.

แมวตัวเล็กที่สุดในโลก
เป็นแมวที่มีขนาดเท่าฝ่ามือ
เคยอาศัยอยู่ในจีนเมื่อ 300,000 ปีก่อน

นักวิทยาศาสตร์ระบุสายพันธุ์แมวขนาดเล็ก
ได้จากกระดูกขากรรไกรที่กลายเป็นฟอสซิล
น่าจะมีอายุย้อนกลับไปได้ถึง 300,000 ปีก่อน

นักวิจัยในประเทศจีนได้ค้นพบ
ซากแมวที่มีขนาดเล็กมาก
จนสามารถซุกตัวอยู่ในฝ่ามือได้
ฟอสซิลนี้ถูกค้นพบในถ้ำลึก
ที่มนุษย์ยุคแรกในอดีตอาศัยอยู่

แมวขนาดพกพาตัวนี้เป็นสายพันธุ์
Prionailurus kurten ที่เพิ่งค้นพบใหม่
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายไว้
ในผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร
Annales Zoologici Fennici
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2024
นักวิจัยเชื่อว่าสัตว์ที่สูญพันธุ์ไป
อาจมีอายุย้อนกลับไปได้ถึง 300,000 ปี
อาจเป็นแมวที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยพบมา
.
แมวสายพันธุ์ที่เพิ่งค้นพบนี้เป็นส่วนหนึ่ง
ของสกุล Prionailurus ซึ่งเป็นวงศ์แมวป่า
ที่ยังคงมีอยู่ในเอเชียใต้จนถึงทุกวันนี้
แม้ว่าแมวเสือดาวในปัจจุบันส่วนใหญ่
จะมีขนาดใกล้เคียงกับแมวบ้าน
ซึ่งมีความยาวเฉลี่ย 28 นิ้ว (70 ซม.)
และมีน้ำหนักอย่างน้อย 4.4 ปอนด์ (2 กก.)

แต่แมวสายพันธุ์ใหม่นี้มีขนาดเล็กกว่า
“ แมวตัวนี้ตัวเล็กกว่าแมวบ้านอย่างเห็นได้ชัด
มันเทียบได้กับแมวที่ตัวเล็กที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่
โดยมีน้ำหนักประมาณ 1 กก. [2.2 ปอนด์] ”
ผู้เขียนหลัก Qigao Jiangzuo
นักวิจัยจากสถาบันบรรพชีวินวิทยา
สัตว์มีกระดูกสันหลังและบรรพมานุษยวิทยา
สถาบันวิทยาศาสตร์จีน
กล่าวกับ Live Science
.
ปัจจุบัน สายพันธุ์แมวป่า
ที่ตัวเล็กที่สุด ที่ยังมีชีวิตอยู่
คือ แมวตีนดำ Felis nigripes
ซึ่งมีความยาว 13.7-20.4 นิ้ว (35-52 ซม.)
และ แมวลายจุดสนิม
Prionailurus rubiginosus
ซึ่งมีความยาว 13.7-18.9 นิ้ว (35-48 ซม.)
.
Qigao Jiangzuo ผู้วิจัยประเมินว่า
จากซากฟอสซิลของแมวตัวนี้
เป็น แมวสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบ
แต่ก็เป็นแมวที่สูญพันธุ์ไปแล้ว
มีขนาดใกล้เคียงกันหรืออาจจะเล็กกว่า
แมวสายพันธุ์ปัจจุบันทั้งสองสายพันธุ์
โดยประเมินว่ามีความยาวระหว่าง
13.7-19.7 นิ้ว (50 ซม.)


เบาะแสเกี่ยวกับชีวิต
และขนาดของแมวจิ๋วตัวนี้
มาจากชิ้นส่วนกระดูกขากรรไกรล่าง
ที่กลายเป็นฟอสซิลเพียงชิ้นเดียว มีฟัน 2 ซี่
ซึ่งค้นพบในแหล่งโบราณคดี
ที่อุดมสมบูรณ์มากในจีนตะวันออก
ที่เรียกว่า Hualongdong Cave
.



