สวัสดีครับ ผมจะมาเล่าประสบการณ์ตอนที่ยังเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ในวันนั้นผมไปสอบที่คณะช่วงบ่าย พอสอบเสร็จผมก็ออกมาเติมน้ำที่โรงอาหาร แต่อยู่ดีๆก็มีคนแปลกหน้าคนหนึ่ง มาถามผมว่า “พี่ขอเวลาคุยกับน้องสักครู่ได้ไหมครับ” ผมก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไรก็เลยคุยไป สิ่งที่เขาถามผมคือ น้องคิดว่าทำไมคนส่วนน้อยถึงประสบความสำเร็จ ผมก็ตอบๆไป พอถามไปสักพักนึง เขาก็เริ่มชวนว่า เดี๋ยววัน... พี่จะมีกิจกรรม workshop… แล้วก็ขอชื่อ คณะ ชั้นปี ไลน์ และเบอร์โทร จากนั้นก็แยกย้ายกัน พอมาถึงวันที่ทำกิจกรรม เขาก็พูดเรื่องแนวคิดของคนส่วนน้อย โดยเนื้อหาของเขาคือ พยายามที่จะโน้มน้าวว่า นาย A(นามสมมติ) เคยทำโปรเจคกับคนนึง แต่พอ พ่อของนาย A รู้เข้าก็เลยบอกให้นาย A เลิกซะ ผลคือ นาย A สูญเสียรายได้ที่ควรจะได้จากการทำโปรเจค และพยายามจะโน้มน้าวไม่ให้สนใจเสียงวิจารณ์รอบตัว จากนั้นกิจกรรมนี้ก็จบลง แต่พี่คนที่ชวนก็โทรมาถาม ว่ากิจกรรมนี้เป็นยังไง(ประมาณว่าต้องการ feedback) แล้วก็มาชวนผม ทำงานโปรเจคหนึ่งของเขา พอผมถามว่าทำอะไร เขาก็บอกว่าเป็นงานธุรกิจส่วนตัวของเขาเอง ผมเลยถามต่อไปอีกว่าแล้วงานที่จะให้ทำเกี่ยวกับอะไร เขาก็ตอบว่าเกี่ยวกับการบริหารจัดการคนและการตลาด แล้วเขาก็นัดคุยกับผมต่อในวันอื่น แต่ด้วยความดีใจและรู้สึกว่า “นี้เรากำลังจะได้งานแล้วหรอ” เลยทำให้เราไปเล่าให้พ่อฟังว่า ได้เข้าร่วมกิจกรรม workshop… พ่อผมเลยบอกให้รีบบล็อกไลน์ และเบอร์โทรของพี่คนนั้นทันที เพราะ สิ่งที่น่าสงสัยคือ เป็น workshop ในนามของมหาลัย/องค์กรไหน พี่เขาก็ไม่บอก ตอนคุยกันหลัง workshop ก็ไม่พูดให้ชัดเจนว่าทำงานอะไรกันแน่(พยายามบ่ายเบี่ยง) และพ่อถามผมต่อว่า ได้เคยให้เขาดูบัตรประชาชนไหม ผมบอกว่าไม่เคย พ่อบอกเราว่าคนที่อยู่ดีๆก็เข้ามาหาแบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่อาจจะเป็นมิจฉาชีพหรือหลอกให้ไปทำงานที่ทำแล้วไม่คุ้ม
ผมจึงอยากที่จะเอาเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์เตือนน้องๆที่กำลังจะเข้ามหาลัย รวมถึงน้องๆที่กำลังเรียนอยู่ว่า ถ้าเจอคนที่พยายามชวนคุยเรื่องพวกนี้ให้ปฏิเสธและออกห่างในทันที
ถ้ามีคนแปลกหน้าเข้ามาชวนคุย พวกเรื่อง แนวคิด ความฝัน ต่างๆ แล้วชวนเข้า workshop ให้ปฏิเสธและออกห่างทันที
ในวันนั้นผมไปสอบที่คณะช่วงบ่าย พอสอบเสร็จผมก็ออกมาเติมน้ำที่โรงอาหาร แต่อยู่ดีๆก็มีคนแปลกหน้าคนหนึ่ง มาถามผมว่า “พี่ขอเวลาคุยกับน้องสักครู่ได้ไหมครับ” ผมก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไรก็เลยคุยไป สิ่งที่เขาถามผมคือ น้องคิดว่าทำไมคนส่วนน้อยถึงประสบความสำเร็จ ผมก็ตอบๆไป พอถามไปสักพักนึง เขาก็เริ่มชวนว่า เดี๋ยววัน... พี่จะมีกิจกรรม workshop… แล้วก็ขอชื่อ คณะ ชั้นปี ไลน์ และเบอร์โทร จากนั้นก็แยกย้ายกัน พอมาถึงวันที่ทำกิจกรรม เขาก็พูดเรื่องแนวคิดของคนส่วนน้อย โดยเนื้อหาของเขาคือ พยายามที่จะโน้มน้าวว่า นาย A(นามสมมติ) เคยทำโปรเจคกับคนนึง แต่พอ พ่อของนาย A รู้เข้าก็เลยบอกให้นาย A เลิกซะ ผลคือ นาย A สูญเสียรายได้ที่ควรจะได้จากการทำโปรเจค และพยายามจะโน้มน้าวไม่ให้สนใจเสียงวิจารณ์รอบตัว จากนั้นกิจกรรมนี้ก็จบลง แต่พี่คนที่ชวนก็โทรมาถาม ว่ากิจกรรมนี้เป็นยังไง(ประมาณว่าต้องการ feedback) แล้วก็มาชวนผม ทำงานโปรเจคหนึ่งของเขา พอผมถามว่าทำอะไร เขาก็บอกว่าเป็นงานธุรกิจส่วนตัวของเขาเอง ผมเลยถามต่อไปอีกว่าแล้วงานที่จะให้ทำเกี่ยวกับอะไร เขาก็ตอบว่าเกี่ยวกับการบริหารจัดการคนและการตลาด แล้วเขาก็นัดคุยกับผมต่อในวันอื่น แต่ด้วยความดีใจและรู้สึกว่า “นี้เรากำลังจะได้งานแล้วหรอ” เลยทำให้เราไปเล่าให้พ่อฟังว่า ได้เข้าร่วมกิจกรรม workshop… พ่อผมเลยบอกให้รีบบล็อกไลน์ และเบอร์โทรของพี่คนนั้นทันที เพราะ สิ่งที่น่าสงสัยคือ เป็น workshop ในนามของมหาลัย/องค์กรไหน พี่เขาก็ไม่บอก ตอนคุยกันหลัง workshop ก็ไม่พูดให้ชัดเจนว่าทำงานอะไรกันแน่(พยายามบ่ายเบี่ยง) และพ่อถามผมต่อว่า ได้เคยให้เขาดูบัตรประชาชนไหม ผมบอกว่าไม่เคย พ่อบอกเราว่าคนที่อยู่ดีๆก็เข้ามาหาแบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่อาจจะเป็นมิจฉาชีพหรือหลอกให้ไปทำงานที่ทำแล้วไม่คุ้ม
ผมจึงอยากที่จะเอาเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์เตือนน้องๆที่กำลังจะเข้ามหาลัย รวมถึงน้องๆที่กำลังเรียนอยู่ว่า ถ้าเจอคนที่พยายามชวนคุยเรื่องพวกนี้ให้ปฏิเสธและออกห่างในทันที