เรื่องย่อ
"The Iron Giant" เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันแนวไซไฟ ดราม่า ที่ออกฉายในปี 1999 กำกับโดย
Brad Bird (ซึ่งต่อมามีผลงานกำกับชื่อดังอย่าง The Incredibles และ Ratatouille) ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากหนังสือ "The Iron Man" ของ Ted Hughes (หรือ "The Iron Giant" ในเวอร์ชันอเมริกา) และได้รับการยกย่องอย่างสูงในด้านเนื้อหาและอนิเมชัน
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1957 ในช่วงสงครามเย็น ซึ่งเป็นยุคที่ความหวาดระแวงต่อภัยคุกคามจากภายนอกมีสูงมาก โดยเฉพาะจากอวกาศ เด็กชายชื่อ
Hogarth Hughes (ให้เสียงโดย Eli Marienthal) อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐเมน เขาได้บังเอิญไปพบกับ
หุ่นยนต์ยักษ์ตัวมหึมา (ให้เสียงโดย Vin Diesel) ที่ตกลงมาจากฟากฟ้าและมีขนาดใหญ่กว่าตึกหลายชั้น
หุ่นยนต์ยักษ์ตัวนี้มีต้นกำเนิดที่ลึกลับและมีระบบป้องกันตัวเองที่เป็นอาวุธร้ายแรง แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม มันกลับแสดงออกถึงความอยากรู้อยากเห็นและความเป็นมิตร Hogarth ตัดสินใจเก็บเรื่องของยักษ์เหล็กไว้เป็นความลับ และค่อยๆ สร้างมิตรภาพอันแน่นแฟ้นกับมัน เขาพยายามสอนให้ยักษ์เหล็กเข้าใจถึงความเป็นมนุษย์และความดีงาม ว่ามันไม่จำเป็นต้องเป็น "อาวุธ" หากแต่มันสามารถเลือกที่จะเป็น "ฮีโร่" ได้
แต่แล้วการปรากฏตัวของยักษ์เหล็กก็ถูกทางการรับรู้
Kent Mansley (ให้เสียงโดย Christopher McDonald) เจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้หวาดระแวงและพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ ก็ถูกส่งมาเพื่อสืบสวนและทำลายยักษ์เหล็ก Hogarth และ Dean McCoppin (ให้เสียงโดย Harry Connick Jr.) ช่างแกะสลักเศษเหล็กผู้รักอิสระที่มาช่วยเหลือ ต้องร่วมมือกันปกป้องยักษ์เหล็กจากภัยคุกคามของ Mansley และกองทัพที่กำลังเตรียมพร้อมจะโจมตี
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Iron Giant" เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่แม้จะเก่าไปบ้าง แต่ยังคงทรงคุณค่าและเข้าถึงจิตใจผู้ชมได้ในทุกยุคทุกสมัย เป็นเรื่องราวที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ความอบอุ่น และความสะเทือนใจ
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ
แก่นเรื่องเกี่ยวกับมิตรภาพ ความเข้าใจ และการเลือกที่จะเป็นคนดี ยักษ์เหล็กที่เป็นเหมือนเครื่องจักรสงครามกลับได้รับการเรียนรู้เรื่องมนุษยธรรมผ่านสายตาและหัวใจของเด็กชาย Hogarth ความสัมพันธ์ระหว่าง Hogarth และยักษ์เหล็กนั้นงดงามและน่าประทับใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันและเอาใจช่วยพวกเขาตลอดทั้งเรื่อง
ภาพยนตร์ยังแฝงด้วย
