คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
สติ ทำความรู้สึกตัวให้ทั่วพร้อม เราจะเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา นั้นล้วนแต่เป็นเรื่อง ธรรมชาติ
ประโยคนี้ ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน จนกระทั่งเป็นเคล็ดวิชาอะไรนะครับ เพราะเป็นการกล่าวพื้นๆ
ยังไม่ได้ลงลึกถึงแก่นพุทธศาสตร์แต่อย่างใด สตินั้น ไม่ใช่อาการรู้สึกตัวทั่วพร้อม
การรู้สึกตัวทั่วพร้อมเรียกว่า "สัมปชัญญะ" เป็นอีกชื่อหนึ่งของปัญญา ความรู้สึกตัวทั่วพร้อมนี้
คล้ายๆ กับการทำเนื้อตัวให้สดๆ รับกระทบเนื้อตัวทุกส่วนแล้วรู้หมด จนกระทั่งเข้าใจเหตุปัจจัยของสภาวะต่างๆ
ที่รูปนามปรากฏขึ้นมา เป็นอาการทำลายอวิชชาความมืดมน ความไม่รู้โดยตรงเลยทีเดียว
การได้รู้ ได้เห็นอาการของรูปนามที่ปรุงแต่งกัน อาศัยกันและกันเกิดขึ้นทุกขณะนี้ จึงเป็น "ธรรมชาติ"
ไม่มีผู้สร้าง ไม่มีอัตตาที่เที่ยง เป็นแต่ของเกิดดับเรื่อยไปตามเหตุตามปัจจัย
สติเป็นอาการ "ระลึก"
สัมปชัญญะ "คืออาการรู้สึกตัวทั่วพร้อม"
จขกท ลองคิดตามเล่นๆ ดูนะ ธรรมทั้งสองอย่างนี้ บางคน ระลึกอยู่กับปัจจุบันได้ แต่ไม่รู้สึกตัวทั่วพร้อม
แต่ถ้าเมื่อใดรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมาแล้ว การระลึกอยู่กับปัจจุบัน ต้องเกิดขึ้นพร้อมกันด้วยเสมอ
พระอภิธรรมจึงบัญญัติว่า สติเกิดโดยไม่มีปัญญานั้นได้ เช่นการทำบุญ เราระลึกถึงกุศลตรงหน้า
ระลึกถึงบุญที่เคยทำ จิตใจผ่องใส กั้นอกุศลธรรมได้ แต่ไม่รู้เหตุ ไม่รู้ปัจจัย ไม่รู้ที่มาที่ไป ไม่รู้ผลที่จะตาม หรือผลที่เกิดจากเหตุในอดีต
ส่วนสัมปชัญญะนั้น สติต้องเกิดพร้อมกันเสมอ เมื่อสติระลึกถึงสภาวะที่กำลังเกิดขึ้น สัมปชัญญะก็ตามรู้ตามความเป็นจริง
เอาเท่านี้แหละครับ
อนุโมทนาบุญ จขกท.
ประโยคนี้ ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน จนกระทั่งเป็นเคล็ดวิชาอะไรนะครับ เพราะเป็นการกล่าวพื้นๆ
ยังไม่ได้ลงลึกถึงแก่นพุทธศาสตร์แต่อย่างใด สตินั้น ไม่ใช่อาการรู้สึกตัวทั่วพร้อม
การรู้สึกตัวทั่วพร้อมเรียกว่า "สัมปชัญญะ" เป็นอีกชื่อหนึ่งของปัญญา ความรู้สึกตัวทั่วพร้อมนี้
คล้ายๆ กับการทำเนื้อตัวให้สดๆ รับกระทบเนื้อตัวทุกส่วนแล้วรู้หมด จนกระทั่งเข้าใจเหตุปัจจัยของสภาวะต่างๆ
ที่รูปนามปรากฏขึ้นมา เป็นอาการทำลายอวิชชาความมืดมน ความไม่รู้โดยตรงเลยทีเดียว
การได้รู้ ได้เห็นอาการของรูปนามที่ปรุงแต่งกัน อาศัยกันและกันเกิดขึ้นทุกขณะนี้ จึงเป็น "ธรรมชาติ"
ไม่มีผู้สร้าง ไม่มีอัตตาที่เที่ยง เป็นแต่ของเกิดดับเรื่อยไปตามเหตุตามปัจจัย
สติเป็นอาการ "ระลึก"
สัมปชัญญะ "คืออาการรู้สึกตัวทั่วพร้อม"
จขกท ลองคิดตามเล่นๆ ดูนะ ธรรมทั้งสองอย่างนี้ บางคน ระลึกอยู่กับปัจจุบันได้ แต่ไม่รู้สึกตัวทั่วพร้อม
แต่ถ้าเมื่อใดรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมาแล้ว การระลึกอยู่กับปัจจุบัน ต้องเกิดขึ้นพร้อมกันด้วยเสมอ
พระอภิธรรมจึงบัญญัติว่า สติเกิดโดยไม่มีปัญญานั้นได้ เช่นการทำบุญ เราระลึกถึงกุศลตรงหน้า
ระลึกถึงบุญที่เคยทำ จิตใจผ่องใส กั้นอกุศลธรรมได้ แต่ไม่รู้เหตุ ไม่รู้ปัจจัย ไม่รู้ที่มาที่ไป ไม่รู้ผลที่จะตาม หรือผลที่เกิดจากเหตุในอดีต
ส่วนสัมปชัญญะนั้น สติต้องเกิดพร้อมกันเสมอ เมื่อสติระลึกถึงสภาวะที่กำลังเกิดขึ้น สัมปชัญญะก็ตามรู้ตามความเป็นจริง
เอาเท่านี้แหละครับ
อนุโมทนาบุญ จขกท.
แสดงความคิดเห็น
หากเรามี“สติ”
ขอถามคะ ในบริบทของข้อความ มีวิธีการคิดอย่างอย่างไรที่เรียกว่าเป็นธรรมชาติ (อ่านเจอมาค่ะ)