สวัสดี... วันนี้แค่อยากมาแชร์เรื่องบ้านตั้งแต่เกิด...ตลอดจนวัยเลขสาม
เริ่มจากแรกเกิดเลยแล้วกัน...ก่อนเกิด 1 วัน ทวดเสีย แม่เจ็บท้องคลอดกลางงานศพ (ผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง) มันไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไรถูกต้องไหม
แต่ต่อมา 3 ปี แม่ท้องน้องชาย ก่อนน้องจะเกิด 1 วัน ลุงที่เป็นพี่ชายพ่อเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ (มันเริ่มแปลกแล้วใช่ไหม)
ตั้งแต่เด็กจนโตเรารู้สึกตลอดว่าเคยเล่นกับทวด ทวดเป็นคนเลี้ยงเรา (แต่ๆ ทวดเสียก่อนหน้าเราเกิด 1 วัน) พ่อมักเล่าให้ฟังเสมอว่าเราเห็นทวด แต่ในวัยเด็กเราก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แค่รู้สึกเหมือนเค้าเลี้ยงเรามา....และนั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้น....
ทำไมเราถึงคิดว่าที่บ้านมีผี....เริ่มจาก...ตายาย มี ลูกทั้งหมด 3 คน โดยตากับยายจะสร้างบ้านให้ลูกทุกคนได้อยู่แบบครอบครัวแยกบ้านกัน
บ้านทุกหลังที่ตายายสร้าง เล่ากันว่าตายายใส่พระใส่ของดีอะไรที่ว่าดีตายายใส่ไปในหลุมเสาเอก เสาโท และนี้คืออีกจุดเริ่มเต้น.....
เริ่มจากบ้านหลังแรกของลุงพี่ชายแม่.... บ้านนั้นประกอบอาชีพเกี่ยวกับความบันเทิง...ภายในบ้านมีของมีราคามากมายแต่ให้ไม่ปิดบ้านของไม่เคยหาย
วันนึงด้วยคนทั้งบ้านต้องไปออกงานต่างจังหวัดจึงบอกให้ไปนอนเฝ้าบ้านให้หน่อย...ซึ่งเราก็ไปนะไปกับยาย...ใครจะกล้าไปคนเดียว5555
ทุกอย่างดูปกติไม่มีอะไร...แต่เมื่อดึกมันเป็นเรื่องปกอยู่แล้วที่จะนอนไม่หลับเพราะว่าแปลกที่...นั้นแหละไอ่ความที่นอนไม่หลับนี้แหละทำให้ได้ยินเสียง
ของผู้หญิงแก่มาบอกว่า...นอนหลับเถอะลูกที่นี้ไม่มีอะไรหรอกไม่ต้องห่วงยายเฝ้าเอง....หันซ้ายขวายายหลับอยู่....คิดว่าหลับลงไหม 5555
ต่อมาบ้านพี่สาวของแม่....หลังนี้ไปนอนก็ไม่เจออะไรหรอกแต่มักจะมีเรื่องเล่าให้ได้ยินเสมอ บ้านหลังนี้จะอยู่กันแต่ผู้หญิงป้าและลูกๆที่เป็นผู้หญิงทั้งหมดบ้าน ที่ได้ยินมาคือด้วยความเพื่อนของพี่มาหาที่บ้านแต่บ้านไม่มีใครอยู่ แต่เห็นผู้ชายตัวโตยืนอยู่ในบ้านแต่ไม่ยอมมาเปิดประตูให้... คิดว่าคนไหม!!
