แชร์ประสบการณ์ตรง รอเปลี่ยนไตครั้งแรกไม่นาน ฟอกไตทั้งชีวิตนานยิ่งกว่า

สวัสดีครับ ผมชื่อสมนึก ปีนี้อายุ 60 ปีแล้ว ปกติไม่เคยอ่านกระทู้ในพันทิปเลย แต่วันนี้อยากมาแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเอง เป็นครั้งแรกที่มาเขียนรีวิวแบบนี้ เผื่อจะเป็นกำลังใจให้ใครที่กำลังเผชิญกับ โรคไต และต้อง ฟอกไต แบบผม เพราะผมละเลยตัวเองจนร่างกายเข้าสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้าย

เส้นทางสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้าย
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมเป็นคน ทำงานหนักมาก ไม่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ คิดแค่ว่า "ร่างกายแข็งแรงดี" เลยใช้ชีวิตเต็มที่ กินอะไรก็ได้ที่อยากกิน ไม่ว่าจะเป็นอาหารรสจัด ของมัน ของทอด น้ำอัดลม ตามใจปากทุกอย่าง นอนดึกเกือบทุกคืน และตื่นเช้าไปทำงานต่อ ใช้ร่างกายหนักแทบไม่มีเวลาพักผ่อน จนกลายเป็นความเคยชินที่คิดว่าไม่มีผลอะไร

แต่พออายุเริ่มเข้าเลข 50 ร่างกายก็เริ่มส่งสัญญาณเตือน ผม เหนื่อยง่ายขึ้น เวียนหัวบ่อย มีอาการหน้าบวม ขาบวม แต่ก็ยังไม่สนใจ คิดว่าแค่พักผ่อนน้อย เดี๋ยวก็คงดีขึ้นเอง จนกระทั่งวันหนึ่งอาการหนักขึ้น รู้สึกอ่อนแรงจนต้องลางาน เมื่อไปพบหมอ ก็มีการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ผลสรุปออกมาว่า... "ผมเป็นไตวายระยะสุดท้าย"

ตอนนั้นเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ ผมนั่งฟังหมออธิบายแต่หูแทบไม่ได้ยินอะไรเลย มันตื้อไปหมด หัวใจเต้นแรง มือเย็นเฉียบ สิ่งเดียวที่คิดคือ "ทำไมต้องเป็นเรา?" คำว่า "ต้องฟอกไตไปตลอดชีวิต" ทำให้ความหวังในการใช้ชีวิตหายไปหมด ผมรู้สึกเหมือนหมดหนทาง ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ต้องทำยังไง

ความทรงจำอันแสนทรมานกับการฟอกไต
หมอบอกว่า ผมต้อง ฟอกไตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 4 ชั่วโมง รวมเวลาเดินทางไปกลับก็เกือบ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน มันไม่ใช่แค่เหนื่อยกาย แต่ เหนื่อยใจมาก เพราะวันๆ หมดไปกับการฟอกไต กินอาหารก็ต้องระวัง ดื่มน้ำมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวน้ำท่วมปอด มันทำให้ผมรู้สึก ท้อแท้มาก ตอนนั้นน้ำหนักหายไปเยอะมาก ร่างกายโทรมจนคนรอบตัว เพื่อนๆ จำผมแทบไม่ได้เพราะร่างกายที่ซูบลงไป ทั้งจากโรคไตและความเครียด

พอผมฟอกไตไปสักระยะ ผมก็เริ่มอ่อนล้ากับชีวิตแบบนี้มาก จนผมถามหมอว่า "มีทางไหนที่จะไม่ต้องฟอกไตไปตลอดชีวิตไหม?" คำตอบที่ได้จากหมอคือ "ต้องปลูกถ่ายไต" ตอนแรกฟังดูน่ากลัว เราต้องผ่าตัดเปลี่ยนไตใหม่ใช่ไหม แล้วไหนจะต้องรอไตอีก คิดว่าต้องนานแน่ๆ เพราะเคยได้ยินมาว่าการรอไตจากผู้บริจาคใช้เวลานานมาก แต่หมอก็อธิบายต่อว่า ถ้าได้ไตมา ปลูกถ่ายไต และถ้าผ่าตัดเปลี่ยนไต ไตทำงานได้ดีและดูแลตัวเองดีๆ โอกาสกลับไปใช้ชีวิต
ปกติมีสูงกว่าการฟอกไตไปตลอดชีวิต

ลูกๆ ผมเลยตั้งใจบริจาคไตให้ผม แต่ผมไม่กล้ารับ เพราะกลัวว่าพวกเขามีไตข้างเดียว อาจจะมีปัญหาสุขภาพในอนาคต ผมจึงเลือกลงทะเบียน รอไตจากผู้บริจาค แทน ถึงตอนนี้ผมก็ยังรู้สึกขอบคุณลูกผมทุกคนที่รักพ่อคนนี้จนอยากยกไตให้ แต่ผมทนเห็นลูกๆ มีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ไม่ได้จริงๆ

การรอคอยรับไตบริจาค แม้ต้องอดทนแต่ก็ยินดีที่จะทำ
ช่วงเวลารอคอยถือเป็นบททดสอบจิตใจ เพราะผมต้องฟอกไตต่อไป และยังต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม หากมีไตที่เข้ากันได้มาเมื่อไหร่ ผมต้องผ่าตัดทันที จนวันหนึ่ง ผมได้รับ ข่าวดี จากโรงพยาบาลย่านลาดพร้าว 111 ที่เข้าร่วมโครงการปลูกถ่ายไตกับสภากาชาดไทย ช่วงเวลาที่ได้รับแจ้งว่า "ผมได้ไตแล้ว" ผมดีใจมากแบบบอกไม่ถูก ในที่สุดผมก็ไม่ต้องฟอกไตอีกต่อไปแล้ว ผมโชคดีมากที่ได้รับไตที่เข้ากันได้

ชีวิตใหม่หลังเปลี่ยนไต ความสุขกลับมาอีกครั้ง เข้าใจคุณค่าของชีวิตมากขึ้น
หลังการผ่าตัด ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และผมต้อง ดูแลสุขภาพให้มากขึ้น แบ่งเวลาออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหาร กินน้ำดีขึ้น ทำให้น้ำหนักตัวกลับไปเหมือนเดิมก่อนที่จะเป็นโรคไต (แต่ยังต้องคุมอาหารบางอย่างตามที่หมอแนะนำ) ที่สำคัญที่สุดคือ ผม มีเวลากับครอบครัวมากขึ้น ไปไหนมาไหนสะดวกขึ้น เพราะผมไม่ต้องฟอกไตแล้ว ได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ

ผมอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเผชิญกับโรคไต อย่าหมดหวัง ลองปรึกษาหมอถึงแนวทางการรักษาที่เหมาะสม สำหรับผมโรงพยาบาลนี้เป็นสถานที่ที่ช่วยให้ชีวิตกลับมามีความหวังอีกครั้ง ขอบคุณทุกท่านที่ดูแลตั้งแต่ก่อนผ่าตัดจนถึงตอนนี้ และที่สำคัญ ขอบคุณผู้บริจาคไต นะครับ
ขอส่งกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังต่อสู้กับโรคไตครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่