.1.
.
.
ในปี 1908
ลึกเข้าไปในเทือกเขาที่ทุรกันดาร
ของมณฑลเสฉวนในประเทศจีน
มีกลุ่มของกรรมกรผู้ไม่ธรรมดา
ซึ่งรู้จักกันในนาม
คนแบกชา
พวกเขาได้เผชิญหน้ากับ
หนึ่งในเส้นทางการค้า
ที่อันตรายที่สุดในโลก
นั่นคือ
เส้นทางชาและม้า
ภารกิจที่สำคัญและทรหดพอๆ กัน
นั่นคือ
การขนส่งชาดำอัดก้อน
เป็นระยะทางหลายร้อยไมล์ไปยังธิเบต
ที่นั่นชาไม่ได้เป็นเพียงแค่
ของจำเป็นในชีวิตประจำวัน
แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นทางวัฒนธรรมอีกด้วย
คนแบกชามักจะถูกเรียกขานกันว่า
สัตว์พาหนะที่เป็นมนุษย์
แบกสัมภาระชาก้อนขนาดมะเบ้ง(มหึมา)
ที่มีน้ำหนักมากถึง 100 กิโลกรัม
โดยมีโครงไม้รัดติดกับหลัง
และลำตัวที่โค้งงอภายใต้ความเครียด
พวกเขาเดินทัพอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
ผ่านภูมิประเทศภูเขาที่ห่างไกล
ขึ้นและลงตามเส้นทางแคบ ๆ
ที่มีรอยทางอยู่บนหน้าผา
เส้นทางทอดยาวข้ามความสูงเกิน 5,000 ฟุต
บนถนนที่เป็นโคลนตมและพังทลาย
ซึ่งกลายเป็นอันตรายเมื่อมีพายุฝนพัดผ่าน
คนแบกชาจะเดินทางได้วันละ 10 กิโลเมตร
เป็นก้าวที่ช้า แต่ไม่หยุดเดิน ก้าวที่คงที่
อันเป็นผลมาจากน้ำหนักสินค้า
และสภาพเส้นทางที่อันตราย
รองเท้าแตะพวกเขาทำจากฟาง หรือหนัง
แทบจะป้องกันจากหนามหินแหลมคม
และความหนาวเย็นไม่ได้เลย
แม้จะมีความยากลำบาก
การค้าชาก็ยังคงมีความสำคัญ
ชาดำอัดก้อนที่พวกเขาขนส่ง
จะขนส่งง่ายกว่าสินค้าอย่างอื่น
และตลาดต้องการเหมาะสำหรับ
ชาเนยทิเบต (คนธิเบตชอบกินน้ำชาใส่เนย)
.
.2.
.2.1
.
.
ในตอนขากลับ
ม้า สมุนไพร สินค้าอื่น ๆ ของธิเบต
ก็ถูกนำกลับมา ตามเส้นทางที่เหนื่อยยากนี้
ผู้ชายเหล่านี้เป็นมากกว่าแค่กรรมกร
พวกเขาคือ เส้นทางชีวิตที่เชื่อมโยง
วัฒนธรรมโบราณทั้งสองแห่ง
ข้ามภูมิศาสตร์ที่โหดร้ายที่สุดของโลก
เส้นทางชาและม้าไม่ได้
เป็นเพียงเส้นทางการค้าเท่านั้น
แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึง
ความอดทนของมนุษย์
การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
และความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอด
และเจริญรุ่งเรืองท่ามกลางอุปสรรคทั้งปวง
ทุกวันนี้ มรดกของพวกเขายังคงอยู่
ทั้งในตำนาน เรื่องราว ภาพถ่าย
และเส้นทางที่ยังคงคดเคี้ยว
ผ่านที่ราบสูงเสฉวนไปธิเบต
.
เรียบเรียง/ที่มา
SINOSPHERE 漢字文化圈
Ancient World History
.
หมายเหตุ
คนเดิน หลีกคนหาบ
คนหาบ หลีกคนแบก
คนแบก หลีกคนคอน
คนคอน หลีกขุนนาง
โกวเล้ง
.
.
.3.

.
.4.
.
.5.
.
.6.
.
.7.
.
.8.
.
.9.
.
.10.
.
.11.

.
Kangding, Sichuan in the 1930s,
the ancient city of Kangding
on the Tea Horse Road
under the lens of foreigners
.
.12.
.
.13.

.
.14.

.
.
@ 15-22 (ภาพสี AI)
Old Photo 1930
.
15.
.
.16.
.
.17.
.
.18.
.
.19.
.
.20.
.
.21.
.
.22.
.
.
เรื่องเดิม
.
ฟากฟ้าฝังศพ
.
.
ฑากิณีพาวิญญาณโบยบินสู่ท้องฟ้า
.
.

