สวัสดีค่ะ โพสต์นี้หนูอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่หนูได้เจอ ค่ะ เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลค่ะ
ก่อนอื่นหนูก็อยากขอเป็นกำลังใจให้กับพยาบาลและบุคลากรทางแพทย์ทุกๆท่านนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่าในช่วงวันพฤหัสบดีของเดือนมิถุนายนนะคะ หนูไปทำงานตอนกลางวันหนก็มาร้องเพลงเปิดหมวกตอนกลางคืนค่ะ อยู่ๆหนูก็รู้สึกปวดหัวคลื่นไส้ต่อด้วยอาการหน้ามืดตัวเย็น หายใจไม่อิ่มจะเป็นลมค่ะ แต่ว่าโรคประจำตัวหนูก็คือเป็นแพนิคอยู่แล้วค่ะ วันนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 22:30 น ค่ะหนูก็ไปโรงพยาบาลพยาบาลตรวจวัดความดันหน้าห้องฉุกเฉินเสร็จก็เลยให้หนูขึ้นเตียงไปพักที่ห้องฉุกเฉินนะคะ
สักพักคุณหมอมาดูอาการค่ะมาสอบถามอาการแล้วก็ประเมินอาการแล้วก็พูดกับหนูสั้นๆว่าเดี๋ยวจะฉีดยาให้นะพักผ่อนเยอะๆแล้วกัน แล้วคุณหมอก็หันหลังไปค่ะหนูก็เลยยังไม่ทราบว่าคุณหมอจะฉีดยาอะไรให้หนูก็เลยต้องเรียกถามคุณหมออีกครั้งหนึ่งค่ะ คุณหมอถึงบอกว่าเป็นยาคลายเครียดตัวเดิมที่หนูเคยฉีดตอนเป็นแพนิค
หลังจากนั้นพยาบาลก็มาฉีดยาค่ะหนูเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกตอนที่พยาบาลมาฉีดยาให้คนไข้แล้วพยาบาลก็ใส่หูฟัง bluetooth คุยโทรศัพท์คุยกับคนในครอบครัวหรือประมาณนี้นะคะที่ฟังผ่านๆหู แต่หนูก็เริ่มไม่โอเคแต่ก็เข้าใจได้ค่ะเขาก็คงเครียดกับงาน
ขอฉีดยาคลายเครียดไปสักพักซึ่งยาตัวนี้จะมีผลข้างเคียงอยู่แล้วหนูก็เริ่มมีอาการเวียนหัวทันทีแล้วก็ยกแขนยกขาไม่ขึ้นแล้วก็ยังเบลออยู่ค่ะยังเบลอมากๆแล้วหนูขยับตัวไม่ได้ ซึ่งปกติหนูเคยฉีดยาตัวนี้ผลข้างเคียงจะอยู่ประมาณ 15-20 นาทีไม่เกินนี้ค่ะ
แล้วสิ่งที่หนูไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนั้นก็คือ 5 นาทีพยาบาลเรียกเวรเปลมาโดยที่เขาไม่ได้ถามอะไร ซึ่งเวรเปลก็มาแต่ตอนนั้นหนูก็ยังลุกไม่ไหวแม้แต่จะขยับตัวแล้วก็จะยกหัวขึ้นเพราะว่าหนูเวียนมากแล้วก็ยังเบลอ พยาบาลก็เดินมาบอกว่า คนไข้กลับบ้านนะ หนูก็เลยบอกว่าหนูยังไม่ไหวค่ะหนูขอพักอีกไม่เกิน 10 นาทีนะคะ แล้วตอนแรกที่หนูบอกขอพักเขาก็ยังถามว่าจะพักนานไหม หลังจากนั้นก็ไม่มีการเช็คความดันเช็คอะไรไม่มีการ follow อาการไม่มีการถามอะไรอีกเลยค่ะกลับบ้านก็คือกลับ
