
’ดร.รุ่ง’ มาแรง จ่อนั่ง ’ผู้ว่าธปท.‘ คนใหม่ เปิด 3 เหตุผลสนับสนุน
.
การคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ผ่านการแสดงวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์ผู้สมัครไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธานได้คัดเลือกผู้สมัครเหลือ 2 รายชื่อเพื่อเสนอให้กับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พิจารณา และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้
.
2 รายชื่อที่เข้าสู่การพิจารณาในรอบสุดท้ายคือ
.
1. นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
2. ดร.รุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.
.
ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่าในการสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครทั้ง 6 คนที่ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์มีการนำเสนอข้อมูล ปัญหาเศรษฐกิจ และความท้าทายของเศรษฐกิจไทย ทั้งเรื่องของหนี้ครัวเรือน และสงครามการค้าที่ประเทศไทยต้องมีการเตรียมนโยบายทางการเงินไว้รองรับได้ค่อนข้างดี แต่ผู้สมัคร 2 คนที่โดดเด่นได้พูดถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่ค่อนข้างเป็นรูปธรรม โดยดร.รุ่งได้ให้น้ำหนักในการผลักดันให้ ธปท.ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อให้ส่งจากนโยบายการเงินลงไปสู่ภาคปฏิบัติ
.
ส่วนนายวิทัยนั้นสร้างความประทับใจและดึงคะแนนจากกรรมการที่สัมภาษณ์ได้ด้วยนโยบายของธนาคารที่ใช้สำเร็จกับธนาคารออมสินมาแล้ว ด้วยการผลักดันให้เป็น Social Bank ที่เน้นการแก้ปัญหาหนี้สินและการผลักดัน การปล่อยกู้ให้กับประชาชนรายย่อยมากขึ้น
.
อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งสองรายชื่อถึงมือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชื่อที่มีภาษีและมีโอกาสจะได้เป็นผู้ว่าการธปท.คนใหม่ ณ นาทีนี้คือชื่อของ “ดร.รุ่ง” โดยมีเหตุผลสนับสนุน 3 ข้อหลักดังนี้
.
1. การนำเสนอนโยบายที่ ธปท.ต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม
.
โดย ดร.รุ่งได้นำเสนอกับคณะกรรมการคัดเลือกว่าปัญหาที่ผ่านมาการส่งผ่านนโยบายการเงินจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไปยังสถาบันการเงินยังไม่เห็นผลมากนัก แม้จะมีการลดดอกเบี้ยลงมาหลายครั้ง แต่สถาบันการเงิน โดยเฉพาะแบงก์พาณิชย์นั้นตอบสนองช้า หรือลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จนทำให้เกิดช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากมาก ซึ่งปัญหานี้แบงก์ชาติต้องลงไปแก้ปัญหาโดยเน้นในส่วนของการกำกับสถาบันการเงินมากขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้
.
นอกจากนี้ดร.รุ่งยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าถึงเวลาที่การทำงานของ ธปท.จะต้องกลับมาที่ค่านิยมของแบงก์ชาติคือ "ยืนตรง มองไกล ยื่นมือ ติดดิน" คือค่านิยมทั้งสี่ที่คน ธปท.ยึดมั่น โดยในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้แบงก์ชาติต้องทำหน้าที่ในการ “ยื่นมือ” ลงมาช่วยแก้ปัญหาของประเทศมากขึ้น
.
2. แรงสนับสนุนจากทางการเมือง
.
ในช่วงก่อนที่จะมีการสอบสัมภาษณ์ มีรายงานข่าวระบุว่าดร.รุ่งได้พบกับบุคคลสำคัญในฟากฝั่งของรัฐบาล เพื่อชี้แจงแนวคิด นโยบายการทำงานหากได้เป็นผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ว่ามีนโยบายที่สามารถปรับจูนเข้ากันกับรัฐบาลได้อย่างไรบ้าง และจะประสานการทำงานกันได้อย่างไรบ้างในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งในส่วนนี้ทำให้ “กำแพง” ที่ฝ่ายการเมืองมองผู้สมัครผู้ว่าแบงก์ชาติที่เป็น “คนใน” นั้นหายไป
.