ข้อคิดต่อต้านสงครามและความหวาดระแวง ได้อย่างชาญฉลาด โดยสะท้อนถึงยุคสงครามเย็นที่ผู้คนหวาดกลัวสิ่งที่ไม่รู้จัก และตอกย้ำว่าบางครั้ง "มนุษย์" เองต่างหากที่อาจจะน่ากลัวกว่า "สัตว์ประหลาด" ที่เราคิด บทสรุปของเรื่องนั้นทรงพลังและกล้าหาญมาก เป็นฉากที่สร้างความประทับใจและเรียกน้ำตาจากผู้ชมได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อนิเมชันของภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้จะไม่ได้ใช้เทคโนโลยี CGI ล้ำสมัยเท่าปัจจุบัน แต่ก็มีสไตล์ที่คลาสสิกและงดงาม การเคลื่อนไหวของยักษ์เหล็กและตัวละครต่างๆ ทำได้ดีมาก ทำให้พวกเขามีชีวิตชีวาและแสดงอารมณ์ได้ชัดเจน
โดยรวมแล้ว "The Iron Giant" เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่แค่สำหรับเด็กเท่านั้น แต่เป็นภาพยนตร์ที่ผู้ใหญ่ทุกคนควรได้ดู เพื่อย้ำเตือนถึงคุณค่าของมิตรภาพ ความกล้าหาญ และการเลือกที่จะเป็นผู้สร้างสรรค์ ไม่ใช่ผู้ทำลาย
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 8.1/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 96% , คะแนนจากผู้ชม 90%
สรุป
"The Iron Giant" คือภาพยนตร์แอนิเมชันคลาสสิกที่ยังคงสร้างความประทับใจได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยเรื่องราวที่ลึกซึ้งกินใจเกี่ยวกับมิตรภาพต่างเผ่าพันธุ์ การต่อต้านสงคราม และการค้นหาตัวตนที่แท้จริงภายใต้การกำกับอันชาญฉลาดของ Brad Bird และแก่นเรื่องที่สอนให้เราเลือกที่จะเป็น "ฮีโร่" ด้วยคะแนนวิจารณ์ที่สูงลิ่วจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและความเป็นอมตะของภาพยนตร์เรื่องนี้ "The Iron Giant" เป็นภาพยนตร์ที่ทุกคนควรค่าแก่การรับชมและจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมทุกวัยไปอีกนาน.
The Iron Giant: ยักษ์เหล็กเพื่อนรัก เรื่องราวเหนือกาลเวลาของมิตรภาพและความกล้าหาญ
เรื่องย่อ
"The Iron Giant" เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันแนวไซไฟ ดราม่า ที่ออกฉายในปี 1999 กำกับโดย Brad Bird (ซึ่งต่อมามีผลงานกำกับชื่อดังอย่าง The Incredibles และ Ratatouille) ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากหนังสือ "The Iron Man" ของ Ted Hughes (หรือ "The Iron Giant" ในเวอร์ชันอเมริกา) และได้รับการยกย่องอย่างสูงในด้านเนื้อหาและอนิเมชัน
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1957 ในช่วงสงครามเย็น ซึ่งเป็นยุคที่ความหวาดระแวงต่อภัยคุกคามจากภายนอกมีสูงมาก โดยเฉพาะจากอวกาศ เด็กชายชื่อ Hogarth Hughes (ให้เสียงโดย Eli Marienthal) อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐเมน เขาได้บังเอิญไปพบกับ หุ่นยนต์ยักษ์ตัวมหึมา (ให้เสียงโดย Vin Diesel) ที่ตกลงมาจากฟากฟ้าและมีขนาดใหญ่กว่าตึกหลายชั้น
หุ่นยนต์ยักษ์ตัวนี้มีต้นกำเนิดที่ลึกลับและมีระบบป้องกันตัวเองที่เป็นอาวุธร้ายแรง แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม มันกลับแสดงออกถึงความอยากรู้อยากเห็นและความเป็นมิตร Hogarth ตัดสินใจเก็บเรื่องของยักษ์เหล็กไว้เป็นความลับ และค่อยๆ สร้างมิตรภาพอันแน่นแฟ้นกับมัน เขาพยายามสอนให้ยักษ์เหล็กเข้าใจถึงความเป็นมนุษย์และความดีงาม ว่ามันไม่จำเป็นต้องเป็น "อาวุธ" หากแต่มันสามารถเลือกที่จะเป็น "ฮีโร่" ได้
