คิดว่า จริงมั้ย ที่...
เด็กจบใหม่ หางานทำยาก ไม่ได้แข่งกับคน แต่ต้องแข่งกับเทคโนโลยีด้วย และ รุ่นพี่ๆ Gen Y, Gen X ที่เติมทักษะด้าน AI สามารถทำงานในส่วนของเด็กจบใหม่ได้ด้วยเทคโนโลยี ทั้งยังมีประสบการณ์การทำงานจริงมานานกว่า นำเทคโนโลยีสร้างผลผลิตให้นายจ้างได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
นายจ้าง จะจ้างเด็กจบใหม่ ในอดีก็เพื่อหาความสดใหม่ ความทันสมัยและที่สำคัญ ลดต้นทุนโดยได้ผลผลิตเท่าเดิม เพราะ ลูกจ้างยิ่งแก่ยิ่งเปลืองเงิน หากได้เด็กจบใหม่ที่ทำได้เท่ากันแต่ค่าแรงถูกกว่า ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก
ทว่าทุกวันนี้ เด็กจบใหม่ เข้าทำงานกับความกดดันของกระแสเศรษฐกิจโลกที่ฝืดเคือง เจอความกดดันของโลกความจริงที่ไม่เหมือนกับโลกโซเชียล เจอสังคมที่ทำงานที่มีคนหลากหลาย สนใจหลากหลาย นิสัย ความคิดหลากหลาย ต้องปรับตัวเข้าหาซึ่งใช้พลังงานสูงมากสำหรับเด็กจบใหม่ยุคนี้หลายคนที่ชีวิตเจอความหลากหลายน้อย เพราะ ดซเชียลก็นำพาแต่เรือ่งเดิมๆ สังคมเดิมๆวนมามอบให้ เพื่อนที่เห็น ที่พบ ก็เดิมๆ สื่อที่ดูก็เดิมๆ แบบเดิมๆ ไม่ชอบอันไหนก็ไม่ดู
กดดันทั้งงานทั้งสถานที่แบบนี้
ยังจะเจอกับรุ่นพี่ หัวหน้า ที่ถ้าเจอกระดูกแข็งๆ บางคนใช้เทคโนโลยีไม่ได้ด้อยไปกว่าเด็กแล้ว ยิ่งพวก Gen Y บางคนต้องสอนน้องใช้ด้วยซ้ำ ว่าจะใช้ยังไงให้ได้งานของนายจ้างดีที่สุด แล้วแบบนี้ ถ้าเด็ก Gen Z ไม่แข็งจริงๆ ทั้งจิตใจและความสามารถ ก็ยากที่จะมีคนจ้างงาน
งานหลายอย่างก็ถูกถอดออกมาเป็นงานจ้างอิสระ โดยคนทำงานนั้นก็พวก Gen Y หรือ Gen X ที่ตั้งบริษัทรับจ้างเฉพาะทางไปเลย
Gen Z ที่เก่ง ได้รับการอบรมดูแลมาดี เป็นที่รักของพี่ๆและนายจ้าง หางานทำได้ไม่ยากคือ กลุ่มหัวกะทิ พ่อแม่สอนมาให้มีวินัย อดทน มานะพยายาม และ ฝืนความสุขนิยมของตนเองให้พบกับสิ่งที่ไม่ชอบ ให้รอได้อย่างใจเย็น ในขณะที่ Gen Z หลายคนที่สุขนิยมจัดๆ เรียนมาให้จบ จบมาหางานทำ เรียนให้มันจบๆจะได้หางานทำแล้วมีอิสระ พบว่า จบมา สิ่งที่สอนในหลักสูตรมหาลัย ไม่สามารถเอาไปใช้งานจริงได้ บางคนใช้เทคโนโลยีได้ คือใช้ AI ทำงานแทนตัวเองได้ เพราะชีวิตเรียนมา ก็คัดลอกวิกิทำรายงานมาตลอด พอมี GPT ก็สั่งให้มันทำการบ้านให้ทั้งดุ้น
นายจ้างเห็นแบบนั้น ยิ้มอ่อน
งั้นไม่จ้างน้องแต่ใช้ GPT เลยถูกกว่าเยอะ