เส้นที่หนูเล่ามามันเป็นประสบการณ์ที่หนูได้เจอหนูรู้สึกว่าโดยรวมแล้วรู้สึกไม่โอเคค่ะรู้สึกว่าเขาไม่มีการใส่ใจดูแล ผู้ป่วย หนูก็รู้สึกอึดอัดอยู่แล้วค่ะเพราะว่าถ้าหนูลุกได้หนูก็รีบกลับทันทีเลยค่ะตอนนั้นก็รู้สึกไม่โอเคมากๆจากเหตุการณ์ที่หนูได้เจอ มันรู้สึกเฟลมากจริงๆ บางท่านที่เข้ามาอ่านโพสต์นี้อาจจะคิดว่าหนูคงเรียกร้องอะไรจากเขาหรือเปล่า หนูบอกเลขาหนูไม่เรียกร้องอะไรหนูเข้าใจว่าเขาทำงานหนักเขาก็เหนื่อยแต่ความรู้สึกที่เราได้รับมันเฟลมากจริงๆค่ะมันเป็นเหตุการณ์ที่บอกได้เลยว่าเหมือนการดูแลไม่ได้ใส่ใจอะไรกับผู้ป่วยเลย
จริงๆมีบุคลากรทางแพทย์และมีพยาบาลคนดีๆก็มีค่ะเพราะว่าหลังจากที่หนูออกจากห้อง ER หนูไปรับยาทางเวรเปลแล้วก็พี่เภสัชที่จัดยาให้ใจดีมากๆค่ะ หนูยังเบลอกับอาการฤทธิ์ยาคลายเครียดอยู่พี่เภสัชก็ให้นั่งพักก่อน เวรเปลก็ดูแลดีมากๆค่ะ จากประสบการณ์ที่หนูป่วยมาหนูก็เจอบุคลากรทางแพทย์ที่ดีมากๆเหมือนกันแต่เหตุการณ์นี้ที่หนูเอามาแชร์เพราะว่าหนูอยากแชร์ประสบการณ์ที่มัน fail
หนูก็หวังว่าประสบการณ์นี้ไม่อยากให้ไปเกิดกับท่านไหนอีกนะคะขอให้ทุกคนเจอแต่เรื่องที่ดีๆค่ะ ขอบพระคุณที่อ่านจบนะคะ
ความรู้สึกจากใจคนไข้ ที่ไปรักษาในโรงพยาบาล
ก่อนอื่นหนูก็อยากขอเป็นกำลังใจให้กับพยาบาลและบุคลากรทางแพทย์ทุกๆท่านนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่าในช่วงวันพฤหัสบดีของเดือนมิถุนายนนะคะ หนูไปทำงานตอนกลางวันหนก็มาร้องเพลงเปิดหมวกตอนกลางคืนค่ะ อยู่ๆหนูก็รู้สึกปวดหัวคลื่นไส้ต่อด้วยอาการหน้ามืดตัวเย็น หายใจไม่อิ่มจะเป็นลมค่ะ แต่ว่าโรคประจำตัวหนูก็คือเป็นแพนิคอยู่แล้วค่ะ วันนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 22:30 น ค่ะหนูก็ไปโรงพยาบาลพยาบาลตรวจวัดความดันหน้าห้องฉุกเฉินเสร็จก็เลยให้หนูขึ้นเตียงไปพักที่ห้องฉุกเฉินนะคะ
สักพักคุณหมอมาดูอาการค่ะมาสอบถามอาการแล้วก็ประเมินอาการแล้วก็พูดกับหนูสั้นๆว่าเดี๋ยวจะฉีดยาให้นะพักผ่อนเยอะๆแล้วกัน แล้วคุณหมอก็หันหลังไปค่ะหนูก็เลยยังไม่ทราบว่าคุณหมอจะฉีดยาอะไรให้หนูก็เลยต้องเรียกถามคุณหมออีกครั้งหนึ่งค่ะ คุณหมอถึงบอกว่าเป็นยาคลายเครียดตัวเดิมที่หนูเคยฉีดตอนเป็นแพนิค