มาถึงบ้านเราเองแล้วนะ บ้านหลังแรกของฉัน บ้านหลังนี้ติดถนนไม่ได้น่ากลัวแล้วสมัยนี้...ถ้าในมุมหมอผีอะไรก็ตามจะบอกว่าติดทาง 4 แพร่ง
แต่มันไม่ถึงขนาดนั้นมันอาจเป็นลมเพลมพัด....ในสมัยนั้นเปิดเป็นร้านค้าทุก...สมัยที่จำความได้ช่วงตอนเรียนมัธยม...ด้วยความวัยรุ่นนอนดึกทำโครงงานส่งช่วงเวลาสักตี1 ตี2 สมัยนั้นมี MP 3 แบบอัดเพลงมาไว้ฟัง...เรามันก็คนอารมณ์ดีแหละ ทำไปร้องเพลงไป อยู่ก็มีเสียงเด็กหัวเราออกมาจาก MP3 เสียงดังเลย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฟังดูแล้วก็คิดว่าคิดไปเองใช่ไหมละ...ช่วงเวลานั้นเราเปิดกลับไปฟังเพลงเดิม 3 รอบ แต่ไม่มีเสียงหัวเราะออกมา..ก็สรุปได้แหละว่าอะไร
แต่มันไม่ได้แปลกอะไร .... ถามว่ากลัวไหมก็กลัวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้บ้านตัวเองอะเนอะ...เพราะปกติช่วง 3-4 ทุ่มที่เราปิดร้านปิดไฟก็จะได้ยินเสียงสวิตซ์ไฟแป๊กๆอยู่แล้ว ถือว่าปกติ บางครั้งก็ได้ยินเหมือนมีคนจับลูกบิดประตูห้องแล้วบิด...ก็ปกติอะเนอะ (ค้างบ้านหลังนี้ไว้ก่อน เรียกบ้านนี้ว่าบ้าน A แล้วกัน)
โดยปัจจุบันบ้าน A เลิกขายของแล้ว โซนที่ใช้ขายของแทบจะร้างเอาไว้ใช้เพียงแค่ส่วนหลังที่ใช้อาศัยอยู่ เนื่องจากแม่ได้เสียชีวิตด้วยอาการป่วย เมื่อแม่เสียชีวิตเเล้วนั้น...พ่อซึ่งเป็นลูกเขยจึงต้องออกจากบ้าน A ด้วย (ทุกวันนี้น้องชายยังอยู่หลังนี้)
พ่อก็ได้ออกมาสร้างบ้านอยู่ใหม่ในหมู่บ้านใกล้ๆกันเดินทางห่างกัน 15 นาที และเราก็ย้ายมากลับพ่อเช่นกัน
พื้นฐานครอบครัวฝั่งพ่อ คือ ปู่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ย่าเป็นร่างทรง
คำว่าร่างทรงนี้แหละทำให้ไม่ค่อยกลัวบวกกับหนีไปไหนก็ไม่ได้ ไม่รู้จะกลัวตรงไหนก่อน 5555
เริ่มที่บ้าน B บ้านหลังสุดตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ เริ่มจากตอนสร้างไม่เสร็จมีคนเห็นเงาในตัวบ้านก่อน....จนตอนนี้ถึงปัจจุบันก็ไม่มีใครกลัวเข้ามาหากเจ้าของบ้านไม่เรียก.....ทำไมถึงคิดว่าบ้านนี้มี....กลับไปคือย่าเป็นร่างทรง...บ้านที่สร้างก็อยู่ใกล้กับย่าไม่กี่ก้าว...บ้านหลังนี้ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
