JJNY : มอง'ฮุน เซน' ไม่น่าวางใจ│ทอมโร่ขอโทษโรม-ไอซ์-อนุทิน│ทสท.ร้อง รบ.แจงหลังดีลล่ม│ปิดตำนานหากุญแจไม่เจอ! ชัชชาติเทสต์

นิด้าโพลเผยคนไทยส่วนใหญ่มอง 'ฮุน เซน' เป็นคนไม่น่าไว้วางใจ เรื่องไทยเปลี่ยนนายกฯ เป็นการทำนายมั่วๆ
.
.
นิด้าโพลเผยคนไทยมอง ‘ฮุน เซน’ เป็นคนไม่น่าไว้วางใจ และทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ส่วนเรื่องไทยเปลี่ยนนายกฯ เป็นการทำนายมั่วๆ
.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “ฮุน เซน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความรู้สึกของประชาชนต่อความเคลื่อนไหวของสมเด็จ ฮุน เซน ในกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
.
จากการสำรวจเมื่อถามความรู้สึกของประชาชนต่อความเคลื่อนไหวของสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 67.63 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง รองลงมา ร้อยละ 57.25 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน เป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ ร้อยละ 44.66 ระบุว่า คำพูดของสมเด็จ ฮุน เซน ไม่มีความน่าเชื่อถือ ร้อยละ 40.53 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน กำลังยุให้คนไทยแตกแยกกัน ร้อยละ 25.34 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ต้องการยึดครองดินแดนของไทย ร้อยละ 18.85 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน กำลังแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย ร้อยละ 14.12 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน กำลังเปิดเผยความลับเกี่ยวกับการเมืองไทย ร้อยละ 9.31 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศกัมพูชา ร้อยละ 3.36 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนชาวกัมพูชา ร้อยละ 1.30 ระบุว่า คำพูดของสมเด็จ ฮุน เซน มีความน่าเชื่อถือ และร้อยละ 0.53 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ทำเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา
.
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความรู้สึกของประชาชนต่อคำทำนายของสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่บอกว่าประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีภายในสามเดือนและรู้ด้วยว่าใครจะเป็นนายกฯ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 43.05 ระบุว่า ไม่น่าเชื่อ รองลงมา ร้อยละ 34.12 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน ทำนายมั่ว ๆ ร้อยละ 33.97 ระบุว่า เป็นความพยายามยุให้คนไทยตีกัน ร้อยละ 30.31 ระบุว่า การเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีเป็นไปได้ แต่เป็นไปไม่ได้ ที่จะรู้ว่าใครจะได้เป็นนายกฯ ร้อยละ 25.34 ระบุว่า เป็นการวิเคราะห์ตามสถานการณ์ทางการเมืองไทย ร้อยละ 19.01 ระบุว่า เป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย ร้อยละ 14.66 ระบุว่า สมเด็จ ฮุน เซน พูดตามข่าวกรองที่ได้มา ร้อยละ 10.69 ระบุว่า เป็นการเตือนนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร และร้อยละ 7.25 ระบุว่า น่าเชื่อ
.
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.70 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.79 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.28 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.82 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.86 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก โดยตัวอย่าง ร้อยละ 47.94 เป็นเพศชาย และร้อยละ 52.06 เป็นเพศหญิง
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 12.13 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.79 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 17.94 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.34 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 25.80 อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยตัวอย่าง ร้อยละ 96.79 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.60 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.61 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ
ตัวอย่าง ร้อยละ 35.80 สถานภาพโสด ร้อยละ 61.99 สมรส และร้อยละ 2.21 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ โดยตัวอย่าง ร้อยละ 0.31 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 17.17 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 33.89 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 10.38 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 32.75 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 5.50 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 9.69 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 17.48 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 25.34 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 9.16 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 13.98 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.54 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 4.81 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 18.47 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 3.66 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 13.21 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 34.66 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 11.98 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.27 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 3.13 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 1.45 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.15 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท ร้อยละ 0.23 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ร้อยละ 0.69 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 7.10 ไม่ระบุรายได้
.

