@@ เฟรนช์ฟรายส์ เ ผื อ ก ห อ ม ....เค็มๆ มันๆ เคี้ยวเพลินเลยครับ ^^ @@


สวัสดีครับ....ที่บ้านคุณอาของผม ปลูกเผือกหอมไว้เยอะเลย
เพิ่งเห็นว่า ต้นเผือกใหญ่โตขนาดนี้ เขาบอกว่าอีกซักเดือนสองเดือนก็ขุดกินได้
แต่แหม่...ไปถึงบ้านขนาดนี้ ก็อยากจะลองขุดมากินซักหัว แบบทำเป็นเผือกเส้นๆทอด แบบเฟรนช์ฟรายด์
แต่ก็ต้องมีอันพับโครงการ เพราะคุณย่าบอกว่าอย่าไปขุดสุ่มสี่สุ่มห้า มันจะคัน
กลัวคัน งั้นอดใจไว้ไม่กินก็ได้ 55+




ไม่ได้ขุดเผือกกิน งั้นก็ไปทำอย่างอื่น เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา อากาศร้อนอบอ้าวจริงๆ
ก็พากันไปตัวอำเภอ หาคาเฟ่ติดแอร์เย็นๆนั่งเล่น  พอกลับมาถึงบ้าน ในที่สุดสวรรค์ก็มีตา
มีถาดเฟรนช์ฟรายส์เผือกวางอยู่ มะรุมมะตุ้มคนละหยิบสองหยิบก็หมดเกลี้ยง 55+
เผือกหั่นเป็นเส้นๆ ลงทอดน้ำมันร้อนๆ ตักขึ้น สลัดๆให้สะเด็ดน้ำมัน
โรยเหลือ เค็มๆ มันๆ กรอบๆ อร่อยฟินสุดๆเลยครับ ^^



เสียดาย ไม่ได้เก็บภาพตอนขุดหัวเผือกและวิธีการทำมาลงให้ดูเลยครับ
แต่ก็ยังมีหัวเผือกสดๆมาให้ดูอยู่ครับ หัวใหญ่มากๆนี่ขนาดยังไม่แก่เต็มที่ ^^


เพี้ยนเผือกศึกษา
เ ผื อ ก เป็นพืชที่มีลำต้นใต้ดินสะสมอาหาร เรียกว่า หัว มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้,เอเชียใต้
บางพื้นที่รับประทานเป็นอาหารหลัก เช่นหมู่เกาะต่างๆในมหาสมุทรแปซิฟิก ปาปัวนิวกีนี และชนเผ่าตามเกาะต่างๆในอินโดนีเซีย
สำหรับประเทศไทยนิยมนำมาทำเป็นของหวาน เช่นบวดเผือก เผือกกวน เผือดทอด หรือใส่ในอาหารคาวบางชนิด

ประโยชน์ของเผือก
หัวเผือก ประกอบไปด้วยสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) ช่วยลดความเสียงในการเกิดมะเร็ง
เผือกเป็นอาหารที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง ทำให้อิ่ม ไม่หิวบ่อย เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล
ไฟเบอร์ วิตามิน เกลือแร่ต่างๆมากมาย
แป้งจากหัวเผือก เป๋นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ทำให้กระบวนการเปลี่ยนจากแป้งเป็นน้ำตาล ช้ากว่า อาหารจำพวกแป้งขัดขาว
ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่องยาวนาน และระดับน้ำตาลในเลือดจะคงที่สม่ำเสมอ ป้องกันระดับน้ำตาลสูงหลังมื้ออาหร
เผือก ยังมีธาตุเหล็กและฟลูออไรด์สูง ช่วยป้องกันฟันผุและทำให้กระดูกแข็งแรง
มีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย และยังมีแป้งต้านทานการย่อย(Resistant Starch) ที่อาจลดคอเลสเตอรอล
และความเสี่ยงโรคหัวใจได้
มีวิตามินอีสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง

🚩แต่อย่างไรก็ตาม เผือก เป็นพืชที่ให้พลังงานสูง บางคนเลือกรับประทานแทนข้าว เพื่อลดน้ำหนักและช่วยในเรื่องการขับถ่าย
แต่ถ้ารับประทานมากเกินไปก็อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้

**ข้อควรระวังในการกิน**
ทั้งต้นเผือกและหัวเผือก มีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate)
ซึ่งทำให้เกิดอาการคัน ไม่ควรรับประทานแบบดิบ ควรทำให้สุกก็รับประทาน
แต่บางคนก็อาจมีอาการแพ้ ถึงแม้ว่าจะกินเผือกที่สุกแล้วก็ตาม โดยอาการที่พบคือ คันในช่องปาก ลิ้นชา
แสบร้อนในช่องปาก กระพุ้งแก้ม ลิ้น และทางเดินอาหาร หากใครมีอาการแบบนี้หลังรับประทานเผือกปรุงสุก
ก็ไม่ควรรับประทานต่อครับ

**ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก hdmall.co.th **




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ ^^
เพี้ยนเผือกศึกษา

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่