สุดท้าย เด็ก Gen Z ที่เป็นที่รักของนายจ้าง คือ พวกที่เรียนรู้ไว ใช้งานได้ฉลาดแบบที่พี่ๆใช้ได้ แต่ไวกว่า เร็วกว่า อัพเดทได้ง่ายและรวดเร็ว มีศักยภาพที่จะขึ้นมาแทนพี่ๆได้ในเวลาอันใกล้ อดทนกับความกดดันและค่าตอบแทนที่น้อยได้ เพื่อโตในอนาคต เพื่อเอาสิ่งที่ตนมี มาผนวกใช้กับงานเกิดต่อยอดในสิ่งที่พี่ๆสองเจ็นทำไม่ได้
วันนึง X ก็จะไปก่อน พวกนี้ถึกทนอยู่ในกรอบ
Y จะขึ้นมาคุมทิศทางแต่พวกนี้อาจไม่รอบคอบไม่ถี่ถ้วน
Z ที่ดีมีคุณภาพคืออนาคต เพราะ สามารถใช้เครือ่งมือ คิดทบทวนปรับแก้ไข สร้างทางเลือกที่เหมาะที่สุดแบบที่ X เคยนั่งทำได้ในเวลาสั้นมาก ป้อนให้กับพี่ๆ Y ที่ตัดสินใจเร็ว พลิกแพลงเก่ง
แต่ถ้า
Z ที่ไม่อดทน ก็ไปไม่ถึงวันนั้น ทำงานไปไม่รวย ออกมาเทรด ออกมาทำของตัวเอง วันนี้ได้เงินเยอะกว่าเพื่อน แต่ลืมคิดถึงวันหน้า ลืมความมั่นคง
Z ที่เน้นง่าย ไว แต่ไม่ลึก ก็โตไม่ได้ เป็นเหมือนมือกับเท้าไปตลอด สุดท้ายก็โดนเอาออกเมื่อ AI มันแทนที่ได้
ปิดท้าย คิดว่า สิ่งนี้หลายคนน่าจะสัมผัสมาบ้างแล้ว
ถ้าให้เสียเวลาสอนเด็กจบใหม่ เอาเวลาไปเทรน AI แล้วได้งานตรงใจกว่าเยอะ
Gen Z จบใหม่ หางานทำไม่ง่าย จริงมั้ย
เด็กจบใหม่ หางานทำยาก ไม่ได้แข่งกับคน แต่ต้องแข่งกับเทคโนโลยีด้วย และ รุ่นพี่ๆ Gen Y, Gen X ที่เติมทักษะด้าน AI สามารถทำงานในส่วนของเด็กจบใหม่ได้ด้วยเทคโนโลยี ทั้งยังมีประสบการณ์การทำงานจริงมานานกว่า นำเทคโนโลยีสร้างผลผลิตให้นายจ้างได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
นายจ้าง จะจ้างเด็กจบใหม่ ในอดีก็เพื่อหาความสดใหม่ ความทันสมัยและที่สำคัญ ลดต้นทุนโดยได้ผลผลิตเท่าเดิม เพราะ ลูกจ้างยิ่งแก่ยิ่งเปลืองเงิน หากได้เด็กจบใหม่ที่ทำได้เท่ากันแต่ค่าแรงถูกกว่า ก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก
ทว่าทุกวันนี้ เด็กจบใหม่ เข้าทำงานกับความกดดันของกระแสเศรษฐกิจโลกที่ฝืดเคือง เจอความกดดันของโลกความจริงที่ไม่เหมือนกับโลกโซเชียล เจอสังคมที่ทำงานที่มีคนหลากหลาย สนใจหลากหลาย นิสัย ความคิดหลากหลาย ต้องปรับตัวเข้าหาซึ่งใช้พลังงานสูงมากสำหรับเด็กจบใหม่ยุคนี้หลายคนที่ชีวิตเจอความหลากหลายน้อย เพราะ ดซเชียลก็นำพาแต่เรือ่งเดิมๆ สังคมเดิมๆวนมามอบให้ เพื่อนที่เห็น ที่พบ ก็เดิมๆ สื่อที่ดูก็เดิมๆ แบบเดิมๆ ไม่ชอบอันไหนก็ไม่ดู