มาอยู่แรกๆเริ่มจากไม่มีอะไรเลย...ทำบุญขึ้นบ้านทุกอย่างตามประเพณี...เรื่องเริ่มจาก...หน้าต่างห้องนอนอยู่ติดที่จอดรถ....วันนั้นเป็นวันที่พ่อเลิกงานเช้า เรากลับดึก ดึกที่ไม่ได้ดึกอะแค่ 2 ทุ่มถือว่าปกติจากการเลิกงานเดินตลาดซื้อของกลับบ้านถึงบ้านช่วงนี้...พอมาถึงจอดรถข้างห้องนอนตามปกติ...แต่วันนี้ดันเห็นว่ามีคนยืนมองจาดในห้องนอนเรา...มองมาที่เราที่กำลังจอดรถ...เราก็มองเพราะคิดว่าพ่อกลับมาแล้ว...เป็นชายน่าจะสูงสัก 170 cm. สิ่งแรกที่คิดเลยตอนนั้นคือขโมย...เพราะว่ารู้ว่าพ่อกลับตอนเช้า...แต่รู้ว่าผีตอนไหน...ตอนที่จะเข้าบ้านไง...เดินไขกุญแจเข้าบ้านตามปกติเลย555...นั้นแหละถึงคิดได้ แต่ถือว่าเค้าดีนะ...เวลาเคลียดๆเหมือนเค้าอยู่กับเราตลอด....เวลามรเรื่องไม่สบายใจนอนไม่หลับแค่คิดจะถอนหายใจก็จะได้ยินเสียงถอนหายใจก่อนทุกครั้งจนเริ่มชิน....เวลากลับบ้านดึกมักจะเห็นยืนรออยู่ในรั่วบ้านเสมอ...คงอยากถามทำไมดึก555 จนเริ่มชิน ต่อมามีเรื่องที่ทำให้กลับไปนอนบ้าน A อีกครั้ง คือช่วงโควิดพ่อติดโควิดต้องแยกบ้านกันพ่อลูก .... โดยพ่อให้เรากลับไปนอนที่บ้าน A เพราะกลัวลูกติดด้วยความเป็นห่วงของพ่ออะเนอะ...
สัมภาระที่เราไปมีเต้นท์ 1 หลัง เสื้อผ้าทุกอย่าง ทำไมเอาเต็นท์ไปเพราะห้องเก่าหรืออะไรต่าง ๆ ที่เคยใช้คือน้องชายใช้หรือง่ายครอบครัวน้องชายใช้นั้นและเลยไม่ได้อยากรบกวนมาก เลยเอาเต้นไปกางนอนในส่วนที่เป็นร้านค้าที่บอกว่าแทบจะร้างนั้นแหละ...นานๆทีกลับไปมันก็กลัวกว่าเดิมเยอะเลย...ทำความสะอาดเสร็จกางเต็นท์นอน (กางเต้นท์นอนในบ้าน555) ด้วยอากาศที่ร้อนคืนแรกไม่มีอะไร เนื่องจากเรารู้ว่ากลับบ้านมานอนใครมีปัญหาอะไรจะไล่ออกไปให้หมดเพราะค่าใช้จ่ายเจ้าบ้านที่ดินเป็นชื่อของฉัน 5555 นอนหลับสบายเลย ต่อมาคืน 2 สอง ด้วยอากาศที่ร้อนพัดลมมันไม่ได้เย็นอะไรมาก กึ่งกลับกึ่งตื่น
คุณผีสงสารที่เห็นเราร้อนหรือเปล่าถึงถามว่า มานอนอะไรตรงนี้ ไอ่เราก็ตอบด้วยนะ ก็มันร้อนจะให้นอนตรงไหน พอตื่นเช้ามาคิดๆดูแล้ว มันก็นอนขวางทางจริงๆนั้นแหละ แต่ก็ปากดีเหมือนเดิม ใครกวนไล่ออก 555 เลยทำให้อยู่ได้ตลอดที่รอดฝั่งที่พ่อกักตัว
ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้าน B อยู่จนชิน เพราะคิดว่าคุณผีที่บ้านไม่ได้น่ากลัวอะไร ทุกครั้งที่เห็นก็เล่าให้พ่อฟังเสมอแต่พ่อมักบอกว่าคิดไปเอง... แต่ที่ไหนได้พ่อเห็นยิ่งกว่าเรา 5555 พ่อแค่ไม่อยากให้เรากลัว จนทุกวันนี้บอกพ่อว่า...กลัวแล้วทำไรได้บ้านก็อยู่นี้จะให้ไปอยู่ที่ไหน....เพราะมันมีทุกที่เลยไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่บ้าน..... (คนมันจะเห็นหรือได้ยินมันเลือกไม่ได้หรอก) ขอบคุณอ่านจบนะคะ
บ้านที่ฉันอยู่มีผี...
