JJNY : รับทราบข้อหา ประณามรบ.อิ๊งค์│สว.อังคณาข้องใจป.ป.ส.│น้ำป่าดอยอินทนนท์หลากท่วม│ลั่น“ไม่จำกัดพิสัยยิง”ส่งให้ยูเครน

พีมูฟ-แรงงานยานภัณฑ์-ทะลุฟ้า รับทราบข้อหา ประณามรบ.อิ๊งค์ ไม่ไยดีปัญหาคนจน ใช้กม.ปิดปาก
https://www.matichon.co.th/politics/news_5201692
.
.
พีมูฟ-แรงงานยานภัณฑ์-ทะลุฟ้า รายงานตัวคดี พ.ร.บ.ชุมนุม สน.ดุสิต ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แถลงประณามรัฐบาล ‘แพทองธาร’ ใช้กฎหมายปิดปากประชาชน
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ), กลุ่มแรงงานยานภัณฑ์ และทะลุฟ้า รวม 15 คน เข้ารายงานตัวและรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ดุสิต กรุงเทพมหานคร ทั้งสิ้น 5 คดี วานนี้ (26 พฤษภาคม) ซึ่งทั้งหมดคดีจากการชุมนุมพีมูฟทวงสิทธิช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2567 และการชุมนุมสมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่าและสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2568
.
โดยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 15 คน ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมแถลงการณ์ประณามรัฐบาล “แพทองธาร” บังคับใช้กฎหมายปิดปากประชาชน และยืนยันว่าการเคลื่อนไหวชุมนุมของประชาชนไม่ควรถูกยัดเยียดข้อหาประหนึ่งเป็นอาชญากร

ขณะที่เครือข่ายภาคประชาชน ทั้งจากขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม และเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มผู้เข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหา มอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมร่วมกันแถลงการณ์ประณามรัฐบาล “แพทองธาร” บังคับใช้กฎหมายปิดปากประชาชน โดยมีเนื้อหาในแถลงการณ์ดังนี้
.
สืบเนื่องจากการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อกลุ่มผู้ชุมนุมผู้ต่อสู้เรื่องสิทธิในที่ดิน สิทธิแรงงาน รัฐสวัสดิการ และประชาธิปไตย รวม 15 คน จากการเคลื่อนไหวชุมนุมในช่วงเดือนตุลาคม 2567 และเดือนเมษายน 2568 โดยอ้างความผิดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ทำให้วันนี้พวกเราได้นัดหมายกันมารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจนครบาลดุสิตในวันนี้
.
เราจะเข้าไปรายงานตัว และยืนยันว่าเราคือผู้บริสุทธิ์ การชุมนุมเคลื่อนไหวของเราเป็นสิทธิเสรีภาพอันพึงมีที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญและหลักสิทธิมนุษยชนสากล เราชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลอันเป็นศูนย์กลางอำนาจเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ให้สมกับที่เป็นรัฐบาลที่อ้างตัวว่ามาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ท่านควรจะรับฟังเสียงแห่งความทุกข์ร้อนของพวกเราและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังเพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนอันแสนสาหัส ให้เหมือนกับที่หาเสียงกับประชาชนไว้ในช่วงการเลือกตั้ง

และที่สำคัญเรามาที่นี่เพื่อประจานความล้มเหลวของรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ แพทองธาร ชินวัตร รัฐบาลไม่เคยสนใจไยดีที่แก้จะปัญหาของพี่น้องคนยากคนจน ไม่เคยรับฟังเสียงของพวกเรา เห็นได้จากการที่เรายังต้องออกมาชุมนุมเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่รัฐบาลก็ปล่อยให้ตำรวจสามารถประกาศพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลให้เป็นพื้นที่ห้ามชุมนุมได้โดยไม่คัดค้าน แล้วยังปล่อยปละละเลยจนพวกเราต้องถูกดำเนินคดี
นี่หรือคือรัฐบาลเลือกตั้ง หรือท่านเป็นเพียงรัฐบาลหุ่นเชิดให้ฝ่ายเผด็จการและอนุรักษนิยมชักใยอยู่เบื้องหลัง ฉุดรั้งการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยของสังคมไทยกันแน่ พี่น้องคนยากคนจนทั้งหลายจนดูไว้เถิด ว่านี่คือชะตากรรมของพวกเราภายใต้การนำของรัฐบาลชุดนี้ เขาไม่เคยเห็นหัวเรา ไม่เคยคิดอยากจะพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราให้ได้ลืมตาอ้าปาก มีเกรียรติ มีศักดิ์ศรี แบบที่เขาหลอกลวงเราตอนหาเสียง
.