.
ทอม โร่ขอโทษ โรม-ไอซ์-อนุทิน ทำเสียหาย เผยยิบวงกินข้าว ยืนยันเสียงแข็ง ไม่มีดีลลับ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5262496
.
ทอม โร่ขอโทษ โรม-ไอซ์-อนุทิน ทำเสียหาย เผยยิบวงกินข้าว ยืนยันเสียงแข็ง ไม่มีดีลลับ 
.
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 นายทอม เครือโสภณ นักธุรกิจชื่อดัง ได้อัดคลิปเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีที่ออกมาเผยถึงการนัด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ นายรังสิมันต์ โรม และ น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมรับประทานอาหารว่า ตนทำคลิปนี้ เพื่อรับผิดชอบที่ได้ ทำให้คนอื่นเสียดาย หลังจากได้เผยว่า มีการนัดกินข้าวกันระหว่าง นายรังสิมันต์ น.ส.รักชนก และ นายอนุทิน เพราะตนไม่ได้คิดว่า จะเป็นดราม่า ยืนยันว่า ตนไม่ได้แฉ เพราะมันไม่มีดีลลับอะไร ยืนยันว่า ที่พูดออกมา เจตนาอยากพูดให้ทุกคนฟังว่า คนเราสามารถเจอกันได้ มันไม่เสียหายตรงไหน ต้องขอโทษนายโรม ที่ต้องนำมาอยู่ในปัญหานี้.
.
โรมกับผมรู้จักกัน เพราะมีทนายคนหนึ่ง มีช่วยดูแลคดีเรื่องคอลเซ็นเตอร์ วันหนึ่งสมัยที่คุณอนุทิน ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ ผมก็ถามโรมว่า เคยเจออนุทินไหม ว่างๆเจอกันไหม เดี๋ยวนัดให้ ทั้ง 2 คนก็ว่าดี เลยนัดกินข้าวกัน แต่ว่านัดไม่ได้เพราะยุ่ง จึงมาเจอกันหลังจากพ้นตำแหน่งแล้ว ในวงวันนั้นได้ทำความรู้จัก คุยเรื่องคอลเซ็นเตอร์ ปิดไฟฟ้าที่กัมพูชา โรมยังชมเลยว่า ดีที่ปิดไฟเห็นด้วย แต่บทสนทนาที่สั้นๆในบทสนทนาที่ยาวมาก แล้วก็ไม่ได้เป็นบทสนาที่แตกต่างไปจากที่ คุณเท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนพูดเลย ไม่มีความลับ ดีลลับอะไร แต่มันเป็นจุดยืนของพรรคประชาชนว่า ถ้าต้องเลือกนายกฯใหม่ เขาจะยื่นข้อเสนอ 3 หรือ 7 ข้อขึ้นมา
.
นายทอม กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าในวงวันนั้นไม่ใช่ดีลลับ แต่สื่อพาดหัวแฉโน้นแฉนี่ ทั้งๆที่มันไม่ใช่การแฉ มันเป็นการไปกินข้าวกัน กลางโรงแรมในกรุงเทพ ถ้าแฉคงไม่ไปกินข้าวที่โรงแรมหรอก คนเห็นเยอะแยะ ไม่มีดีลลับอะไรเลย สิ่งที่คุยกันคือสิ่งที่นายณัฐพงษ์ กับ นายอนุทินได้คุยกันไม่มีความลับอะไร แตาสิ่งที่ตนพูดในรายการ ทำให้ ทั้ง 3 คน และพรรคภูมิใจไทยเสียหาย ตนขอโทษ และขอรับผิดชอบ คนที่ผิดคือ ทอม
.
เราต้องเดินข้ามการแตกแยกได้แล้ว การที่ผมพยายามให้ทุกคนมาเจอกันเป็นสิ่งที่ผิดก็ช่วยไม่ได้ แต่ผมจะไม่หยุดทำ ผมคิดว่า การคุยกันการเจรจากันรู้กันกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ขอบคุณโรมที่ส่งข้อความหาแล้ว โดยที่โรมก็ตอบกลับมาอย่างมืออาชีพ เหมือนกับคุณอนุทินที่เข้าใจเจตนาของผม คนพวกนี้เขาเป็นผู้ใหญ่ ขอบคุณทั้งคู่ แต่ผมได้บทเรียนว่า ต้องระมัดระวังสื่อให้มากกว่านี้หน่อย เพราคำพูดที่เจตนาดี เอาไปบิดเบือนเป็น กลายเป็นสิ่งที่เลวได้” นายทอม กล่าว
.

.
'ไทยสร้างไทย' เรียกร้องรัฐบาลชี้แจงการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หลังดีลล่ม สร้างความกังวลแก่ภาคเอกชน
.
วันที่ 5  ก.ค.68 นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เรียกร้องให้รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงอย่างเร่งด่วนเกี่ยวกับกรณีการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกาที่นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดได้ ทำให้ภาคเอกชนไทยเกิดความกังวลอย่างมาก
.
นายปริเยศกล่าวว่า “เรายังไม่รู้เลยว่า รัฐบาลเอาอะไรไปเจรจากับสหรัฐฯ แล้วดีลถึงล่ม ถ้าไม่มีความชัดเจนแบบนี้ ภาคธุรกิจจะเตรียมตัวรับมืออย่างไรได้” พร้อมทั้งมองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงศักยภาพที่จำกัดของรัฐบาลชุดนี้ ที่ไม่เพียงแต่ขาดความพร้อมในการเจรจาระหว่างประเทศ แต่ยังมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสในการดำเนินการ
.
พรรคไทยสร้างไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับกรณีการจ้างล็อบบี้ยิสต์ในสหรัฐฯ เพื่อผลักดันข้อเสนอทางการค้า ว่ามีการจ้างจริงหรือไม่ และมีการใช้งบประมาณเท่าไหร่ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า รัฐบาลอาจถูกหลอก หรือไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของล็อบบี้ยิสต์เหล่านั้นอย่างรอบคอบ
นายปริเยศยังได้ตั้งคำถามถึงกระทรวงพาณิชย์ว่า ได้มีการเตรียมการรองรับผลกระทบจากการเจรจาที่ล่มหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงแนวทางรับมือภายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถวางแผนและปรับตัวได้อย่างเหมาะสม
.
นอกจากนี้ พรรคไทยสร้างไทยเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ส่งออกและธุรกิจ SME ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทาน พร้อมย้ำว่า ควรเลือกผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ด้านการค้าโลกมานำทีมเจรจาการค้าระดับประเทศ โดยเฉพาะการเจรจากับสหรัฐฯ ในอนาคต หากรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่