายกันด้วยเมนูสตรอว์เบอร์รีให้คุณ ๆ ตามนี้
https://health.kapook.com/view162653.html