เราขอเรียกร้องต่อรัฐบาลแพทองธารอีกครั้ง จงหยุดการบังคับใช้กฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพและปิดปากประชาชน สิ่งที่ท่านต้องทำขณะนี้คือการเดินหน้ายกเลิกคดีความอันไม่เป็นธรรมทั้งปวงที่หน่วยงานรัฐและเอกชนกระทำต่อพี่น้องประชาชน เมื่อไม่มีปัญญาแก้ไขปัญหาก็อย่าได้ซ้ำเติมปัญหา จงแสดงความกล้าหาญในการปกป้องพี่น้องประชาชนของท่านให้พ้นจากความทุกข์ทนและหลุดพ้นจากการคุกคามเช่นนี้เสียที
.
เราไม่เกรงกลัว และจะเข้าไปรายงานตัวเพื่อปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เราขอยืนหยัดเชื่อมั่นว่าการเคลื่อนไหวเรียกร้องของเราไม่ควรถูกยัดเยียดข้อหาประหนึ่งเป็นอาชญากร และขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนว่า หากการมีกฎหมายชุมนุมเป็นอุปสรรคต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ทำให้เราไม่สามารถติดตามการแก้ไขปัญหาหรือวิพากษ์วิจารณ์การทำงานอันล้มเหลวของรัฐบาลได้ เราจะยืนยันต่อสู้โดยการเดินหน้าประสานเชื่อมโยงเครือข่ายภาคประชาชนทั่วประเทศเพื่อรณรงค์ขับเคลื่อนให้ยกเลิก พ.ร.บ.ชุมนุม อย่างถึงที่สุด
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระบวนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินไปอย่างล่าช้า เนื่องจากขั้นตอนการพิมพ์ลายนิ้วมือก่อนลงบันทึกประจำวันมีข้อติดขัดทางเครื่องมือของ สน.ดุสิต แต่เครือข่ายประชาชนผู้มาร่วมให้กำลังใจยังคงปักหลักรอบริเวณด้านหน้า สน.ตลอดทั้งวัน โดยผลัดกันขึ้นปราศรัยสะท้อนประเด็นปัญหาของแต่ละเครือข่าย พร้อมให้กำลังใจประชาชนผู้ร่วมต่อสู้
.
เบื้องต้นผู้รับทราบข้อกล่าวหาได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอไม่ให้การเพิ่มเติม โดยมีทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ให้ความช่วยเหลือทางคดีตลอดกระบวนการ ซึ่งกระบวนการต่อไปเจ้าหน้าที่สอบสวน สน.ดุสิต ได้นัดหมายให้ไปรายงานตัว ณ สำนักงานอัยการแขวงดุสิต 3 ตลิ่งชัน วันที่ 17-18 มิ.ย.2568 นี้
.

.
สว. อังคณาข้องใจ ป.ป.ส. ยกทักษิณสำเร็จปราบยาเสพติด จับตาคดีชั้น 14 ทำการเมืองกระเพื่อม
.
วันนี้ (27 พฤษภาคม) ที่อาคารรัฐสภา อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงคดีชั้น 14 ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลฎีกานัดคู่ความไต่สวนวันที่ 13 มิถุนายนนี้
.
อังคณาระบุว่า ขณะที่ประชาชนยังคลุมเครือ ก็มีกระแสข่าวเรื่องดีลเข้ามามาก ทั้งเรื่องทักษิณและคดีฮั้ว สว. และมีการจับตาว่าทุกอย่างจะจบที่พรรคการเมืองใหญ่คุยกันได้หรือไม่ ส่วนกรณีที่นายทักษิณพักรักษาตัวที่ชั้น 14 เป็นระยะเวลานานนั้น มองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ โดยหยิบยกเหตุการณ์ที่ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ คนไข้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ ก็ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทัณฑสถาน แต่ทักษิณไม่ได้มาอยู่ในส่วนของโรงพยาบาลราชทัณฑ์เลย ทำให้ถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ดังนั้น ประชาชนจึงจับตาคำสั่งของศาลฎีกาวันที่ 13 มิถุนายนนี้ 
.
รัฐบุรุษที่สำคัญของโลกก็ยังติดคุกได้ แต่ทำไมคุณทักษิณไม่ติดเลยสักวันเดียว ทำให้ชาวบ้านมีความสงสัยอังคณากล่าว
.
