“มะเร็งปอด” รู้เร็ว รักษาได้ อย่ามองข้ามอาการเล็กๆ น้อยๆ
หลายคนอาจไม่รู้ว่า
“มะเร็งปอด” เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบได้บ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และส่วนใหญ่กว่าจะรู้ตัวก็มักอยู่ในระยะที่ลุกลามแล้ว ซึ่งทำให้โอกาสในการรักษาให้หายน้อยลงมาก แต่ถ้าตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกยังมีทางรักษาให้หายได้!
มะเร็งปอดเกิดจากเซลล์ในปอดเจริญเติบโตผิดปกติจนควบคุมไม่ได้และกลายเป็นก้อนเนื้อร้าย ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ แม้ยังไม่มีข้อสรุปตายตัวถึงสาเหตุของโรคนี้ แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่เกี่ยวข้องและควรระวัง! ได้แก่
การสูบบุหรี่ : เป็นตัวการอันดับหนึ่งถึง 80-90% ทั้งผู้สูบเองและคนรอบข้างที่ได้รับ
“ควันบุหรี่มือสอง” เสี่ยงมากถึง 8-20 เท่า หากสูบวันละ 1 ซองเป็นเวลา 20 ปี
มลพิษทางสิ่งแวดล้อม
* แร่ใยหิน (Asbestos) : พบบ่อยในโรงงานอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เช่น กระเบื้อง หลังคา ฝ้า คนที่ทำงานในโรงงานที่ใช้แร่ใยหิน มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนทั่วไปถึง 7 เท่า
* ก๊าซเรดอน (Radon) : เป็นสารกัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนในดินหรืออาคารใต้สิ่งปลูกสร้าง
* สารเคมีและฝุ่นพิษจากโรงงาน หรือควันรถ เช่น สารหนู, ถ่านหิน ฯลฯ
* ฝุ่น PM 2.5 ฝุ่นขนาดจิ๋วที่มองไม่เห็น แต่แทรกเข้าปอดได้ง่าย เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดได้ถึง 1–1.4 เท่า
อายุ : ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะถ้าเคยสูบบุหรี่
พันธุกรรม : ถ้ามีคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งปอด โอกาสเป็นก็จะสูงขึ้นตาม
สัญญาณเตือน “มะเร็งปอด” อาการอาจหลอกให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่น เพราะคล้ายกันมาก แต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ต่อเนื่อง ควรรีบพบแพทย์
· ไอเรื้อรัง
· ไอมีเสมหะปนเลือด หรือไอเป็นเลือดสด
· เหนื่อยง่าย หายใจไม่เต็มปอด
· เจ็บหน้าอก
· น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
· หายใจมีเสียงผิดปกติ หรือเสียงแหบ
อาการเหล่านี้อาจคล้ายกับโรคอื่นๆ แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยหรือเรื้อรัง แนะนำให้รีบพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด คือการสูบบุหรี่ รวมถึงการสัมผัสกับสารพิษและมลภาวะที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นควันบุหรี่มือสอง ฝุ่นพิษ หรือสารเคมีจากสิ่งแวดล้อม ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การงดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ และใส่ใจสุขภาพปอดของตัวเองด้วยการตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบ Low-dose CT Scan จะช่วยให้ตรวจพบมะเร็งปอดได้ตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งมีโอกาสรักษาให้หายและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้อย่างมาก
การใส่ใจดูแลสุขภาพตรวจร่างกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรคร้ายนี้ได้ ใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอย่าลืมหาเวลาไปตรวจสุขภาพกันด้วยนะคะ
โรคมะเร็งปอด (Lung cancer) รู้ตั้งแต่ระยะแรกช่วยลดโอกาสเสี่ยง อ่านข้อมูลเพิ่มเติม >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1710
ฝุ่น PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด อ่านข้อมูลเพิ่มเติม >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/2412
“มะเร็งปอด” รู้เร็ว รักษาได้ อย่ามองข้ามอาการเล็กๆ น้อยๆ
“มะเร็งปอด” รู้เร็ว รักษาได้ อย่ามองข้ามอาการเล็กๆ น้อยๆ
หลายคนอาจไม่รู้ว่า “มะเร็งปอด” เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบได้บ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และส่วนใหญ่กว่าจะรู้ตัวก็มักอยู่ในระยะที่ลุกลามแล้ว ซึ่งทำให้โอกาสในการรักษาให้หายน้อยลงมาก แต่ถ้าตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกยังมีทางรักษาให้หายได้!
