เปิดอาณาจักร 3 แสนล้าน “เครือสหพัฒน์” ยักษ์คอนซูเมอร์ไทย ภายใต้การนำทัพ “บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” กับพันธกิจการส่งไม้ต่อสู่ 9 ทายาทเจนเนอเรชั่น 3 ด้วยแนวคิด "คนดี สินค้าดี สังคมดี"
อาณาจักร “เครือสหพัฒน์” หรือ SAHA GROUP ภายใต้การนำทัพของเจนเนอเรชั่น 2 อย่าง “บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” ประธานเครือสหพัฒน์ ยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภคของไทย ซึ่งมีสินค้าไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นรายการในหลากหลายแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า, ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์, ผงซักฟองเปา
ชุดชั้นในวาโก้, เสื้อผ้า แอร์โรว์, ลาคอสท์, แอล, กี ลาโรช รวมไปถึงของใช้ในบ้านอย่างครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ, เครื่องสำอาง BSC และร้านสะดวกซื้อลอว์สัน ฯลฯ ภายใต้บริษัทในเครือกว่า 300 บริษัท และ 16 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มูลค่ามาร์เก็ตแคปกว่า 1.78 แสนล้าน และหากนับรวมทั้งกรุ๊ป มีมูลค่าสูงกว่า 3 แสนล้านบาท
การประกาศวางมือของ “เสี่ยบุณยสิทธิ์” ในวัย 88 ปี ซึ่งนับถอยหลังเหลือระยะเวลาไม่นาน พันธกิจวันนี้คือการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ทายาทตระกูล “โชควัฒนา” ในเจนเนอเรชั่น 3 อย่างเป็นทางการ
ส่งต่อทายาทรุ่น 3
"เสี่ยบุณยสิทธิ์" ย้ำว่า จากจุดเริ่มต้นการทำงานในเครือสหพัฒน์ตั้งแต่อายุ 17 ปี เพื่อสานต่อธุรกิจจากบิดา “ดร.เทียม โชควัฒนา” ผู้ก่อตั้งเครือสหพัฒน์ ปณิธานสำคัญที่สั่งสมมา และพร้อมส่งมอบให้ทายาทรุ่น 3 คือ "คนดี สินค้าดี สังคมดี" และหัวใจสำคัญคือ "ความซื่อสัตย์ ไม่ฉ้อโกง" ซึ่งเป็น DNA ที่ดร.เทียม ได้วางรากฐานไว้
วันนี้ภายใต้อาณาจักรของเครือสหพัฒน์ ทั้งธุรกิจการผลิต, การจัดจำหน่าย, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการ ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า ธุรกิจการลงทุน ธุรกิจบริการ ด้วยจุดแข็งที่มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศผ่านศูนย์กระจายสินค้า 76 แห่ง ไปยังช่องทางการขายกว่า 9 หมื่นช่องทาง
แบ่งเป็นร้านค้าปลีก ค้าส่ง แบบดั้งเดิม (Traditional Trade) กว่า 8.4 หมื่นร้านค้า และร้านค้าปลีก ค้าส่งสมัยใหม่ (Modern Trade) ซึ่ง รวมไปถึงร้านซูเปอร์สโตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และช่องทางพิเศษอีกกว่า 6,000 ร้านค้า และยังมีธุรกิจยังรับผลิตสินค้า OEM และ SAHAPAT INTERBIZ ที่ให้บริการเกี่ยวกับการส่งออก นำเข้าสินค้า จัดจำหน่ายสินค้าไปยังนานาประเทศทั่วโลก การส่งไม้ต่อสู่ทายาททั้ง 9 จึงถูกจัดวาง พร้อมเดินหน้าสั่งสมประสบการณ์มายาวนานต่อเนื่องนับ 10 ปี
ลดแฟชั่น ขยายธุรกิจบริการ
“แผนธุรกิจขั้นต่อไปเพื่อรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน เครือสหพัฒน์ได้ปรับกลยุทธ์สำคัญหลังจากการวางมือ โดยจะเน้นการร่วมทุนกับพันธมิตร เพิ่มการลงทุนร่วมกับพาร์ทเนอร์มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายโอกาสทางธุรกิจ พร้อมทั้งลดลงทุนในแฟชั่น หันเน้นอาหารและสุขภาพ ปรับลดการลงทุนในธุรกิจแฟชั่นที่มองว่ามีแนวโน้มถดถอย และหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจอาหารเป็นหลัก รวมถึงธุรกิจด้านสุขภาพและธุรกิจสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี”