ประกอบกับทางฝ่ายการเมืองนั้นก็เข้าใจว่า ดร.รุ่งนั้นมีประสบการณ์ในการทำงานกับธนาคารเอกชน คือเคยนั่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Global Business and Strategy ธนาคารกรุงไทยในช่วงปี 2560-2562 มาก่อนจึงมีความเข้าใจและยืดหยุ่นในการทำงานได้เป็นอย่างดี
.
ส่วนในเรื่องนโยบายอื่นๆที่ดร.รุ่งเคยสนับสนุนล้วนแต่ไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล เช่น การจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) รวมถึงการยกระดับกลไกการค้ำประกันเครดิต (NaCGA) ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของไทย อีกทั้งมีส่วนร่วมผลักดัน “แนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน
.
นอกจากนี้ฝ่ายการเมืองพรรคเพื่อไทยเองก็ระมัดระวังเช่นกัน หากเลือกผู้สมัครที่มาจากฝ่ายการเมืองชัดเจนเกินไปเช่นมีนามสกุลเดียวกับรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย หรือเลือกคนที่มีข่าวว่าการเมืองทาบทามมาตั้งแต่ต้น ก็จะทำให้เกิดแรงต่อต้านทั้งจากคนใน ธปท.และแรงต้านจากสังคมได้
.
3.การที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงเดือนตุลาคม 2569 ณ กรุงเทพมหานคร
.
ซึ่งถือว่าเป็นการประชุมใหญ่ของแวดวงเงินเงินของโลก การที่ประเทศไทยมี “ผู้ว่าธนาคารกลาง” ที่เป็นคนที่อยู่ในแบงก์ชาติมายาวนานนั้นจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย
.
นอกจากนั้น ในเรื่องของการศึกษา ดร.รุ่งยังจบจากสถาบันชั้นนำของโลก โดยในระดับปริญญาตรีจบด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา และระดับปริญญาเอก จบด้านเศรษฐศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ซึ่งได้รับการยอมรับสูง จึงเป็นอีกเหตุผลที่ รมว.คลังจะตัดสินใจเลือกให้ ดร.รุ่งเป็นผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่
.
.
อ่านต่อ:
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1186594?anm=
สงสัยว่าจะเก็บดอกเบี้ยไว้รอผู้ว่าคนใหม่หรือเปล่า
’ดร.รุ่ง’ มาแรง จ่อนั่ง ’ผู้ว่าธปท.‘ คนใหม่ เปิด 3 เหตุผลสนับสนุน
’ดร.รุ่ง’ มาแรง จ่อนั่ง ’ผู้ว่าธปท.‘ คนใหม่ เปิด 3 เหตุผลสนับสนุน
.
การคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ผ่านการแสดงวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์ผู้สมัครไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธานได้คัดเลือกผู้สมัครเหลือ 2 รายชื่อเพื่อเสนอให้กับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พิจารณา และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้
.
2 รายชื่อที่เข้าสู่การพิจารณาในรอบสุดท้ายคือ
.
1. นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
2. ดร.รุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.
.
ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่าในการสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครทั้ง 6 คนที่ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์มีการนำเสนอข้อมูล ปัญหาเศรษฐกิจ และความท้าทายของเศรษฐกิจไทย ทั้งเรื่องของหนี้ครัวเรือน และสงครามการค้าที่ประเทศไทยต้องมีการเตรียมนโยบายทางการเงินไว้รองรับได้ค่อนข้างดี แต่ผู้สมัคร 2 คนที่โดดเด่นได้พูดถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่ค่อนข้างเป็นรูปธรรม โดยดร.รุ่งได้ให้น้ำหนักในการผลักดันให้ ธปท.ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อให้ส่งจากนโยบายการเงินลงไปสู่ภาคปฏิบัติ
.
ส่วนนายวิทัยนั้นสร้างความประทับใจและดึงคะแนนจากกรรมการที่สัมภาษณ์ได้ด้วยนโยบายของธนาคารที่ใช้สำเร็จกับธนาคารออมสินมาแล้ว ด้วยการผลักดันให้เป็น Social Bank ที่เน้นการแก้ปัญหาหนี้สินและการผลักดัน การปล่อยกู้ให้กับประชาชนรายย่อยมากขึ้น
.
อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งสองรายชื่อถึงมือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชื่อที่มีภาษีและมีโอกาสจะได้เป็นผู้ว่าการธปท.คนใหม่ ณ นาทีนี้คือชื่อของ “ดร.รุ่ง” โดยมีเหตุผลสนับสนุน 3 ข้อหลักดังนี้
.
