สายฝนในวันโต
ตอนเด็ก…
ฉันเคยกลัวฝน กลัวฟ้าร้อง
ทุกครั้งที่ฟ้าร้องเปรี้ยงลงมา หัวใจก็สะดุ้งไหว น้ำตาคลอเบ้า
และไม่ว่าอยู่มุมไหนของบ้าน
ฉันจะวิ่งไปหลบในอ้อมกอดของพ่อ หรือแม่เสมอ
อ้อมกอดนั้น…ปลอดภัย อุ่น และเหมือนโลกทั้งใบหยุดกลัวในทันที
แต่เมื่อโตขึ้น
ชีวิตพาฉันออกมาไกลจากบ้าน ไกลจากอ้อมกอดนั้น
สายฝนยังคงตก ฟ้ายังคงร้อง แต่ฉันไม่มีที่ให้วิ่งเข้าไปอีกแล้ว
มีเพียงหมอนข้าง หรือผ้าห่มเก่า ๆ ที่พอจะช่วยบรรเทาความเปลี่ยวเหงาในใจ
แต่ไม่ว่ามันจะอุ่นแค่ไหน
มันก็ไม่อุ่นเท่าอ้อมกอดของพ่อแม่เลยสักนิด
เราโตขึ้นทุกวัน
ในขณะเดียวกัน…พ่อแม่ก็แก่ลงทุกวัน
เหมือนกับสายฝนที่ร่วงหล่นจากฟ้า
บางวันโปรยปรายเบา ๆ เหมือนคำปลอบโยน
แต่บางวันก็หนักหน่วงจนน้ำตาหลั่งตามไม่รู้ตัว
ฉันอยากย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
แค่นั่งมองฝนตกจากในบ้าน พร้อมเสียงแม่บ่นให้รีบเก็บผ้า
หรือฟังพ่อบอกให้หลบเข้ามาข้างใน
เพราะตอนนั้น…
แค่ได้อยู่ในบ้านที่มีพ่อแม่
ต่อให้พายุใหญ่แค่ไหน ก็ไม่เคยรู้สึกกลัวเลยสักนิด
สายฝนในวันโต
ตอนเด็ก…
ฉันเคยกลัวฝน กลัวฟ้าร้อง
ทุกครั้งที่ฟ้าร้องเปรี้ยงลงมา หัวใจก็สะดุ้งไหว น้ำตาคลอเบ้า
และไม่ว่าอยู่มุมไหนของบ้าน
ฉันจะวิ่งไปหลบในอ้อมกอดของพ่อ หรือแม่เสมอ
อ้อมกอดนั้น…ปลอดภัย อุ่น และเหมือนโลกทั้งใบหยุดกลัวในทันที
แต่เมื่อโตขึ้น
ชีวิตพาฉันออกมาไกลจากบ้าน ไกลจากอ้อมกอดนั้น
สายฝนยังคงตก ฟ้ายังคงร้อง แต่ฉันไม่มีที่ให้วิ่งเข้าไปอีกแล้ว
มีเพียงหมอนข้าง หรือผ้าห่มเก่า ๆ ที่พอจะช่วยบรรเทาความเปลี่ยวเหงาในใจ
แต่ไม่ว่ามันจะอุ่นแค่ไหน
มันก็ไม่อุ่นเท่าอ้อมกอดของพ่อแม่เลยสักนิด
เราโตขึ้นทุกวัน
ในขณะเดียวกัน…พ่อแม่ก็แก่ลงทุกวัน
เหมือนกับสายฝนที่ร่วงหล่นจากฟ้า
บางวันโปรยปรายเบา ๆ เหมือนคำปลอบโยน
แต่บางวันก็หนักหน่วงจนน้ำตาหลั่งตามไม่รู้ตัว
ฉันอยากย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
แค่นั่งมองฝนตกจากในบ้าน พร้อมเสียงแม่บ่นให้รีบเก็บผ้า
หรือฟังพ่อบอกให้หลบเข้ามาข้างใน
เพราะตอนนั้น…
แค่ได้อยู่ในบ้านที่มีพ่อแม่
ต่อให้พายุใหญ่แค่ไหน ก็ไม่เคยรู้สึกกลัวเลยสักนิด