[CR] มีซักหมื่นแปดมั้ย ผมจะพาไปสุสานจิ๋นซี

ทริปลุยเดี่ยว เที่ยวซีอาน

วันศุกร์ที่ 16 - วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2568

ผมออกเดินทางตั้งแต่วันศุกร์เวลาเกือบๆตี 3 จากสนามบินสุวรรณภูมิ และไปถึงสนามบินซีอานราว 8 โมงเช้า ครั้งนี้บินกับ Spring Airlines ที่นั่งกว้าง แต่ปรับเอนไม่ได้​


ราวๆชั่วโมงนึงก่อนถึงสนามบินซีอาน ท้องฟ้าเริ่มสว่าง พอจะมองเห็นเมืองข้างล่างได้บ้าง


ก่​อนจะบินมาซีอาน จะมีให้แสกน QR Code เพื่อเข้าไปกรอกข้อมูลการเข้าเมือง และเมื่อมาถึงแล้ว จะเจอเครื่องออกใบตม. เราก็เอาพาสปอร์ตสแกนที่เครื่อง ตอบคำถามและใส่ข้อมูลเพิ่มนิดหน่อย เครื่องก็จะพิมพ์ใบตม.ออกมาให้เรา แล้วก็เอาไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตม.อีกที


มาคราวนี้ผมใช้วิธีการเข้าเมืองโดยรถไฟ Metro

หลังจากผ่าน Custom ออกมาด้านนอกแล้วก็เลี้ยวซ้ายและเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ จากนั้น ป้าย​​จะบอกให้เลี้ยวไปทางขวาและเดินลงไป 1 ชั้น ก็จะเห็นป้ายทางไปขึ้น Metro อันนี้

นั่งรถไฟ Metro เข้าเมือง จะเสียค่าโดยสาร 8 หยวน แต่ถ้าจะเอาสะดวก ก็จ่าย 25 หยวนเพื่อไปขึ้นเป็นรถบัสเข้าเมืองได้​


โรงแรมที่พักสำหรับทริปนี้ จะอยู่ใกล้ๆกับสถานีหอระฆัง (Zhonglou Station) สาย 2 สีแดง ชื่อโรงแรม Ibis Hotel (Xi'an Bell Tower Metro Station)


ภายในห้องพักกกว้างขวางดี เสียแต่ว่าไม่มีตู้เย็น




ใกล้ๆโรงแรมระหว่างทางไปขึ้นรถไฟ มีร้านขายขนมไซส์ยักษ์ด้วย



วันนี้ค่อนข้างโชคดี มาถึงโรงแรมประมาณ 10 กะว่าจะฝากกระเป๋าไว้ แต่​​ทางโรงแรมให้เช็คอินได้เลย ก็เลยได้เข้าไปอาบน้ำให้สดชื่นซะหน่อย จากนั้นก็เริ่มเที่ยวเลย โดยวันแรกไปเที่ยวที่ถ้ำผาหลงเหมิน ซึ่งอยู่ในเมืองลั่วหยาง จากซีอาน เดินทางโดยการนั่งรถไฟความเร็วสูงไป ใช้เวลา 1.30 ชม.

โรงแรมจะอยู่ใกล้กับ Metro สาย 2 สีแดง สถานี Zhonglou ซึ่งจะเป็นสายที่เราใช้เป็นเส้นหลักในการเที่ยวครั้งนี้

จากสถานี Zhonglou นั่งรถไฟไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงซึ่งก็คือสถานี Xi'anbei และจากสถานีนี้ เราก็นั่งรถไฟความเร็วสูงไปสถานี Luoyang Longman

มื้อแรกของวัน กินที่ร้านซึ่งอยู่ในสถานีรถไฟ Xi'anbei


ได้เกี๊ยวน้ำมา 1 ชามกับโรวเจียโม่วอีก 1 ชิ้น

เกี๊ยวน้ำรสชาติใช้ได้ แป้งนุ่ม ไส้ดี ซุปไม่เค็มมาก ซดได้คล่องคอ ส่วนโรวเจียโม่ว แป้งพัฟมากรอบและหอมเนย ไส้เป็นหมูพะโล้ รสชาติเค็มนิดๆเข้ากันได้ดีกับตัวแป้งพัฟ


ด้านหน้าทางเข้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูง

​มาถึงแล้ว ก็จัดการซื้อตั๋วก่อนเลย ซื้อโดยตรงกับการรถไฟของจีนโดยผ่านแอป Railway12306

หลังจากจัดการจ่ายเงินค่าตั๋วเรียบร้อย ก็แทบจะไม่ต้องรอเลย เราสามารถเอาพาสปอร์ตยื่นให้เจ้าหน้าที่และผ่านเข้าไปด้านในได้ทันที


ภายในสถานีรถไฟความเร็วสูง Xi'anbei ค่อนข้างใหญ่มาก
มีประตูให้ยืนรอน่าจะเกิน 40 ประตู