แต่แล้วการปรากฏตัวของยักษ์เหล็กก็ถูกทางการรับรู้ Kent Mansley (ให้เสียงโดย Christopher McDonald) เจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้หวาดระแวงและพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ ก็ถูกส่งมาเพื่อสืบสวนและทำลายยักษ์เหล็ก Hogarth และ Dean McCoppin (ให้เสียงโดย Harry Connick Jr.) ช่างแกะสลักเศษเหล็กผู้รักอิสระที่มาช่วยเหลือ ต้องร่วมมือกันปกป้องยักษ์เหล็กจากภัยคุกคามของ Mansley และกองทัพที่กำลังเตรียมพร้อมจะโจมตี
ความรู้สึกหลังรับชม
"The Iron Giant" เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่แม้จะเก่าไปบ้าง แต่ยังคงทรงคุณค่าและเข้าถึงจิตใจผู้ชมได้ในทุกยุคทุกสมัย เป็นเรื่องราวที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ความอบอุ่น และความสะเทือนใจ
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ แก่นเรื่องเกี่ยวกับมิตรภาพ ความเข้าใจ และการเลือกที่จะเป็นคนดี ยักษ์เหล็กที่เป็นเหมือนเครื่องจักรสงครามกลับได้รับการเรียนรู้เรื่องมนุษยธรรมผ่านสายตาและหัวใจของเด็กชาย Hogarth ความสัมพันธ์ระหว่าง Hogarth และยักษ์เหล็กนั้นงดงามและน่าประทับใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันและเอาใจช่วยพวกเขาตลอดทั้งเรื่อง
ภาพยนตร์ยังแฝงด้วย ข้อคิดต่อต้านสงครามและความหวาดระแวง ได้อย่างชาญฉลาด โดยสะท้อนถึงยุคสงครามเย็นที่ผู้คนหวาดกลัวสิ่งที่ไม่รู้จัก และตอกย้ำว่าบางครั้ง "มนุษย์" เองต่างหากที่อาจจะน่ากลัวกว่า "สัตว์ประหลาด" ที่เราคิด บทสรุปของเรื่องนั้นทรงพลังและกล้าหาญมาก เป็นฉากที่สร้างความประทับใจและเรียกน้ำตาจากผู้ชมได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อนิเมชันของภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้จะไม่ได้ใช้เทคโนโลยี CGI ล้ำสมัยเท่าปัจจุบัน แต่ก็มีสไตล์ที่คลาสสิกและงดงาม การเคลื่อนไหวของยักษ์เหล็กและตัวละครต่างๆ ทำได้ดีมาก ทำให้พวกเขามีชีวิตชีวาและแสดงอารมณ์ได้ชัดเจน
โดยรวมแล้ว "The Iron Giant" เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่แค่สำหรับเด็กเท่านั้น แต่เป็นภาพยนตร์ที่ผู้ใหญ่ทุกคนควรได้ดู เพื่อย้ำเตือนถึงคุณค่าของมิตรภาพ ความกล้าหาญ และการเลือกที่จะเป็นผู้สร้างสรรค์ ไม่ใช่ผู้ทำลาย
คะแนน IMDb และ Rotten Tomatoes ปัจจุบัน
IMDb: 8.1/10
Rotten Tomatoes: คะแนนจากนักวิจารณ์ 96% , คะแนนจากผู้ชม 90%
สรุป
"The Iron Giant" คือภาพยนตร์แอนิเมชันคลาสสิกที่ยังคงสร้างความประทับใจได้อย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยเรื่องราวที่ลึกซึ้งกินใจเกี่ยวกับมิตรภาพต่างเผ่าพันธุ์ การต่อต้านสงคราม และการค้นหาตัวตนที่แท้จริงภายใต้การกำกับอันชาญฉลาดของ Brad Bird และแก่นเรื่องที่สอนให้เราเลือกที่จะเป็น "ฮีโร่" ด้วยคะแนนวิจารณ์ที่สูงลิ่วจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและความเป็นอมตะของภาพยนตร์เรื่องนี้ "The Iron Giant" เป็นภาพยนตร์ที่ทุกคนควรค่าแก่การรับชมและจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมทุกวัยไปอีกนาน.