เปิดลิสต์ 9 หุ้นเสี่ยงหนักหากกัมพูชาปิดชายแดน -ดึงแรงงานกลับอาจส่งออก “ทางเรือ” ทดแทน ⛴
สถานการณ์ระหว่างไทย กับ กัมพูชา เริ่มน่ากังวลมากขึ้น หลังกัมพูชา ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการขยับเวลาเปิด ปิด ชายแดนของไทย พร้อมข่มขูว่า หากไม่มีการเปิดชายแดน 24 ชม. กัมพูชาจะปิดชายแดนตลอดแนวทั้งหมด รวมถึงมีแนวคิด อาจดึงแรงงานกัมพูชา กลับไปยังประเทศ
ทั้งนี้ในมุมมองนักวิเคราะห์ ได้รวบรวม หุ้นที่อาจได้รับผลกระทบในด้านนี้ โดยเฉพาะในด้านการส่งออก โดยพบว่า อาจใช้ช่องทางเรือในการส่งสินค้า
️กลุ่มอาหาร - อัพเดทกัมพูชาจากผู้ประกอบการ ปัจจุบันยังค้าขายปกติ แต่ต้องบริหารจัดการเวลามากขึ้น ส่วนเรื่องแรงงาน ยังตามดูต่อไป เบื้องต้นน่าจะกระทบจำกัด
บล.ฟินันเซีย ไซรัส รายงานว่า จากความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา หลังรัฐบาลกัมพูชา ยกระดับลดระยะเวลาเปิด-ปิดด่านให้สั้นลง และเริ่มมีข่าวพูดถึงให้ต่อต้านสินค้าไทยและให้แรงงานกัมพูชากลับประเทศ
ทางบล.ได้สำรวจบรษัทที่มีรายได้จากกัมพูชา พบว่า มี 6 บริษัทได้แก่
🔴CBG มีสัดส่วนรายได้ 15%
🔴ICHI มีสัดส่วนรายได้ 5%
🔴CPF มีสัดส่วนรายได้ 3-4%
🔴BTG มีสัดส่วนรายได้ 3-4%
🔴NEO มีสัดส่วนรายได้ 2%
🔴HANA มีสัดส่วนรายได้ 1.4%
ทั้งนี้ จากการสอบถามวันนี้ (16 มิ.ย.) พบว่า ปัจจุบันยังสามารถส่งสินค้าได้ แต่ต้องบริหารจัดการด้านเวลา เพราะด่านปิดเร็วขึ้น และเริ่มมีอัดสต็อกมากขึ้นเผื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเตรียมช่องทางอื่นเผื่อไว้ด้วย (เช่น ทางเรือ)
ส่วนการซื้อขายสินค้าไทยในกัมพูชา ยังปกติ ไม่มีการต่อต้านใดๆระดับผู้บริโภค
สำหรับแรงงานกัมพูชาในไทย กลุ่มอาหารต้นน้ำ-กลางน้ำ มีการใช้แรงงานในโรงงานค่อนข้างมาก หากเทียบกับกลุ่มเกษตร (ต้นทุนหลักคือวัตถุดิบ) และอาหารปลายน้ำ และเครื่องดื่ม ที่ส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักร และต้นทุนหลักคือ พลังงานและบรรจุภัณฑ์
จากการสอบถามพบว่า
🔴GFPT มีสัดส่วนแรงงานกัมพูชา 20%
🔴CPF มีสัดส่วนแรงงานกัมพูชา 9%,
🔴TU/ITC มีสัดส่วนแรงงานกัมพูชาต่ำกว่า 1%
.
