เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ที่ค่ายรถใหญ่จีน (BAIC) ร่วมกับค่ายมือถือใหญ่จีน (Huawei) พัฒนาร่วมกัน
วิ่งจริง (ไม่เอาตัวเลขประเมิน) คาดได้ว่าเกิน 500 กม.
ADAS Level 3 แล้ว มี LiDAR ด้วย พร้อมใช้ 'end-to-end' neural network*
เวลาในหัวเรื่อง คือ คันมอเตอร์คู่ สองล้านบาท หาซื้อได้แล้วเช่นที่ช็อป หัวเว่ย ในห้างจีน
ถ้าคันมอเตอร์เดี่ยว 5.98 วินาที ซึ่งลงเลขละเอียดเชียว เขาคงไม่อยากเขียน ให้มันเกินถึง 6 วิ สนนราคาอยู่ที่ 1,799,000 บาท
ถือว่าแรงและคุ้มกว่า i4 ที่ผมลองขับ ซึ่ง i4 รีวิวต่างว่าขับดีกัน ผมก็ว่า มันได้ทั้งสบาย ได้ทั้งพยศ
ส่วน Stelato ผมไม่ได้ถึงขนาดไปขอลอง ส่วนนึงเพราะคนจีนพูดอังกฤษไม่ได้เลย แม้แต่ร้านเดียว
*ทางกระผมดำเนินการ การวางแผนเส้นทาง (Path planning) ด้วยคู่เปรียบอีกตัว คือ Neural Radiance Fields เช่นเดียวกับรถอีกยี่ห้อที่บอกว่าจะใช้ เพราะมีแต่กล้อง ต้องสร้างภาพสามมิติจากสองมิติ
ผมพบว่า NeRF ไม่ได้เจ๋งเท่าไหร่
ดังนั้น ผมชอบคันมี USS/Radar/LiDAR ถ้าออกแบบสวย ๆ จอดลอยติดเกียร์ N ได้ส่วนตัวก็สนใจ โดยเฉพาะหลัง Solid-state แบตออกแพร่หลาย
เชิญชมภาพ Stelato ซึ่ง 0-100 3.9 วินาที
วิ่งจริง (ไม่เอาตัวเลขประเมิน) คาดได้ว่าเกิน 500 กม.
ADAS Level 3 แล้ว มี LiDAR ด้วย พร้อมใช้ 'end-to-end' neural network*
เวลาในหัวเรื่อง คือ คันมอเตอร์คู่ สองล้านบาท หาซื้อได้แล้วเช่นที่ช็อป หัวเว่ย ในห้างจีน
ถ้าคันมอเตอร์เดี่ยว 5.98 วินาที ซึ่งลงเลขละเอียดเชียว เขาคงไม่อยากเขียน ให้มันเกินถึง 6 วิ สนนราคาอยู่ที่ 1,799,000 บาท
ถือว่าแรงและคุ้มกว่า i4 ที่ผมลองขับ ซึ่ง i4 รีวิวต่างว่าขับดีกัน ผมก็ว่า มันได้ทั้งสบาย ได้ทั้งพยศ
ส่วน Stelato ผมไม่ได้ถึงขนาดไปขอลอง ส่วนนึงเพราะคนจีนพูดอังกฤษไม่ได้เลย แม้แต่ร้านเดียว
*ทางกระผมดำเนินการ การวางแผนเส้นทาง (Path planning) ด้วยคู่เปรียบอีกตัว คือ Neural Radiance Fields เช่นเดียวกับรถอีกยี่ห้อที่บอกว่าจะใช้ เพราะมีแต่กล้อง ต้องสร้างภาพสามมิติจากสองมิติ
ผมพบว่า NeRF ไม่ได้เจ๋งเท่าไหร่
ดังนั้น ผมชอบคันมี USS/Radar/LiDAR ถ้าออกแบบสวย ๆ จอดลอยติดเกียร์ N ได้ส่วนตัวก็สนใจ โดยเฉพาะหลัง Solid-state แบตออกแพร่หลาย