กดดันทั้งงานทั้งสถานที่แบบนี้
ยังจะเจอกับรุ่นพี่ หัวหน้า ที่ถ้าเจอกระดูกแข็งๆ บางคนใช้เทคโนโลยีไม่ได้ด้อยไปกว่าเด็กแล้ว ยิ่งพวก Gen Y บางคนต้องสอนน้องใช้ด้วยซ้ำ ว่าจะใช้ยังไงให้ได้งานของนายจ้างดีที่สุด แล้วแบบนี้ ถ้าเด็ก Gen Z ไม่แข็งจริงๆ ทั้งจิตใจและความสามารถ ก็ยากที่จะมีคนจ้างงาน
งานหลายอย่างก็ถูกถอดออกมาเป็นงานจ้างอิสระ โดยคนทำงานนั้นก็พวก Gen Y หรือ Gen X ที่ตั้งบริษัทรับจ้างเฉพาะทางไปเลย
Gen Z ที่เก่ง ได้รับการอบรมดูแลมาดี เป็นที่รักของพี่ๆและนายจ้าง หางานทำได้ไม่ยากคือ กลุ่มหัวกะทิ พ่อแม่สอนมาให้มีวินัย อดทน มานะพยายาม และ ฝืนความสุขนิยมของตนเองให้พบกับสิ่งที่ไม่ชอบ ให้รอได้อย่างใจเย็น ในขณะที่ Gen Z หลายคนที่สุขนิยมจัดๆ เรียนมาให้จบ จบมาหางานทำ เรียนให้มันจบๆจะได้หางานทำแล้วมีอิสระ พบว่า จบมา สิ่งที่สอนในหลักสูตรมหาลัย ไม่สามารถเอาไปใช้งานจริงได้ บางคนใช้เทคโนโลยีได้ คือใช้ AI ทำงานแทนตัวเองได้ เพราะชีวิตเรียนมา ก็คัดลอกวิกิทำรายงานมาตลอด พอมี GPT ก็สั่งให้มันทำการบ้านให้ทั้งดุ้น
นายจ้างเห็นแบบนั้น ยิ้มอ่อน
งั้นไม่จ้างน้องแต่ใช้ GPT เลยถูกกว่าเยอะ
สุดท้าย เด็ก Gen Z ที่เป็นที่รักของนายจ้าง คือ พวกที่เรียนรู้ไว ใช้งานได้ฉลาดแบบที่พี่ๆใช้ได้ แต่ไวกว่า เร็วกว่า อัพเดทได้ง่ายและรวดเร็ว มีศักยภาพที่จะขึ้นมาแทนพี่ๆได้ในเวลาอันใกล้ อดทนกับความกดดันและค่าตอบแทนที่น้อยได้ เพื่อโตในอนาคต เพื่อเอาสิ่งที่ตนมี มาผนวกใช้กับงานเกิดต่อยอดในสิ่งที่พี่ๆสองเจ็นทำไม่ได้
วันนึง X ก็จะไปก่อน พวกนี้ถึกทนอยู่ในกรอบ
Y จะขึ้นมาคุมทิศทางแต่พวกนี้อาจไม่รอบคอบไม่ถี่ถ้วน
Z ที่ดีมีคุณภาพคืออนาคต เพราะ สามารถใช้เครือ่งมือ คิดทบทวนปรับแก้ไข สร้างทางเลือกที่เหมาะที่สุดแบบที่ X เคยนั่งทำได้ในเวลาสั้นมาก ป้อนให้กับพี่ๆ Y ที่ตัดสินใจเร็ว พลิกแพลงเก่ง
แต่ถ้า
Z ที่ไม่อดทน ก็ไปไม่ถึงวันนั้น ทำงานไปไม่รวย ออกมาเทรด ออกมาทำของตัวเอง วันนี้ได้เงินเยอะกว่าเพื่อน แต่ลืมคิดถึงวันหน้า ลืมความมั่นคง
Z ที่เน้นง่าย ไว แต่ไม่ลึก ก็โตไม่ได้ เป็นเหมือนมือกับเท้าไปตลอด สุดท้ายก็โดนเอาออกเมื่อ AI มันแทนที่ได้
ปิดท้าย คิดว่า สิ่งนี้หลายคนน่าจะสัมผัสมาบ้างแล้ว
ถ้าให้เสียเวลาสอนเด็กจบใหม่ เอาเวลาไปเทรน AI แล้วได้งานตรงใจกว่าเยอะ