1. การนำเสนอนโยบายที่ ธปท.ต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม
.
โดย ดร.รุ่งได้นำเสนอกับคณะกรรมการคัดเลือกว่าปัญหาที่ผ่านมาการส่งผ่านนโยบายการเงินจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไปยังสถาบันการเงินยังไม่เห็นผลมากนัก แม้จะมีการลดดอกเบี้ยลงมาหลายครั้ง แต่สถาบันการเงิน โดยเฉพาะแบงก์พาณิชย์นั้นตอบสนองช้า หรือลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จนทำให้เกิดช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากมาก ซึ่งปัญหานี้แบงก์ชาติต้องลงไปแก้ปัญหาโดยเน้นในส่วนของการกำกับสถาบันการเงินมากขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้
.
นอกจากนี้ดร.รุ่งยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าถึงเวลาที่การทำงานของ ธปท.จะต้องกลับมาที่ค่านิยมของแบงก์ชาติคือ "ยืนตรง มองไกล ยื่นมือ ติดดิน" คือค่านิยมทั้งสี่ที่คน ธปท.ยึดมั่น โดยในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้แบงก์ชาติต้องทำหน้าที่ในการ “ยื่นมือ” ลงมาช่วยแก้ปัญหาของประเทศมากขึ้น
.
2. แรงสนับสนุนจากทางการเมือง
.
ในช่วงก่อนที่จะมีการสอบสัมภาษณ์ มีรายงานข่าวระบุว่าดร.รุ่งได้พบกับบุคคลสำคัญในฟากฝั่งของรัฐบาล เพื่อชี้แจงแนวคิด นโยบายการทำงานหากได้เป็นผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ว่ามีนโยบายที่สามารถปรับจูนเข้ากันกับรัฐบาลได้อย่างไรบ้าง และจะประสานการทำงานกันได้อย่างไรบ้างในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งในส่วนนี้ทำให้ “กำแพง” ที่ฝ่ายการเมืองมองผู้สมัครผู้ว่าแบงก์ชาติที่เป็น “คนใน” นั้นหายไป
.
ประกอบกับทางฝ่ายการเมืองนั้นก็เข้าใจว่า ดร.รุ่งนั้นมีประสบการณ์ในการทำงานกับธนาคารเอกชน คือเคยนั่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Global Business and Strategy ธนาคารกรุงไทยในช่วงปี 2560-2562 มาก่อนจึงมีความเข้าใจและยืดหยุ่นในการทำงานได้เป็นอย่างดี
.
ส่วนในเรื่องนโยบายอื่นๆที่ดร.รุ่งเคยสนับสนุนล้วนแต่ไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล เช่น การจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) รวมถึงการยกระดับกลไกการค้ำประกันเครดิต (NaCGA) ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของไทย อีกทั้งมีส่วนร่วมผลักดัน “แนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน
.
นอกจากนี้ฝ่ายการเมืองพรรคเพื่อไทยเองก็ระมัดระวังเช่นกัน หากเลือกผู้สมัครที่มาจากฝ่ายการเมืองชัดเจนเกินไปเช่นมีนามสกุลเดียวกับรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย หรือเลือกคนที่มีข่าวว่าการเมืองทาบทามมาตั้งแต่ต้น ก็จะทำให้เกิดแรงต่อต้านทั้งจากคนใน ธปท.และแรงต้านจากสังคมได้
.
3.การที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงเดือนตุลาคม 2569 ณ กรุงเทพมหานคร
.
ซึ่งถือว่าเป็นการประชุมใหญ่ของแวดวงเงินเงินของโลก การที่ประเทศไทยมี “ผู้ว่าธนาคารกลาง” ที่เป็นคนที่อยู่ในแบงก์ชาติมายาวนานนั้นจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย
.
นอกจากนั้น ในเรื่องของการศึกษา ดร.รุ่งยังจบจากสถาบันชั้นนำของโลก โดยในระดับปริญญาตรีจบด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา และระดับปริญญาเอก จบด้านเศรษฐศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ซึ่งได้รับการยอมรับสูง จึงเป็นอีกเหตุผลที่ รมว.คลังจะตัดสินใจเลือกให้ ดร.รุ่งเป็นผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่
.
.
อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1186594?anm=
สงสัยว่าจะเก็บดอกเบี้ยไว้รอผู้ว่าคนใหม่หรือเปล่า