By Pholpat Salayakanond

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ ในประเทศไทยเดือนเมษายน 2568 มียอดขายรวมอยู่ที่ 47,193 คัน เพิ่มขึ้น 0.97% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 15.42% จากเดือนมีนาคม 2568 จากการขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่ กลุ่มรถกระบะและรถพีพีวีในเดือนเมษายนยอดขายยังคงลดลงจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะด้วยหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอเพราะดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงลดลง 3.83% รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนไตรมาสหนึ่งปีนี้ลดลง และจากค่าครองชีพที่ยังสูง ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง

สำหรับ ยอดขายรถยนต์ เดือนเมษายน มีรายละเอียดดังนี้

รถยนต์นั่ง 31,115 คัน หรือคิดเป็น 65.93% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้น 14.91% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า

รถกระบะ 10,937 คัน  หรือคิดเป็น 23.18% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งลดลง 22.25% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า

รถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) หรือคิดเป็น 6.10% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งลดลง 20.51% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า

ขณะที่ เมื่อแบ่งเป็นตามประเภทพลังงาน มีรายละเอียดดังนี้

รถยนต์นั่งและรถยนต์อเนกประสงค์ เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) มียอดขายรวมอยู่ที่ 11,227 คัน หรือคิดเป็น 23.79% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งลดลง 11.99% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า

รถยนต์นั่งและรถยนต์อเนกประสงค์ พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) มียอดขายรวมอยู่ที่ 10,901 คัน หรือคิดเป็น 23.10% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้น 179.51% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า

รถยนต์นั่งและรถยนต์อเนกประสงค์ พลังงานปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มียอดขายรวมอยู่ที่ 1,083 คัน หรือคิดเป็น 2.29% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้น 720.45% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า

รถยนต์นั่งและรถยนต์อเนกประสงค์ พลังงานไฮบริด (HEV) มียอดขายรวมอยู่ที่ 7,904 คัน หรือคิดเป็น 16.75% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งลดลง 23.18% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า

นอกจากนั้น ในเดือน เมษายน 2568 มียอดขาย รถกระบะไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า 100% จำนวน 80 คัน หรือคิดเป็น 0.17% ของยอดขายทั้งหมด

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ยอดขายสะสมในประเทศไทย 4 เดือน (มกราคม–เมษายน) ของปี 2568 มียอดขายรวมสะสมอยู่ที่ 200,386 คัน ลดลง 4.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ หากประเมินจากยอดขายสะสม 4 เดือน ยังมองว่ายอดขายของภาพรวมตลาดในประเทศไทยปี 2568 มีโอกาสที่จะแตะระดับ 600,000 คันได้ เนื่องจากมีรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกเข้ามาช่วยสร้างยอดขายให้เกิดขึ้นในตลาด ซึ่งจะต้องจับตาในอีก 1-2 เดือน หลังจากนี้ว่าโครงการส่งเสริมของรัฐบาลอย่าง “กระบะพี่มีคลังค้ำ” จะส่งผลดีต่อตลาดหรือไม่อย่างไร โดยจะส่งผลต่อตัวเลขยอดขายของตลาดและยอดการผลิตรถยนต์

อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2568 มีแนวโน้มกำลังซื้อที่ทรงตัวเช่นเดียวกับ เดือนเมษายน หรืออาจจะลดลงเล็กน้อยจากปัจจัยการ เปิดภาคเรียน (เปิดเทอม) ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังการใช้จ่าย รวมถึงประเด็นสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้อาจเกิดฝนตกและน้ำท่วม ซึ่งแม้ว่าจะมีปัจจัยที่มีรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ที่ประเด็นความกังวลในการใช้งานที่จะสามารถลุยน้ำท่วมได้หรือไม่ยังเป็นประเด็นที่ผู้บริโภคกังวล

https://autolifethailand.tv/sales-report-april-2025/?fbclid=IwY2xjawKcCRdleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFMSXBzbUJjWlhoVnNreDZoAR5BDt78wpY9VGRxY8mMT18xKR7rK_wC_K7s6ny5AQ1lsPjuvF8YVyfnRVOCYQ_aem_Tn-FB9zUQ2HI9Y0xX2VDqw