“ ในยุค Quaternary
[ยุคทางธรณีวิทยาที่กินเวลา
ตั้งแต่ 2.58 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน]
แมวเป็นสัตว์ที่พบได้ทั่วไป
แต่การพบแมวตัวเล็กเช่นนี้
ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ”
Qigao Jiangzu กล่าว

ซากดึกดำบรรพ์ของบรรพบุรุษ
ของแมวลายเสือดาวนั้นหายาก
เพราะสัตว์เหล่านี้มักอาศัยอยู่ใน
สภาพแวดล้อมป่าที่ไม่มีที่กำบัง
ซึ่งกระดูกจะเสื่อมสลายเร็วกว่า
ทำให้ฟอลซิลสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
มีเพียงไม่กี่ตัวที่รอดหลงเหลือมาได้

แต่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยของถ้ำ
กระดูกของสัตว์ที่เพิ่งค้นพบนี้
ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี
ทำให้ผู้วิจัยมีโอกาสพิเศษ
ในการตรวจสอบกระดูกเหล่านี้

นักวิจัยบอกกับหนังสือพิมพ์
South China Morning Post ว่า
แมวเสือดาวในยุคก่อนประวัติศาสตร์
อาจเดินเข้าไปในถ้ำเพื่อไล่ล่าหนู
ที่อาจกินเศษอาหารที่ตกค้างอยู่
ของมนุษย์ยุคแรกทิ้งไว้ในถ้ำ Hualongdong
.
มุมเอียงของฟันของแมวจิ๋ว
ยังเชื่อมโยงแมวเสือดาว
ในยุคก่อนประวัติศาสตร์
กับบรรพบุรุษร่วมกันของแมวบ้าน
และแมวพันธุ์ที่เรียกว่า แมว Pallas
Otocolobus manul

แม้ว่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า
แมวเสือดาวมีมรดกตกทอด
มาจากแมวสายพันธุ์อื่น ๆ
แต่การค้นพบในถ้ำ Hualongdong
ถือเป็นหลักฐานฟอสซิลชิ้นแรก
ที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงดังกล่าว
.
ตามผลการศึกษา พบว่า
Leopard cat family
เป็นสกุลแมวที่มีความหลากหลายมากที่สุด
ในป่าทางตอนใต้/ตะวันออกเฉียงใต้ของเอเชีย

โดยมี 5 สายพันธุ์ที่ยังมีชีวิตอยู่
กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค
ตัวอย่างฟอลซิลจากถ้ำนี้
ช่วยเพิ่มรายละเอียดที่มีค่า
ให้กับประวัติศาสตร์ของแมวตระกูลนี้

สกุล Leopard Cat family
มักจะหมายถึงสกุล Prionailurus นั้น
มี 5 ชนิดหลัก ๆ ที่ได้รับการยอมรับ คือ

1. แมวดาวแผ่นดินใหญ่
(Mainland Leopard Cat)
- Prionailurus bengalensis
.
.

2. แมวดาวซุนดา
(Sunda Leopard Cat)
- Prionailurus javanensis
.
.

3. เสือปลา
(Fishing Cat)
- Prionailurus viverrinus
.
.

4. แมวป่าหัวแบน
(Flat-headed Cat)
- Prionailurus planiceps
.
.

5. แมวจุดสีสนิม
(Rusty-spotted Cat)
- Prionailurus rubiginosus
.
.

บางแหล่งข้อมูลอาจรวม
แมวพัลลัส (Pallas's Cat หรือ Manul)
- Otocolobus manul
เข้ามาใน Leopard Cat lineage ด้วย
แต่แมวพัลลัสจัดอยู่ในสกุล Otocolobus
ซึ่งแยกต่างหากจากสกุล Prionailurus
.


" นี่เป็นครั้งแรกที่สายพันธุ์ใหม่นี้
เผยให้เห็นความหลากหลาย
ของสายพันธุ์ในอดีตของแมวสกุลนี้

สิ่งนี้ทำให้ผู้วิจัยมีข้อมูลใหม่
เพื่อใช้ในการศึกษา
ต้นกำเนิดของแมวทั้งหมด

เราวางแผนที่จะสำรวจฟอสซิลแมว
อย่างเป็นระบบในประเทศจีนและทั่วโลก
ซึ่งในอดีตยังไม่เคยศึกษาเรื่องนี้มาก่อน

เราหวังว่าจะสามารถติดตาม
ต้นกำเนิดและความหลากหลาย
ในอดีตของตระกูลแมวได้ ”
Qigao Jiangzu กล่าวสรุป
.

เรียบเรียง/ที่มา


Livescience
.