จริงหรือหลอก? ผู้ชายดื่มน้ำเต้าหู้จะทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงสูงและก่อให้เกิดผลเสีย


หลายคนอาจเคยได้ยินถึงเรื่องน้ำเต้าหู้ว่า ทำให้เพิ่มระดับฮอร์โมนเพศหญิงสูง จนทำให้ผู้ชายหลาย ๆ คน เกิดความกังวลว่า ถ้าเราดื่มน้ำเต้าหู้ทุกวันแล้วนั้น ผู้ชายจะมีฮอร์โมนเพศหญิงสูงและอาจส่งผลที่ไม่ดีตามมา ประเด็นนี้จริงหรือหลอก วันนี้เรามาดูกันดีกว่า


จริงหรือหลอก?

“ไม่จริง” ถ้าตามในข่าวที่แชร์ บอกว่าผู้ชายดื่มน้ำเต้าหู้จะทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงสูงและก่อให้เกิดผลเสีย ก็เป็นข่าวที่ไม่จริง ไม่ได้ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงพุ่งสูงขึ้นตามข่าวแต่อย่างใด

แต่จากตามงานวิจัยการดื่มถั่วเหลืองในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อการผลิตน้ำอสุจิได้ เพราะในน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง มีสารซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่นั่นหมายความว่าจะต้อง ดื่มน้ำเต้าหู้ในปริมาณที่มาก ๆ ที่มากจนเกินไป (แบบที่คนไม่สามารถบริโภคได้เยอะขนาดนั้น)

เพราะฉะนั้นหากผู้ชายคนไหนชอบดื่มน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป น้ำเต้าหู้ไม่ได้ส่งผลเสียกับร่างกายหรือสุขภาพอย่างที่คิด ซึ่งปริมาณน้ำเต้าหู้ที่เหมาะสมต่อวัน ประมาณ 1-2 แก้วต่อวัน ถ้าจะให้ดีควรเป็นน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองที่ไม่ผสมครีมเทียม หวานน้อยหรือไม่หวานเลย

แต่ถึงยังไง ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง เราก็ไม่ควรดื่มน้ำเต้าหู้กันมากจนเกินไป หรือดื่มเพื่อหวังผลในการรักษา เพราะไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราทานหรือดื่มมาเกินไป ย่อมเป็นผลเสียต่อร่างกายและเราก็ไม่ควรตื่นตระหนกตกใจกับข่าวที่แชร์กันมากจนเกินไป เพราะว่า น้ำเต้าหู้ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียอย่างที่คิดตามข่าวที่ว่ากัน ข้อมูลจาก https://oryor.com/media/checkSureShare/media_specify/840 และ https://dis.fda.moph.go.th/detail-checkSureShare?id=840 


ข่าวลือต่าง ๆ ของน้ำเต้าหู้

น้ำเต้าหู้ยังมีข่าวลือต่าง ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นก่อให้เกิดโรคมะเร็ง หรือส่งผลเสียมากมายที่ร้ายแรง แต่จริง ๆ แล้วในน้ำเต้าหู้มีสารอาหารมากมายทั้งโปรตีน ไขมันดี และแคลเซียม

จริงอยู่ที่น้ำเต้าหู้มี ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) เป็นสารประกอบจากธรรมชาติที่มีสูตรโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งสารนี้มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกาย แต่มีความแรงที่อ่อนกว่า จึงไม่ทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงเหมือนฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเอง

หรือจากข่าวลือ ที่บอกว่าทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม ซึ่งก็ยังไม่มีวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหรือในผู้ป่วยโรค PCOS (ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ) ก็ควรปรึกษาคุณหมอหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนดื่ม เพื่อความสบายใจ หากคุณหมอแนะนำว่าไม่ควรดื่ม ก็ควรปฏิบัติตามที่คุณหมอระบุไว้

แต่อย่างไรก็ตามแนะนำให้ดื่มน้ำเต้าหูในปริมาณที่พอดี ไม่เติมครีมเทียมหรือเติมน้ำตาล และไม่ควรดื่มน้ำเต้าหู้ที่อยู่ก้นหม้อและผ่านการเคี่ยวมานาน เพราะธรรมชาติของน้ำมันถั่วเหลืองนั้นไม่สามารถทนความร้อนได้สูง หรือถ้าสาว ๆ คนไหนไม่สบายใจที่จะดื่มน้ำเต้าหู้หรือไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะหรือเปล่า ก็ควรปรึกษาคุณหมอนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก FB Diamond Pharmacy เพ็ชรรัตน์เภสัช

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่