ไปกันครับเสาร์นี้ตะลอนถิ่นฉะเชิงเทรากันต่อ (แบบว่ายังไม่ทั่วจังหวัดเลย) รอบนี้ไปอำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรากันครับ "ท่าตะเกียบ" ท่าเป็นคำกริยา ก้อต้องเป็นวิธีการจับตะเกียบดิ (ผมคิดไปเองคนเดียวครับ) ป่าวเลย..อำเภอท่าตะเกียบเดิมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอพนมสารคาม แล้วแยกตัวออกมาขึ้นกับอำเภอสนามชัยเขต แล้วเป็นเอกเทศอย่างเป็นทางการในปี 2539 เป็นต้นมา ณ.พื้นที่นี้มีวัดหลากหลายลำดับชั้น สำหรับวัดหนองเรือนั้นจัดเป็นวัดและสถานปฏิบัติธรรม ซึ่งถูกจัดเป็น
วัดราษฎร์มหานิกาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วัดราษฎร์มหานิกายเป็นวัดที่อยู่ในความปกครองของคณะสงฆ์มหานิกาย วัดในสังกัดมหานิกายจะมีลักษณะการปกครอง การปฏิบัติศาสนกิจ และการสืบทอดพระพุทธศาสนาตามแนวทางของมหานิกาย โดยทั่วไปแล้ว มหานิกายจะมีความแตกต่างจากธรรมยุติกนิกายในเรื่องของการบวชและการรับปัจจัย
จุดเด่นของวัดนี้คือ พระอุโบสถที่แกะสลักจากไม้ กอรปด้วยพื้นที่วัดมีขนาดใหญ่แต่ร่มรื่น หากต้องการความสงบก้อเป็นอีกวัดที่น่าปลีกวิเวกมาก (ออกแนวหลอนนิดๆ สำหรับใครที่จิตนิ่งยาก)

วัดนี้ที่น่าสนใจคือ พระอุโบสถไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากเท่าไร แต่ไม้แกะสลักทั้งหลัง เอาแค่ประตูเปิด-ปิดก้อหนักแล้ว ขอพาไปเยี่ยมชมรอบๆ ก่อนดีกว่าว่าตรงตามที่ผมบอกไหม

ดูแล้วร่มรื่นไหมล่ะ ถ้าไม่แน่ใจดูต่อครับ

"หลอนไหมล่ะสำหรับกลางคืน 555" ไปต่อครับยังไม่สุด

บ่อน้ำนี้เข้าใจว่าเอาไว้สนับสนุนพื้นที่ตั้งของเหล่าต้นไม้รอบๆ เราไปปิดทองลูกนิมิตกันก่อนครับ

เรียบง่ายจริงๆ ไหมล่ะที่นี่ หลังปิดทองแล้วก้อเดินทะลุมิติไปต่อกันครับ

เอาให้ชัดๆ หน่อย

ยัง..ยังไม่หมดครับ

เนี่ยแหระไม้แกะสลักทั้งหลัง


ผมลองเดินสำรวจไปรอบๆ รู้สึกประทับใจห้องน้ำที่วัดนี้มาก..สะอาดและห้องกว้างดีครับ เป็นทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำ (ใหญ่กว่าห้องน้ำที่บ้านผมอีก) แต่ไม่ได้เก็บภาพมาให้ชมนะครับ ต้องไปชมกันที่สถานที่จริงเอง
การเดินทางเกือบสองชั่วโมงไปวัดนี้ผมว่าคุ้มค่าครับ แม้เส้นทางไปบางจุดอาจจะทำให้รำคาญจิตบ้าง เพราะมีการซ่อมแซมถนนตามสไตล์ไทยแลนด์ จะว่าไปแล้วผมไม่ได้ไปวัดเดียวครับ มีอีกหนึ่งที่สนใจและไปมาแล้ว แต่ขอลงรอบหน้าแล้วกัน เพราะลังเลว่าควรเชียร์ให้ไปกันตอนนี้หรือรอไปก่อนดี เอาไว้จะมาระบายให้ฝั่งอีกครั้งครับ

ท่านบอกว่าครั้งหน้ามานอนปลีกวิเวกดูก้อได้โยม..สาธุๆ
บ้านหนองเรือ..ใช่ๆ ต้องมีวัดหนองเรือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จุดเด่นของวัดนี้คือ พระอุโบสถที่แกะสลักจากไม้ กอรปด้วยพื้นที่วัดมีขนาดใหญ่แต่ร่มรื่น หากต้องการความสงบก้อเป็นอีกวัดที่น่าปลีกวิเวกมาก (ออกแนวหลอนนิดๆ สำหรับใครที่จิตนิ่งยาก)
วัดนี้ที่น่าสนใจคือ พระอุโบสถไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากเท่าไร แต่ไม้แกะสลักทั้งหลัง เอาแค่ประตูเปิด-ปิดก้อหนักแล้ว ขอพาไปเยี่ยมชมรอบๆ ก่อนดีกว่าว่าตรงตามที่ผมบอกไหม
ดูแล้วร่มรื่นไหมล่ะ ถ้าไม่แน่ใจดูต่อครับ
"หลอนไหมล่ะสำหรับกลางคืน 555" ไปต่อครับยังไม่สุด
บ่อน้ำนี้เข้าใจว่าเอาไว้สนับสนุนพื้นที่ตั้งของเหล่าต้นไม้รอบๆ เราไปปิดทองลูกนิมิตกันก่อนครับ
เรียบง่ายจริงๆ ไหมล่ะที่นี่ หลังปิดทองแล้วก้อเดินทะลุมิติไปต่อกันครับ
เอาให้ชัดๆ หน่อย
ยัง..ยังไม่หมดครับ
เนี่ยแหระไม้แกะสลักทั้งหลัง
ผมลองเดินสำรวจไปรอบๆ รู้สึกประทับใจห้องน้ำที่วัดนี้มาก..สะอาดและห้องกว้างดีครับ เป็นทั้งห้องสุขาและห้องอาบน้ำ (ใหญ่กว่าห้องน้ำที่บ้านผมอีก) แต่ไม่ได้เก็บภาพมาให้ชมนะครับ ต้องไปชมกันที่สถานที่จริงเอง
การเดินทางเกือบสองชั่วโมงไปวัดนี้ผมว่าคุ้มค่าครับ แม้เส้นทางไปบางจุดอาจจะทำให้รำคาญจิตบ้าง เพราะมีการซ่อมแซมถนนตามสไตล์ไทยแลนด์ จะว่าไปแล้วผมไม่ได้ไปวัดเดียวครับ มีอีกหนึ่งที่สนใจและไปมาแล้ว แต่ขอลงรอบหน้าแล้วกัน เพราะลังเลว่าควรเชียร์ให้ไปกันตอนนี้หรือรอไปก่อนดี เอาไว้จะมาระบายให้ฝั่งอีกครั้งครับ
ท่านบอกว่าครั้งหน้ามานอนปลีกวิเวกดูก้อได้โยม..สาธุๆ