เข้ามาถึงแล้วก็มาดูที่บอร์ดก่อนว่าเราจะต้องไปรอเพื่อขึ้นรถไฟที่ประตูไหน


แถวที่เราจะต่อได้ก็จะเป็นแถวไม่ซ้าย ก็ขวาสุด ที่มีเจ้าหน้าที่ยืนรออยู่ เพราะว่าเราจะต้องเอาพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่สแกนเพื่อเข้าไป

จะแตกต่างจากประชาชนจีนที่สามารถเอาบัตรประจำตัวประชาชนแตะสแกนเข้าไปได้เลย


ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็จะมาถึงสถานี Luoyang Longman ใช้วิธีเรียกรถ DiDi จะสะดวกกว่าเพราะค่ารถจะอยู่ราว 10-15 หยวนเท่านั้น

การเรียกรถ ให้ขึ้นไปชั้น 2 และเดินออกไปด้านนอก จากนั้นก็กดเรียกจากแอป Alipay หรือ DiDi รอไม่นานรถก็จะมารับ

ถ้าเราเดินออกมาจากสถานี Luoyang Longman ด้านนอกจะมีคนมาคอยดักให้เราขึ้นรถไปกับเค้า โดยจะบอกราคามาคนละ 50 หยวน และต่อรองได้ต่ำสุดแค่ 30 หยวน

นั่งรถมาไม่นานก็จะถึงด้านหน้าของถ้ำผาหลงเหมิน จัดการซื้อตั๋วและเข้าไปด้านใน ทุกขั้นตอนต้องใช้พาสปอร์ต ฉะนั้น ต้องเอาพาสปอร์ตติดตัวไว้ตลอดเวลา


แผ่นนี้น่าจะเป็นประวัติของถ้ำผาหลงเหมิน
(ผมยังไม่มีเวลาแปลและนั่งอ่าน)


จากประตูทางเข้าด้านนอก สามารถเข้ามาด้านในได้ 2 วิธีคือ จ่ายเงินนั่งรถกอล์ฟ หรือ ​เดินเข้ามาเอง

ผมแนะนำว่า ยอมเสียเงินค่ารถกอล์ฟเถอะ เพราะขนาดรถเข้ามาส่งถึงด้านในแล้ว ก็ยังต้องเดินอีกเกือบ1 ​กิโลเมตร และระหว่างเดินชมสถานที่ ก็ยังต้องเดินขึ้นบันไดอีกหลายจุด เก็บแรงไว้เดินข้างในจะดีกว่า​

บริเวณถ้ำผาหลงเหมิน จะมีโพรงถ้ำใหญ่ๆอยู่ไม่เยอะเท่าไหร่ และในโพรงถ้ำใหญ่ๆ พระพุทธรูปแกะสลักภายในนั้นหลายโพรงถ้ำจะค่อนข้างสมบูรณ์

ส่วนโพรงถ้ำเล็กๆที่มีเป็นพันๆโพรง ส่วนใหญ่จะเห็นว่าโดนทำลายใบหน้าและแขนที่ยื่นออกมา





จุดสุดท้ายที่ปีนบันไดขึ้นมาค่อนข้างเหนื่อยกว่าจะขึ้นมาถึง (เพราะอากาศร้อน) แนะนำว่าให้ขึ้นมา ​เพราะว่าบนนี้อลังการมาก



หลังจากเดินจนสุดแนวผาที่มีโพรงถ้ำแล้ว เราจะต้องไปข้ามสะพานที่เห็นอยู่ลิบๆตรงนั้น


พอข้ามมาแล้ว มองย้อนกลับไปฝั่งตรงกันข้ามก็จะเป็นแนวผาที่มีโพรงถ้ำต่างๆที่เีาเดินดูก่อนหน้านี้


ขากลับเราก็กลับทางเดิมกลับที่มาเมื่อตอนเช้า กลับมาถึงแถวหอระฆัง ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว จะเห็นว่าบริเวณหอระฆังคลาคร่ำไปด้วยผู้คน มีทั้งคนที่แต่งชุดเป็นองค์หญิงจีนมาถ่ายรูป มีทั้งช่างภาพที่มาคอยดักหาลูกค้า และมีนักไลฟ์มาปักหลักไลฟ์สด


ใต้หอระฆัง ​จะเป็นทางเดินเป็นวงกลม ซึ่งจะมีทางออกทั้งหมด 9 ทาง หากลงจากรถไฟ Metro แล้ว ให้เดินออกทางออก C

ทางออกหลักๆที่ใช้ในทริปนี้ก็มี C1, C3, C4 และ ​C9

วันนี้ออกมาทางออก C4 ออกมาแล้วจะเจอห้าง Kaiyuan ขึ้นไปชั้นบนสุด จะมีร้านอาหารอยู่ 10 กว่าร้าน