.
แค่ได้คิดถึง
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
คนแบกชา ต้องทำตัวเสมือนศิลปินพื้นบ้าน
เช่น นายหนังตะลุง มโนราห์ หมอซอ หมอรำ
ในการเล่านิทาน ตำนาน ข่าวสาร
บอกข่าวสารจากแดนไกล
นำจดหมายน้อยที่คนฝากฝังมา
ด้วยถ้อยคำวาจา หรือตัวอักษร
แมัว่าข่าวคราวจะล่าช้ามาก
แต่ไม่ว่ากัน ไม่โทษกันแต่อย่างใด
แค่ได้คิดถึง ก็พอสุขใจ
ในสมัยก่อนคนเดินทางไกลถิ่น
มักจะเป็นพ่อค้าจร ศิลปินพื้นบ้าน
คนพวกนี้มักจะได้รับการอนุเคราะห์
ด้านข้าวปลาอาหารและที่พักระหว่างทาง
กับความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง
แลกเปลี่ยนกับการมอบเรื่องราว ตำนาน
ข่าวความคิดถึงจากคนแดนไกล
ทำให้ไม่ต้องแบกขนข้าวปลาอาหาร
ที่หนักมากไปตามเส้นทางเดินทาง
.
.
สมัยสงครามประชาชนของไทย
คนนำสาส์นระหว่างฐานที่มั่นแต่ละแห่ง
คนย้ายฐานที่มั่นเพราะเหตุต่าง ๆ
เสมือนบุรุษไปรษณีย์กลาย ๆ
มักจะได้รับการต้อนรับอย่างดี
เพราะจะได้รู้ข่าวคราวของสหาย/เพื่อนฝูง
เพื่อนร่วมปฏิวัติ/คนรู้จักในฐานที่มั่นอื่น
ในการแบกเป้เสบียงระยะทางไกล
สหายมักจะหลีกเลี่ยงเกลือ
เพราะมวลสารมักจะหนักดิ่งล่าง
และจับตัวเป็นก้อนแข็ง ๆ คงรูป
การเป้เกลือจะรู้สึกหนักกว่าการเป้ข้าวสาร
ที่จะกระจายน้ำหนักไปรอบข้างดีกว่า
คนแบกชาไปธิเบต
.
ในปี 1908
ลึกเข้าไปในเทือกเขาที่ทุรกันดาร
ของมณฑลเสฉวนในประเทศจีน
มีกลุ่มของกรรมกรผู้ไม่ธรรมดา
ซึ่งรู้จักกันในนาม คนแบกชา
พวกเขาได้เผชิญหน้ากับ
หนึ่งในเส้นทางการค้า
ที่อันตรายที่สุดในโลก
นั่นคือ เส้นทางชาและม้า
ภารกิจที่สำคัญและทรหดพอๆ กัน
นั่นคือ การขนส่งชาดำอัดก้อน
เป็นระยะทางหลายร้อยไมล์ไปยังธิเบต
ที่นั่นชาไม่ได้เป็นเพียงแค่
ของจำเป็นในชีวิตประจำวัน
แต่ยังเป็นสิ่งจำเป็นทางวัฒนธรรมอีกด้วย
คนแบกชามักจะถูกเรียกขานกันว่า
สัตว์พาหนะที่เป็นมนุษย์
แบกสัมภาระชาก้อนขนาดมะเบ้ง(มหึมา)
ที่มีน้ำหนักมากถึง 100 กิโลกรัม
โดยมีโครงไม้รัดติดกับหลัง
และลำตัวที่โค้งงอภายใต้ความเครียด
พวกเขาเดินทัพอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
ผ่านภูมิประเทศภูเขาที่ห่างไกล
ขึ้นและลงตามเส้นทางแคบ ๆ
ที่มีรอยทางอยู่บนหน้าผา
เส้นทางทอดยาวข้ามความสูงเกิน 5,000 ฟุต
บนถนนที่เป็นโคลนตมและพังทลาย
ซึ่งกลายเป็นอันตรายเมื่อมีพายุฝนพัดผ่าน
คนแบกชาจะเดินทางได้วันละ 10 กิโลเมตร
เป็นก้าวที่ช้า แต่ไม่หยุดเดิน ก้าวที่คงที่
อันเป็นผลมาจากน้ำหนักสินค้า
และสภาพเส้นทางที่อันตราย
รองเท้าแตะพวกเขาทำจากฟาง หรือหนัง
แทบจะป้องกันจากหนามหินแหลมคม
และความหนาวเย็นไม่ได้เลย
แม้จะมีความยากลำบาก
การค้าชาก็ยังคงมีความสำคัญ
ชาดำอัดก้อนที่พวกเขาขนส่ง
จะขนส่งง่ายกว่าสินค้าอย่างอื่น