มะเร็งปอดเกิดจากเซลล์ในปอดเจริญเติบโตผิดปกติจนควบคุมไม่ได้และกลายเป็นก้อนเนื้อร้าย ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ แม้ยังไม่มีข้อสรุปตายตัวถึงสาเหตุของโรคนี้ แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่เกี่ยวข้องและควรระวัง! ได้แก่
การสูบบุหรี่ : เป็นตัวการอันดับหนึ่งถึง 80-90% ทั้งผู้สูบเองและคนรอบข้างที่ได้รับ “ควันบุหรี่มือสอง” เสี่ยงมากถึง 8-20 เท่า หากสูบวันละ 1 ซองเป็นเวลา 20 ปี
มลพิษทางสิ่งแวดล้อม
* แร่ใยหิน (Asbestos) : พบบ่อยในโรงงานอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เช่น กระเบื้อง หลังคา ฝ้า คนที่ทำงานในโรงงานที่ใช้แร่ใยหิน มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนทั่วไปถึง 7 เท่า
* ก๊าซเรดอน (Radon) : เป็นสารกัมมันตรังสีที่ปนเปื้อนในดินหรืออาคารใต้สิ่งปลูกสร้าง
* สารเคมีและฝุ่นพิษจากโรงงาน หรือควันรถ เช่น สารหนู, ถ่านหิน ฯลฯ
* ฝุ่น PM 2.5 ฝุ่นขนาดจิ๋วที่มองไม่เห็น แต่แทรกเข้าปอดได้ง่าย เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดได้ถึง 1–1.4 เท่า
อายุ : ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะถ้าเคยสูบบุหรี่
พันธุกรรม : ถ้ามีคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งปอด โอกาสเป็นก็จะสูงขึ้นตาม
สัญญาณเตือน “มะเร็งปอด” อาการอาจหลอกให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่น เพราะคล้ายกันมาก แต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ต่อเนื่อง ควรรีบพบแพทย์
· ไอเรื้อรัง
· ไอมีเสมหะปนเลือด หรือไอเป็นเลือดสด
· เหนื่อยง่าย หายใจไม่เต็มปอด
· เจ็บหน้าอก
· น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
· หายใจมีเสียงผิดปกติ หรือเสียงแหบ
อาการเหล่านี้อาจคล้ายกับโรคอื่นๆ แต่ถ้าเกิดขึ้นบ่อยหรือเรื้อรัง แนะนำให้รีบพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด คือการสูบบุหรี่ รวมถึงการสัมผัสกับสารพิษและมลภาวะที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นควันบุหรี่มือสอง ฝุ่นพิษ หรือสารเคมีจากสิ่งแวดล้อม ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การงดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ และใส่ใจสุขภาพปอดของตัวเองด้วยการตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบ Low-dose CT Scan จะช่วยให้ตรวจพบมะเร็งปอดได้ตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งมีโอกาสรักษาให้หายและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้อย่างมาก
การใส่ใจดูแลสุขภาพตรวจร่างกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรคร้ายนี้ได้ ใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอย่าลืมหาเวลาไปตรวจสุขภาพกันด้วยนะคะ
โรคมะเร็งปอด (Lung cancer) รู้ตั้งแต่ระยะแรกช่วยลดโอกาสเสี่ยง อ่านข้อมูลเพิ่มเติม >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1710
ฝุ่น PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด อ่านข้อมูลเพิ่มเติม >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/2412