หลังจากนั้นพยาบาลก็มาฉีดยาค่ะหนูเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกตอนที่พยาบาลมาฉีดยาให้คนไข้แล้วพยาบาลก็ใส่หูฟัง bluetooth คุยโทรศัพท์คุยกับคนในครอบครัวหรือประมาณนี้นะคะที่ฟังผ่านๆหู แต่หนูก็เริ่มไม่โอเคแต่ก็เข้าใจได้ค่ะเขาก็คงเครียดกับงาน
ขอฉีดยาคลายเครียดไปสักพักซึ่งยาตัวนี้จะมีผลข้างเคียงอยู่แล้วหนูก็เริ่มมีอาการเวียนหัวทันทีแล้วก็ยกแขนยกขาไม่ขึ้นแล้วก็ยังเบลออยู่ค่ะยังเบลอมากๆแล้วหนูขยับตัวไม่ได้ ซึ่งปกติหนูเคยฉีดยาตัวนี้ผลข้างเคียงจะอยู่ประมาณ 15-20 นาทีไม่เกินนี้ค่ะ
แล้วสิ่งที่หนูไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนั้นก็คือ 5 นาทีพยาบาลเรียกเวรเปลมาโดยที่เขาไม่ได้ถามอะไร ซึ่งเวรเปลก็มาแต่ตอนนั้นหนูก็ยังลุกไม่ไหวแม้แต่จะขยับตัวแล้วก็จะยกหัวขึ้นเพราะว่าหนูเวียนมากแล้วก็ยังเบลอ พยาบาลก็เดินมาบอกว่า คนไข้กลับบ้านนะ หนูก็เลยบอกว่าหนูยังไม่ไหวค่ะหนูขอพักอีกไม่เกิน 10 นาทีนะคะ แล้วตอนแรกที่หนูบอกขอพักเขาก็ยังถามว่าจะพักนานไหม หลังจากนั้นก็ไม่มีการเช็คความดันเช็คอะไรไม่มีการ follow อาการไม่มีการถามอะไรอีกเลยค่ะกลับบ้านก็คือกลับ
เส้นที่หนูเล่ามามันเป็นประสบการณ์ที่หนูได้เจอหนูรู้สึกว่าโดยรวมแล้วรู้สึกไม่โอเคค่ะรู้สึกว่าเขาไม่มีการใส่ใจดูแล ผู้ป่วย หนูก็รู้สึกอึดอัดอยู่แล้วค่ะเพราะว่าถ้าหนูลุกได้หนูก็รีบกลับทันทีเลยค่ะตอนนั้นก็รู้สึกไม่โอเคมากๆจากเหตุการณ์ที่หนูได้เจอ มันรู้สึกเฟลมากจริงๆ บางท่านที่เข้ามาอ่านโพสต์นี้อาจจะคิดว่าหนูคงเรียกร้องอะไรจากเขาหรือเปล่า หนูบอกเลขาหนูไม่เรียกร้องอะไรหนูเข้าใจว่าเขาทำงานหนักเขาก็เหนื่อยแต่ความรู้สึกที่เราได้รับมันเฟลมากจริงๆค่ะมันเป็นเหตุการณ์ที่บอกได้เลยว่าเหมือนการดูแลไม่ได้ใส่ใจอะไรกับผู้ป่วยเลย
จริงๆมีบุคลากรทางแพทย์และมีพยาบาลคนดีๆก็มีค่ะเพราะว่าหลังจากที่หนูออกจากห้อง ER หนูไปรับยาทางเวรเปลแล้วก็พี่เภสัชที่จัดยาให้ใจดีมากๆค่ะ หนูยังเบลอกับอาการฤทธิ์ยาคลายเครียดอยู่พี่เภสัชก็ให้นั่งพักก่อน เวรเปลก็ดูแลดีมากๆค่ะ จากประสบการณ์ที่หนูป่วยมาหนูก็เจอบุคลากรทางแพทย์ที่ดีมากๆเหมือนกันแต่เหตุการณ์นี้ที่หนูเอามาแชร์เพราะว่าหนูอยากแชร์ประสบการณ์ที่มัน fail
หนูก็หวังว่าประสบการณ์นี้ไม่อยากให้ไปเกิดกับท่านไหนอีกนะคะขอให้ทุกคนเจอแต่เรื่องที่ดีๆค่ะ ขอบพระคุณที่อ่านจบนะคะ