อเมริกาอวย "สมุนไพรอมตะ" ดีกว่าชาเขียวและโสม ฤทธิ์ต้านมะเร็ง-ฟื้นฟูตับ ไทยปลูกได้มาก!

“เจียวกู่หลาน” สมุนไพรที่อเมริกายกย่องว่าเหนือกว่าชาเขียว เทียบชั้นโสม แต่ปลูกได้มากในไทย!
ในขณะที่ชาเขียวได้รับการยอมรับทั่วโลกในฐานะเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่นักวิจัยสหรัฐฯ ขนานนามว่าเป็น "สมุนไพรแห่งความเป็นอมตะ" (Herb of Immortality) และมีสรรพคุณที่เหนือกว่าชาเขียว อีกทั้งยังเทียบเคียงโสมได้เลยทีเดียว สมุนไพรชนิดนั้นคือ “เจียวกู่หลาน” หรือในชื่อไทยว่า “ปัญจขันธ์”

ดร.ไมเคิล อาซิซ (Dr. Michael Aziz) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูจากนิวยอร์ก เปิดเผยว่าเขาบริโภคเจียวกู่หลานเป็นประจำวันละ 900 มิลลิกรัม และพบว่าพืชชนิดนี้มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ เช่น
ช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต
มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
ส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญพลังงาน (เมตาบอลิซึม)
กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ AMP-activated protein kinase (AMPK) ซึ่งช่วยรักษาสมดุลพลังงานในเซลล์
ปรับสัญญาณอินซูลิน และช่วยให้ไมโตคอนเดรียทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการชะลอวัย
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่ระบุว่า เจียวกู่หลานมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง และช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ สรรพคุณเด่นกว่าโสมและชาเขียวเสียอีก

ปัญจขันธ์ หรือที่เรียกในจีนว่า เจียวกู่หลาน เป็นพืชไม้เลื้อยที่เติบโตในพื้นที่ภูเขา มีลักษณะใบแฉก 5 แฉก สารออกฤทธิ์สำคัญในเจียวกู่หลานคือ gypenosides ซึ่งเป็นกลุ่มซาโปนินคล้ายกับที่พบในโสม (ginsenosides)
ดร.อาซิซ เปิดเผยว่า ค่าความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ (ORAC) ของชาเจียวกู่หลาน สูงกว่าชาเขียวถึง 8 เท่า ทำให้เครื่องดื่มสมุนไพรนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาหารเสริมระดับพรีเมียมในหลายประเทศ โดยแนะนำให้ชง ใบแห้งเจียวกู่หลาน 1-2 ช้อนชาในน้ำร้อน 250 มล. แล้วกรองดื่ม รสชาติอาจขมเล็กน้อยแต่มีความหวานธรรมชาติในตัว

ทั้งนี้ แม้เจียวกู่หลานจะถือว่าปลอดภัยในการบริโภค แต่บางรายอาจมีอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย วิงเวียน หรือมึนศีรษะ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
ข่าวดีคือ ประเทศไทยเป็นแหล่งปลูกเจียวกู่หลานชั้นดี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และพะเยา เนื่องจากอากาศเย็นและความชื้นสูง เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชชนิดนี้ เกษตรกรหลายรายในไทยเริ่มหันมาปลูกเจียวกู่หลานเพื่อแปรรูปเป็นชา ใบอบแห้ง หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เจียวกู่หลานหรือปัญจขันธ์ นับเป็นสมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักและใช้ประโยชน์ เพราะไม่เพียงแต่เป็น “โสมแห่งเอเชียใต้” ในสายตานักวิจัยต่างชาติ แต่ยังเป็นโอกาสทองของคนไทยในการบริโภคสมุนไพรที่ปลูกได้เอง และมีคุณประโยชน์มหาศาลต่อสุขภาพในระยะยาว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : https://www.sanook.com/news/9810530/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่