เริ่มจากแรกเกิดเลยแล้วกัน...ก่อนเกิด 1 วัน ทวดเสีย แม่เจ็บท้องคลอดกลางงานศพ (ผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง) มันไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไรถูกต้องไหม
แต่ต่อมา 3 ปี แม่ท้องน้องชาย ก่อนน้องจะเกิด 1 วัน ลุงที่เป็นพี่ชายพ่อเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ (มันเริ่มแปลกแล้วใช่ไหม)
ตั้งแต่เด็กจนโตเรารู้สึกตลอดว่าเคยเล่นกับทวด ทวดเป็นคนเลี้ยงเรา (แต่ๆ ทวดเสียก่อนหน้าเราเกิด 1 วัน) พ่อมักเล่าให้ฟังเสมอว่าเราเห็นทวด แต่ในวัยเด็กเราก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แค่รู้สึกเหมือนเค้าเลี้ยงเรามา....และนั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้น....
ทำไมเราถึงคิดว่าที่บ้านมีผี....เริ่มจาก...ตายาย มี ลูกทั้งหมด 3 คน โดยตากับยายจะสร้างบ้านให้ลูกทุกคนได้อยู่แบบครอบครัวแยกบ้านกัน
บ้านทุกหลังที่ตายายสร้าง เล่ากันว่าตายายใส่พระใส่ของดีอะไรที่ว่าดีตายายใส่ไปในหลุมเสาเอก เสาโท และนี้คืออีกจุดเริ่มเต้น.....
เริ่มจากบ้านหลังแรกของลุงพี่ชายแม่.... บ้านนั้นประกอบอาชีพเกี่ยวกับความบันเทิง...ภายในบ้านมีของมีราคามากมายแต่ให้ไม่ปิดบ้านของไม่เคยหาย
วันนึงด้วยคนทั้งบ้านต้องไปออกงานต่างจังหวัดจึงบอกให้ไปนอนเฝ้าบ้านให้หน่อย...ซึ่งเราก็ไปนะไปกับยาย...ใครจะกล้าไปคนเดียว5555
ทุกอย่างดูปกติไม่มีอะไร...แต่เมื่อดึกมันเป็นเรื่องปกอยู่แล้วที่จะนอนไม่หลับเพราะว่าแปลกที่...นั้นแหละไอ่ความที่นอนไม่หลับนี้แหละทำให้ได้ยินเสียง
ของผู้หญิงแก่มาบอกว่า...นอนหลับเถอะลูกที่นี้ไม่มีอะไรหรอกไม่ต้องห่วงยายเฝ้าเอง....หันซ้ายขวายายหลับอยู่....คิดว่าหลับลงไหม 5555
ต่อมาบ้านพี่สาวของแม่....หลังนี้ไปนอนก็ไม่เจออะไรหรอกแต่มักจะมีเรื่องเล่าให้ได้ยินเสมอ บ้านหลังนี้จะอยู่กันแต่ผู้หญิงป้าและลูกๆที่เป็นผู้หญิงทั้งหมดบ้าน ที่ได้ยินมาคือด้วยความเพื่อนของพี่มาหาที่บ้านแต่บ้านไม่มีใครอยู่ แต่เห็นผู้ชายตัวโตยืนอยู่ในบ้านแต่ไม่ยอมมาเปิดประตูให้... คิดว่าคนไหม!!
มาถึงบ้านเราเองแล้วนะ บ้านหลังแรกของฉัน บ้านหลังนี้ติดถนนไม่ได้น่ากลัวแล้วสมัยนี้...ถ้าในมุมหมอผีอะไรก็ตามจะบอกว่าติดทาง 4 แพร่ง
แต่มันไม่ถึงขนาดนั้นมันอาจเป็นลมเพลมพัด....ในสมัยนั้นเปิดเป็นร้านค้าทุก...สมัยที่จำความได้ช่วงตอนเรียนมัธยม...ด้วยความวัยรุ่นนอนดึกทำโครงงานส่งช่วงเวลาสักตี1 ตี2 สมัยนั้นมี MP 3 แบบอัดเพลงมาไว้ฟัง...เรามันก็คนอารมณ์ดีแหละ ทำไปร้องเพลงไป อยู่ก็มีเสียงเด็กหัวเราออกมาจาก MP3 เสียงดังเลย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฟังดูแล้วก็คิดว่าคิดไปเองใช่ไหมละ...ช่วงเวลานั้นเราเปิดกลับไปฟังเพลงเดิม 3 รอบ แต่ไม่มีเสียงหัวเราะออกมา..ก็สรุปได้แหละว่าอะไร
แต่มันไม่ได้แปลกอะไร .... ถามว่ากลัวไหมก็กลัวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้บ้านตัวเองอะเนอะ...เพราะปกติช่วง 3-4 ทุ่มที่เราปิดร้านปิดไฟก็จะได้ยินเสียงสวิตซ์ไฟแป๊กๆอยู่แล้ว ถือว่าปกติ บางครั้งก็ได้ยินเหมือนมีคนจับลูกบิดประตูห้องแล้วบิด...ก็ปกติอะเนอะ (ค้างบ้านหลังนี้ไว้ก่อน เรียกบ้านนี้ว่าบ้าน A แล้วกัน)
โดยปัจจุบันบ้าน A เลิกขายของแล้ว โซนที่ใช้ขายของแทบจะร้างเอาไว้ใช้เพียงแค่ส่วนหลังที่ใช้อาศัยอยู่ เนื่องจากแม่ได้เสียชีวิตด้วยอาการป่วย เมื่อแม่เสียชีวิตเเล้วนั้น...พ่อซึ่งเป็นลูกเขยจึงต้องออกจากบ้าน A ด้วย (ทุกวันนี้น้องชายยังอยู่หลังนี้)
พ่อก็ได้ออกมาสร้างบ้านอยู่ใหม่ในหมู่บ้านใกล้ๆกันเดินทางห่างกัน 15 นาที และเราก็ย้ายมากลับพ่อเช่นกัน
พื้นฐานครอบครัวฝั่งพ่อ คือ ปู่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ย่าเป็นร่างทรง
คำว่าร่างทรงนี้แหละทำให้ไม่ค่อยกลัวบวกกับหนีไปไหนก็ไม่ได้ ไม่รู้จะกลัวตรงไหนก่อน 5555
เริ่มที่บ้าน B บ้านหลังสุดตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ เริ่มจากตอนสร้างไม่เสร็จมีคนเห็นเงาในตัวบ้านก่อน....จนตอนนี้ถึงปัจจุบันก็ไม่มีใครกลัวเข้ามาหากเจ้าของบ้านไม่เรียก.....ทำไมถึงคิดว่าบ้านนี้มี....กลับไปคือย่าเป็นร่างทรง...บ้านที่สร้างก็อยู่ใกล้กับย่าไม่กี่ก้าว...บ้านหลังนี้ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