มื้อเย็นวันนี้กินเป็นบุฟเฟ่ต์พิซซ่า

​หลังจากอิ่มแล้วก็เดินเล่นและช็อปอีกนิดหน่อยก่อนจะกลับที่พัก





เช้าวันเสาร์ที่ 17 มื้อเช้าเราฝากท้องไว้กับอาหารของโรงแรม ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นแป้ง มีโปรตีนอยู่แค่อย่างเดียวคือ ​ไก่ทอด


วันนี้จะไปขึ้นเขาหัวซาน ก็เช่นเคย นั่งรถไฟไปสถานี Xi'anbei เพื่อไปต่อรถไฟความเร็วสูงไป ​Huashanbei โดยใช้เวลานั่งแค่ 30 นาที

บนรถไฟความเร็วสูง ชั้น 2 ที่นั่งก็จะเป็นแบบ 3-2
สภาพภายในรถไฟความเร็วสูง เหมือนกับรถไฟชินคันเซนของญี่ปุ่นเลย


ถึงสถานีรถไฟความเร็วสูง Huashanbei แล้ว พอเดินออกมาข้างหน้า ถ้าจะขึ้นรถเมล์ ให้ไปทางซ้าย จะเจออู่รถเมล์สาย 2

แต่เนื่องจากรถเมล์ออกเป็นรอบ เราไม่อยากเสียเวลารอ ก็เลยเรียกแท็กซี่ไป

แท็กซี่มาส่งด้านหน้าทางเข้า ​ซึ่งยังต้องเดินเข้าไปอีกระยะนึงกว่าจะถึงทางเข้าหลักและห้องขายตั๋ว


วันนี้โชคดีเจอเด็กหนุ่มชาวฝรั่งเศส 2 คนตรงสถานีรถไฟความเร็วสูง Huashanbei ก็เลยแชร์รถแท็กซี่มาด้วยกัน

ค่ารถ 12.12 หยวน เราควักแบงค์ 5 หยวนให้ไปแต่เด็กหนุ่มทั้ง 2 ​คนไม่รับเพราะบอกว่าฝั่งเค้ามากันเยอะกว่า

หลังจากซื้อตั๋วเสร็จแล้ว ​ก็ร่ำลากับทั้ง 2 ​คน เพราะเราจะนั่งกระเช้าขึ้นไปแต่ พวกเค้​​าจะเดินขึ้นและไปค้างนอนข้างบน 1 คืน


ทางขึ้นกระเช้ามี 2 ฝั่ง ​คือฝั่ง North Peak กับฝั่ง ​West Peak วันนี้เราขึ้นฝั่ง West ทางไปก็จะอยู่ด้านหน้าของห้องขายตั๋วเลย

จากจุดนี้ นั่งรถเข้าไป 45 นาทีกว่าจะถึงจุดที่จะไปขึ้นกระเช้า


ขึ้นมานั่งบนรถแล้ว คนขับจะเดินตรวจให้ทุกคนรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย แม้กระทั่งกระเป๋าเป้ยังโดนรัดเข็มขัดเลย


ลงจากรถบัสแล้ว ก็เดินเข้าอาคารมา ภายในอาคารนี้จะมีร้านขายอาหารและร้านขายของฝากอยู่หลายร้าน


เดินทะลุอาคารมาก็จะมาเจอซุ้มประตูทางขึ้น


ผ่านซุ้มประตูมาแล้ว จะเห็นบันไดทอดยาวขึ้นไปอีก 5 ช่วง และหลังจากขึ้นไปจนถึงด้านบน ก็จะมีบันไดช่วงสั้นๆอีก 5 ช่วง ก่อนจะถึงทางเข้าไปขึ้นกระเช้า


แผนที่ด้านบนของเขาหัวซาน จะเป็นทางเดินวนมาบรรจบกันได้ แต่ถ้าจะเดินให้ครบ น่าจะต้องมาตั้งแต่เช้ามาก


จ่ายค่ากระเช้าแล้วก็ไปขึ้นกระเช้า ซึ่งกระเช้าที่นี่ข้ามเขาสูง 3 ลูก




ขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว ถ้ามองไปตรงๆหน้า ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องขายตั๋วกระเช้าขาลง และฝั่งขวาจะเป็นร้านขายไก่ทอด Dicos (ภาพนี้ถ่ายจากจุดที่กำลังจะเดินขึ้นไปฝั่ง West Peak)


เดินขึ้นมาหน่อยนึง ​จะมีป้ายบอกทาง ซึ่งป้ายบอกทางก็จะมีเป็นระยะๆ เราจะได้รู้ว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนของภูเขาแล้ว


วิวบางส่วนที่ถ่ายมาจากจุดชมวิวและจุดแวะพักจุดแรก




#DontfollowMeImLost
ชื่อสินค้า:   ซีอาน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่