อังคณาเชื่อว่าคำสั่งของศาลที่จะออกมาในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ไม่ว่าจะทางใดย่อมส่งผลกระทบต่อการเมืองแน่นอน เพราะมีรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เป็นลูกสาวของทักษิณ รวมถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีไปประชุมที่ประเทศมาเลเซีย แต่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวชื่นชมทักษิณ ถือเป็นการข้ามหัวนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ทำให้อาจถูกมองว่าทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ทำให้กรรมาธิการฯ เห็นว่า มีชนชั้นที่จะทำอะไรก็ได้ในการเลือกปฏิบัติ
.
เมื่อถามว่า วันที่ 13 มิถุนายนจะเห็นผลที่เป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองจะทำให้เห็นว่านายทักษิณเสียเปรียบหรือได้เปรียบอย่างไรนั้น อังคณากล่าวว่าต้องรู้ว่าศาลสั่งออกมาอย่างไร และทักษิณจะให้การประสานหรือไม่ หรือจะป่วยหนักในวันนั้นหรือไม่ ถ้าหากยังเชื่อว่าอำนาจอธิปไตยศาลจะตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารได้ ส่วนตัวหวังว่านายทักษิณจะไปศาล และชี้แจงเรื่องของการรักษาตัวชั้น 14 ซึ่งคนทั่วไปเชื่อว่าไม่ได้ป่วยจริง แม้นายกจะยืนยันว่าป่วยจริง ซึ่งผลจากคำสั่งศาลในวันนั้นอาจทำให้ได้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชั้น 14
.
ส่วนผลของวันที่ 13 มิถุนายน จะกลับเพิ่มไปถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่นั้น อังคณากล่าวว่า ต้องการที่จะรู้จุดมุ่งหมายของพรรคเพื่อไทยว่าต้องการแค่นำทักษิณกลับ และนำยิ่งลักษณ์กลับ โดยที่ไม่ต้องติดคุก และยิ่งลักษณ์ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นประชาชนไม่ได้ประโยชน์ แต่ไปรับปากเรื่องสวัสดิการให้กับประชาชน แต่สุดท้ายกลายเป็นว่ามีความต้องการแค่ให้คนในครอบครัวหรือไม่
.
สำหรับกรณีที่ทักษิณจะมีปาฐกถาพิเศษที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในวันนี้ อังคณากล่าวว่า รู้สึกงงมาก จากการให้สัมภาษณ์ของเลขาธิการ ป.ป.ส. โดยอ้างว่าทักษิณประสบความสำเร็จในการปราบปรามยาเสพติด 
.
อังคณาแนะนำให้ไปอ่านรายงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์การกำหนดนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้โทษและการนำนโยบายไปปฏิบัติจนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของประชาชน ที่มี คณิต ณ นคร เป็นประธาน ซึ่งมีรายงานการอุ้มหายเกี่ยวกับคดียาเสพติดกว่า 3,000 คน ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดได้รับโทษ จึงต้องข้อสังเกตว่าเหตุใดเลขา ป.ป.ส. ถึงมองว่าทักษิณประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ
.
ส่วนการเชิญทักษิณแบบนี้ถือเป็นการ ข้ามหัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ อังคณากล่าวว่า ทุกคนมองเช่นนั้น โดยเฉพาะที่ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้เชิญทักษิณมาร่วมงาน อาจจะเป็นการเปิดทางให้พูดชี้แจงเรียกร้องความเห็นใจ ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันขณะนี้มีมาก จนทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่านายกรัฐมนตรีจะรับมืออย่างไร 
.
อังคณากล่าวต่อไปว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหา สว. ปัญหาภายในของวุฒิสภา ที่ไม่กี่วันนี้จะต้องเลือกองค์กรอิสระ และเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ก็มีทูตสอบถามเรื่องฮั้ว สว. ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นตั้งแต่ทักษิณกลับมาไทย จะดีลหรือไม่ดีล เชื่อว่าทักษิณรู้อยู่แก่ใจ และปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ค่อนข้างน่ากังวล ขณะเดียวกัน ปัญหาที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีก็ตอบคำถามคล้ายไม่สนใจ เป็นการตอบโต้มากกว่าการชี้แจง และวันนี้ก็ยังไม่เห็นภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีอย่างที่ควรจะเป็น
.
อย่างวันนี้ที่คุณทักษิณออกมาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับนโยบาย หรือปัญหาส่วนตัว และที่สำคัญทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นคือนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลให้คำมั่นตามที่หาเสียงไว้ เช่น การแจกเงินดิจิทัล ไม่ได้ทำเลย เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่คืบหน้าอังคณาระบุ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่