มาอยู่แรกๆเริ่มจากไม่มีอะไรเลย...ทำบุญขึ้นบ้านทุกอย่างตามประเพณี...เรื่องเริ่มจาก...หน้าต่างห้องนอนอยู่ติดที่จอดรถ....วันนั้นเป็นวันที่พ่อเลิกงานเช้า เรากลับดึก ดึกที่ไม่ได้ดึกอะแค่ 2 ทุ่มถือว่าปกติจากการเลิกงานเดินตลาดซื้อของกลับบ้านถึงบ้านช่วงนี้...พอมาถึงจอดรถข้างห้องนอนตามปกติ...แต่วันนี้ดันเห็นว่ามีคนยืนมองจาดในห้องนอนเรา...มองมาที่เราที่กำลังจอดรถ...เราก็มองเพราะคิดว่าพ่อกลับมาแล้ว...เป็นชายน่าจะสูงสัก 170 cm. สิ่งแรกที่คิดเลยตอนนั้นคือขโมย...เพราะว่ารู้ว่าพ่อกลับตอนเช้า...แต่รู้ว่าผีตอนไหน...ตอนที่จะเข้าบ้านไง...เดินไขกุญแจเข้าบ้านตามปกติเลย555...นั้นแหละถึงคิดได้ แต่ถือว่าเค้าดีนะ...เวลาเคลียดๆเหมือนเค้าอยู่กับเราตลอด....เวลามรเรื่องไม่สบายใจนอนไม่หลับแค่คิดจะถอนหายใจก็จะได้ยินเสียงถอนหายใจก่อนทุกครั้งจนเริ่มชิน....เวลากลับบ้านดึกมักจะเห็นยืนรออยู่ในรั่วบ้านเสมอ...คงอยากถามทำไมดึก555 จนเริ่มชิน ต่อมามีเรื่องที่ทำให้กลับไปนอนบ้าน A อีกครั้ง คือช่วงโควิดพ่อติดโควิดต้องแยกบ้านกันพ่อลูก .... โดยพ่อให้เรากลับไปนอนที่บ้าน A เพราะกลัวลูกติดด้วยความเป็นห่วงของพ่ออะเนอะ...
สัมภาระที่เราไปมีเต้นท์ 1 หลัง เสื้อผ้าทุกอย่าง ทำไมเอาเต็นท์ไปเพราะห้องเก่าหรืออะไรต่าง ๆ ที่เคยใช้คือน้องชายใช้หรือง่ายครอบครัวน้องชายใช้นั้นและเลยไม่ได้อยากรบกวนมาก เลยเอาเต้นไปกางนอนในส่วนที่เป็นร้านค้าที่บอกว่าแทบจะร้างนั้นแหละ...นานๆทีกลับไปมันก็กลัวกว่าเดิมเยอะเลย...ทำความสะอาดเสร็จกางเต็นท์นอน (กางเต้นท์นอนในบ้าน555) ด้วยอากาศที่ร้อนคืนแรกไม่มีอะไร เนื่องจากเรารู้ว่ากลับบ้านมานอนใครมีปัญหาอะไรจะไล่ออกไปให้หมดเพราะค่าใช้จ่ายเจ้าบ้านที่ดินเป็นชื่อของฉัน 5555 นอนหลับสบายเลย ต่อมาคืน 2 สอง ด้วยอากาศที่ร้อนพัดลมมันไม่ได้เย็นอะไรมาก กึ่งกลับกึ่งตื่น
คุณผีสงสารที่เห็นเราร้อนหรือเปล่าถึงถามว่า มานอนอะไรตรงนี้ ไอ่เราก็ตอบด้วยนะ ก็มันร้อนจะให้นอนตรงไหน พอตื่นเช้ามาคิดๆดูแล้ว มันก็นอนขวางทางจริงๆนั้นแหละ แต่ก็ปากดีเหมือนเดิม ใครกวนไล่ออก 555 เลยทำให้อยู่ได้ตลอดที่รอดฝั่งที่พ่อกักตัว
ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้าน B อยู่จนชิน เพราะคิดว่าคุณผีที่บ้านไม่ได้น่ากลัวอะไร ทุกครั้งที่เห็นก็เล่าให้พ่อฟังเสมอแต่พ่อมักบอกว่าคิดไปเอง... แต่ที่ไหนได้พ่อเห็นยิ่งกว่าเรา 5555 พ่อแค่ไม่อยากให้เรากลัว จนทุกวันนี้บอกพ่อว่า...กลัวแล้วทำไรได้บ้านก็อยู่นี้จะให้ไปอยู่ที่ไหน....เพราะมันมีทุกที่เลยไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่บ้าน..... (คนมันจะเห็นหรือได้ยินมันเลือกไม่ได้หรอก) ขอบคุณอ่านจบนะคะ