“เสี่ยบุณยสิทธิ์” บอกว่า การส่งไม้ต่อให้กับทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งมี "ความตั้งใจและความสามารถที่แตกต่างกัน" และพร้อมรักษา "ความซื่อสัตย์" ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่ ดร.เทียม โชควัฒนา ได้วางไว้ ให้เป็นหลักในการขับเคลื่อนเครือสหพัฒน์ให้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
“การบริหารงานบริษัทในเครือตอนนี้มีคนรุ่นใหม่ขึ้นมารับช่วงต่อ รุ่นเราก็วางวิสัยทัศน์ให้คนรุ่นใหม่ ในอนาคตต้องทำอะไรที่ท้าทายกว่างานปัจจุบัน ซึ่งเรื่องที่ท้าทายกว่าคือ ต้องรู้ว่าที่ผ่านมาเครือสหพัฒน์ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคมาก แต่ต่อไปจะพยายามหาธุรกิจบริการ มาเพิ่มเติม
วันนี้จึงเห็นธุรกิจใหม่ของเครือสหพัฒน์ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงเรียน เช่น โรงเรียนนานาชาติคิงส์ คอลเลจ, โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ, โรงเรียนบุนกะแฟชั่น, โรงเรียนการบินศรีราชา เอวิเอชั่น ต่อไปอาจจะมีโรงเรียนสอนดำน้ำ
เปิดตัว 9 ทายาทรับไม้ต่อ
โดยกลุ่มธุรกิจหลักของเครือสหพัฒน์อย่าง บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC ถือหุ้นในบริษัทย่อย 4 บริษัท และถือหุ้นในบริษัทรวม 15 บริษัท ครอบคลุมทั้งธุรกิจการจัดจำหน่าย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการ ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า ธุรกิจการลงทุน ธุรกิจบริการ ปัจจุบันมีนายบุญชัย โชควัฒนา นั่งเป็นประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร
โดยมี “นายเวทิต โชควัฒนา” บุตรชาย นายบุณย์เอก โชควัฒนา (ลูกชายคนโต ดร.เทียม พี่ชายเสี่ยบุณยสิทธิ์) นั่งเป็นรองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ สืบทอด
และมีนางชัยลดา ตันติเวชกุล บุตรสาวนายบุญชัย โชควัฒนา เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการ บมจ. สหพัฒนพิบูล และมีนายเพชร พะเนียงเวทย์ (ลูกชายนายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ ซีอีโอ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า) นั่งเป็นกรรมการบริษัท และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
ซึ่งบมจ.สหพัฒนพิบูล ถือเป็นแขนขาสำคัญที่ขับเคลื่อนเครือสหพัฒน์ ณ วันที่ 17 มิ.ย.68 มีมาร์เก็ตแคป 19,305 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 10,275 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 671 ล้านบาท, บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA ณ วันที่ 17 มิ.ย.68 มีมาร์เก็ตแคป 64,127.43 ล้านบาท ไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 7,330 ล้านบาท กำไรสุทธิ 981 ล้านบาท
ขณะที่กลุ่มแฟชั่นและเพอร์ซันนอล โปรดักส์ มี นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา (บุตรชายเสี่ยบุณยสิทธิ์) นั่งเป็นกรรมการผู้อำนวยการ บมจ. ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล , ประธานกรรมการ บมจ. ไทยวาโก้ ขณะที่นางธีรดา อำพันวงษ์ (บุตรสาวเสี่ยบุณยสิทธิ์) เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ
บมจ. โอซีซี มีนายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา (บุตรชาย นางศิรินา (โชควัฒนา) ปวโรฬารวิทยา) เป็นประธานกรรมการ บมจ. บูติคนิวซิตี้ และนางประวรา เอครพานิช (บุตรสาว นางศิรินา (โชควัฒนา) ปวโรฬารวิทยา) เป็นประธานกรรมการบริหาร บมจ. บูติคนิวซิตี้ นอกจากนี้ยังมีนายพิภพ โชควัฒนา (บุตรชายนายบุญปกรณ์) เป็นประธานกรรมการบริหาร บมจ. นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ)
โดยบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ICC ณ วันที่ 17 มิ.ย.68 มีมาร์เก็ตแคป 1.35 หมื่นล้านบาท มีในไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 2,898 ล้านบาท กำไรสุทธิ 607 ล้านบาท บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL ณ วันที่ 17 มิ.ย.68 มีมาร์เก็ตแคป 8,224 ล้านบาท ไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 291 ล้านบาท กำไรสุทธิ 126 ล้านบาท, บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) หรือ NC ณ วันที่ 17 มิ.ย.68 มีมาร์เก็ตแคป 332 ล้านบาท ไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 133 ล้านบาท กำไรสุทธิ0.50 ล้านบาท
บริษัท โอ ซี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ OCC ณ วันที่ 17 มิ.ย.68 มีมาร์เก็ตแคป 708 ล้านบาท ไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 241 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16 ล้านบาท, บริษัท ประชาอาภรณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PG ณ วันที่ 17 มิ.ย.68 มีมาร์เก็ตแคป 700 ล้านบาท ไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 181 ล้านบาท กำไรสุทธิ -2.63 ล้านบาท และบริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BTNC ณ วันที่ 17 มิ.ย.68 มีมาร์เก็ตแคป 140 ล้านบาท ไตรมาส 1/68 มีรายได้ 63 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4.30 ล้านบาท
ผนึกพันธมิตรรุกอี-คอมเมิร์ซเต็มตัว
ด้านนายวิชัย กุลสมภพ (บุตรเขยเสี่ยบุณยสิทธิ์) ปัจจุบันเป็นกุนซือสำคัญ ในการขับเคลื่อน บมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง หรือ SPI ในฐานะประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งมุ่งจะต่อยอดขยายโอกาสในการเติบโต (Diversified) ผ่านการลงทุนในธุรกิจต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ KingBridge Tower อาคารสำนักงานให้เช่าเกรด A และ KINGSQUARE Community ในย่านพระราม 3 รวมทั้งธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ร่วมทุนดำเนินธุรกิจพัฒนาผลิตและจำหน่ายแผงวงจรพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงกับกลุ่มบริษัท Zhen Ding Tech เป็นต้น
โดยบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI ณ วันที่ 17 มิ.ย.68 มีมาร์เก็ตแคป 36,889 ล้านบาท ไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 1,510 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,338 ล้านบาท
ส่วนนายสรโชติ อำพันวงษ์ (บุตรเขยเสี่ยบุณยสิทธิ์) เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด//ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช้อป โกลบอล อี-คอมเมิร์ซ จำกัด // ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท บิ๊กซ์โชว์ ลาล่า จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่เสี่ยบุณยสิทธิ์ ผลักดันให้เครือสหพัฒน์ทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล ให้ทันกับโลกการค้าที่เปลี่ยนแปลง
ซึ่งล่าสุดเป็นการร่วมลงทุนกับพันธมิตร 4 ชาติ ได้แก่ ไทย เกาหลีใต้ จีน และฮ่องกง ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาทในการสร้างแพลตฟอร์ม “BIGXSHOW” ที่เป็นทั้ง Live Fandom Commerce เพื่อจำหน่ายสินค้า รวมถึงสร้างสรรค์โปรเจค “X THE LIVE” ดึงอินฟลูเอนเซอร์ 3 ชาติ เป็นไทย 18 คน เกาหลีใต้ 4 คน และมาเลเซีย 2 คนมาร่วมรายการแข่งขันการขายสินค้า ซึ่งจะนำไปออกอากาศผ่าน VIU แบบเอ็กซ์คลูซีพใน 16 ประเทศ
เปิด 9 ทายาท “สหพัฒน์” รับไม้ต่อขับเคลื่อนธุรกิจ 3 แสนล้านตระกูล “โชควัฒนา”