และตลาดต้องการเหมาะสำหรับ
ชาเนยทิเบต (คนธิเบตชอบกินน้ำชาใส่เนย)
.
.2.1
.
ในตอนขากลับ
ม้า สมุนไพร สินค้าอื่น ๆ ของธิเบต
ก็ถูกนำกลับมา ตามเส้นทางที่เหนื่อยยากนี้
ผู้ชายเหล่านี้เป็นมากกว่าแค่กรรมกร
พวกเขาคือ เส้นทางชีวิตที่เชื่อมโยง
วัฒนธรรมโบราณทั้งสองแห่ง
ข้ามภูมิศาสตร์ที่โหดร้ายที่สุดของโลก
เส้นทางชาและม้าไม่ได้
เป็นเพียงเส้นทางการค้าเท่านั้น
แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึง
ความอดทนของมนุษย์
การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
และความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตรอด
และเจริญรุ่งเรืองท่ามกลางอุปสรรคทั้งปวง
ทุกวันนี้ มรดกของพวกเขายังคงอยู่
ทั้งในตำนาน เรื่องราว ภาพถ่าย
และเส้นทางที่ยังคงคดเคี้ยว
ผ่านที่ราบสูงเสฉวนไปธิเบต
.
เรียบเรียง/ที่มา
SINOSPHERE 漢字文化圈
Ancient World History
.
หมายเหตุ
คนเดิน หลีกคนหาบ
คนหาบ หลีกคนแบก
คนแบก หลีกคนคอน
คนคอน หลีกขุนนาง
โกวเล้ง
.
.3.
.
.4.
.
.5.
.
.6.
.
.7.
.
.8.
.
.9.
.
.10.
.
.11.
.
Kangding, Sichuan in the 1930s,
the ancient city of Kangding
on the Tea Horse Road
under the lens of foreigners
.
.12.
.
.13.
.
.14.
.
.
@ 15-22 (ภาพสี AI) Old Photo 1930
.
15.
.
.16.
.
.17.
.
.18.
.
.19.
.
.20.
.
.21.
.
.22.
.
.
เรื่องเดิม
.
ฟากฟ้าฝังศพ
.
.
ฑากิณีพาวิญญาณโบยบินสู่ท้องฟ้า
.
.
.
แค่ได้คิดถึง
.
เรื่องเล่าไร้สาระ
คนแบกชา ต้องทำตัวเสมือนศิลปินพื้นบ้าน
เช่น นายหนังตะลุง มโนราห์ หมอซอ หมอรำ
ในการเล่านิทาน ตำนาน ข่าวสาร
บอกข่าวสารจากแดนไกล
นำจดหมายน้อยที่คนฝากฝังมา
ด้วยถ้อยคำวาจา หรือตัวอักษร
แมัว่าข่าวคราวจะล่าช้ามาก
แต่ไม่ว่ากัน ไม่โทษกันแต่อย่างใด
แค่ได้คิดถึง ก็พอสุขใจ
ในสมัยก่อนคนเดินทางไกลถิ่น
มักจะเป็นพ่อค้าจร ศิลปินพื้นบ้าน
คนพวกนี้มักจะได้รับการอนุเคราะห์
ด้านข้าวปลาอาหารและที่พักระหว่างทาง
กับความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง
แลกเปลี่ยนกับการมอบเรื่องราว ตำนาน
ข่าวความคิดถึงจากคนแดนไกล
ทำให้ไม่ต้องแบกขนข้าวปลาอาหาร
ที่หนักมากไปตามเส้นทางเดินทาง
.
.
สมัยสงครามประชาชนของไทย
คนนำสาส์นระหว่างฐานที่มั่นแต่ละแห่ง
คนย้ายฐานที่มั่นเพราะเหตุต่าง ๆ
เสมือนบุรุษไปรษณีย์กลาย ๆ
มักจะได้รับการต้อนรับอย่างดี
เพราะจะได้รู้ข่าวคราวของสหาย/เพื่อนฝูง
เพื่อนร่วมปฏิวัติ/คนรู้จักในฐานที่มั่นอื่น
ในการแบกเป้เสบียงระยะทางไกล
สหายมักจะหลีกเลี่ยงเกลือ
เพราะมวลสารมักจะหนักดิ่งล่าง
และจับตัวเป็นก้อนแข็ง ๆ คงรูป
การเป้เกลือจะรู้สึกหนักกว่าการเป้ข้าวสาร
ที่จะกระจายน้ำหนักไปรอบข้างดีกว่า