สำหรับ GFPT เป็นการจัดหาแรงงานผ่าน Agency ซึ่งระบุในสัญญาว่า หากแรงงานลาออกก่อนครบกำหนด ทาง Agency ต้องจัดหาแรงงานทดแทน และคาดว่ายังมีแรงงานพม่ารองรับได้ ปัจจุบัน GFPT ใช้แรงงานไทยราว 50% และอีก 30% เป็นพม่าและประเทศอื่น (ที่ไม่ใช่กัมพูชา)
เปิดลิสต์ 9 หุ้นเสี่ยงหนัก หากกัมพูชาปิดชายแดน -ดึงแรงงานกลับ อาจส่งออก “ทางเรือ” ทดแทน ⛴
สถานการณ์ระหว่างไทย กับ กัมพูชา เริ่มน่ากังวลมากขึ้น หลังกัมพูชา ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการขยับเวลาเปิด ปิด ชายแดนของไทย พร้อมข่มขูว่า หากไม่มีการเปิดชายแดน 24 ชม. กัมพูชาจะปิดชายแดนตลอดแนวทั้งหมด รวมถึงมีแนวคิด อาจดึงแรงงานกัมพูชา กลับไปยังประเทศ
ทั้งนี้ในมุมมองนักวิเคราะห์ ได้รวบรวม หุ้นที่อาจได้รับผลกระทบในด้านนี้ โดยเฉพาะในด้านการส่งออก โดยพบว่า อาจใช้ช่องทางเรือในการส่งสินค้า
️กลุ่มอาหาร - อัพเดทกัมพูชาจากผู้ประกอบการ ปัจจุบันยังค้าขายปกติ แต่ต้องบริหารจัดการเวลามากขึ้น ส่วนเรื่องแรงงาน ยังตามดูต่อไป เบื้องต้นน่าจะกระทบจำกัด
บล.ฟินันเซีย ไซรัส รายงานว่า จากความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา หลังรัฐบาลกัมพูชา ยกระดับลดระยะเวลาเปิด-ปิดด่านให้สั้นลง และเริ่มมีข่าวพูดถึงให้ต่อต้านสินค้าไทยและให้แรงงานกัมพูชากลับประเทศ
ทางบล.ได้สำรวจบรษัทที่มีรายได้จากกัมพูชา พบว่า มี 6 บริษัทได้แก่
🔴CBG มีสัดส่วนรายได้ 15%
🔴ICHI มีสัดส่วนรายได้ 5%
🔴CPF มีสัดส่วนรายได้ 3-4%
🔴BTG มีสัดส่วนรายได้ 3-4%
🔴NEO มีสัดส่วนรายได้ 2%
🔴HANA มีสัดส่วนรายได้ 1.4%
ทั้งนี้ จากการสอบถามวันนี้ (16 มิ.ย.) พบว่า ปัจจุบันยังสามารถส่งสินค้าได้ แต่ต้องบริหารจัดการด้านเวลา เพราะด่านปิดเร็วขึ้น และเริ่มมีอัดสต็อกมากขึ้นเผื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเตรียมช่องทางอื่นเผื่อไว้ด้วย (เช่น ทางเรือ)
ส่วนการซื้อขายสินค้าไทยในกัมพูชา ยังปกติ ไม่มีการต่อต้านใดๆระดับผู้บริโภค
สำหรับแรงงานกัมพูชาในไทย กลุ่มอาหารต้นน้ำ-กลางน้ำ มีการใช้แรงงานในโรงงานค่อนข้างมาก หากเทียบกับกลุ่มเกษตร (ต้นทุนหลักคือวัตถุดิบ) และอาหารปลายน้ำ และเครื่องดื่ม ที่ส่วนใหญ่ใช้เครื่องจักร และต้นทุนหลักคือ พลังงานและบรรจุภัณฑ์
จากการสอบถามพบว่า
🔴GFPT มีสัดส่วนแรงงานกัมพูชา 20%
🔴CPF มีสัดส่วนแรงงานกัมพูชา 9%,
🔴TU/ITC มีสัดส่วนแรงงานกัมพูชาต่ำกว่า 1%
.
สำหรับ GFPT เป็นการจัดหาแรงงานผ่าน Agency ซึ่งระบุในสัญญาว่า หากแรงงานลาออกก่อนครบกำหนด ทาง Agency ต้องจัดหาแรงงานทดแทน และคาดว่ายังมีแรงงานพม่ารองรับได้ ปัจจุบัน GFPT ใช้แรงงานไทยราว 50% และอีก 30% เป็นพม่าและประเทศอื่น (ที่ไม่ใช่กัมพูชา)