เราคือใคร เรามาจากไหน และอยู่ที่ไหนในเอกภพ?

นับตั้งแต่ที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ถือกำเนิดขึ้น และวิวัฒนาการไปเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา มนุษย์ต่างก็สงสัยและตั้งคำถามเกี่ยวกับการมีอยู่ของสรรพสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำ ต้นไม้ ดวงดาว หรือแม้กระทั่ง ‘มนุษย์’ เรามาจากที่ไหนกันแน่ อะไรคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง…
เริ่มค้นหาคำตอบไปพร้อมกับ The Space Times ในบทความนี้

[img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/tf4/1/16/2728.png[/img] จุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 13,800 ล้านปี สรรพสิ่งในเอกภพถูกดึงดูดเข้าด้วยกันภายใต้แรงโน้มถ่วงมหาศาล มวลสารปริมาณมากอัดแน่นเข้าด้วยกัน ทำให้บริเวณนั้นมีความหนาแน่นสูง และมีขนาดที่เล็กมากจนแทบเข้าสู่อนันต์ เรียกจุดนั้นว่า ‘จุดซิงกูลาริตี’ (Singularity Point) จึงทำให้เกิดการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่เรียกว่า ‘บิ๊กแบง’ (Bigbang) และนั่นคือจุดเริ่มต้นของสรรพสิ่งต่าง ๆ ดวงดาว เวลา และสสารมืด
สสารมืด คือ สสารที่ไม่ดูดกลืน สะท้อน หรือปลดปล่อยพลังงานในรูปของแสงออกมาจากตัวสสารเลย ทำให้ยากที่จะตรวจพบ แต่มีอยู่จริง ซึ่งเอกภพของเราประกอบไปด้วยสสารมืดประมาณ 27% โดยผลของแรงดึงดูดทำให้สสารมืดในยุคแรกเริ่มของเอกภพรวมตัวกัน เกิดเป็นกระจุกกาแล็กซี ซึ่งภายในเต็มไปด้วยกลุ่มแก๊สที่มีอุณหภูมิสูงปริมาณมาก จนทำให้อะตอมและไอออนอยู่ในสถานะพลาสมา
ท่ามกลางกระจุกกาแล็กซีมากมายในเอกภพ หนึ่งในนั้นคือ กระจุกกาแล็กซีเวอร์โก (Virgo Supercluster) ซึ่งเป็นกระจุกกาแล็กซีขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลุ่มกาแล็กซีย่อย ๆ อีกมากมายกว่า 100 กระจุก หนึ่งในนั้นคือ กระจุกกาแล็กซีเวอร์โก ‘Virgo Cluster’
กระจุกกาแล็กซีเวอร์โก ประกอบด้วยกาแล็กซีมากกว่า 50 กาแล็กซี โดยบางกาแล็กซีก็ประกอบไปด้วยกาแล็กซีแคระ (Dwarf Galaxy) หรือกาแล็กซีที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่บางกาแล็กซีกลับมีขนาดใหญ่ โดยกาแล็กซีที่ใหญ่ที่สุดในกระจุกดาวนี้ คือ ‘กาแล็กซีแอนโดรเมดา’ (Andromeda) และกาแล็กซีที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับถัดมานั่นก็คือ ‘กาแล็กซีทางช้างเผือก’ (Milky Way Galaxy) ซึ่งก่อกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 13,500 ล้านปีก่อน

[img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/tbe/1/16/1f30c.png[/img] ‘กาแล็กซีทางช้างเผือก’ บ้านของพวกเรา
กาแล็กซีทางช้างเผือก เป็นกาแล็กซีที่มีรูปร่างการจัดเรียงตัวของวัตถุในกาแล็กซีคล้ายเกลียวก้นหอย ซึ่งมีคานอยู่บริเวณตรงกลาง โดยบริเวณคานนี้ประกอบไปด้วยดวงดาวประมาณ 2-4 แสนล้านดวง กาแล็กซีทางช้างเผือกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100,000 ปีแสง หรืออธิบายได้ว่า ‘แสงต้องใช้เวลาประมาณ 100,000 ปีเพื่อเดินทางจากฟากหนึ่งไปยังอีกฟากหนึ่งของกาแล็กซี’ และมีความหนาประมาณ 1,000 ปีแสง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้ต่างเป็นค่าโดยประมาณทั้งสิ้น ไม่ได้มีค่าคงที่ที่ชัดเจนแน่นอน
มวลของกาแล็กซีประมาณ 15% อยู่ในรูปของฝุ่นและแก๊ส ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วทั้งกาแล็กซี บ้างก็รวมตัวกันเรียกว่า ‘กระจุกดาวเปิด’ ซึ่งเป็นกลุ่มของดวงดาวบริเวณใกล้เคียงกัน อันเป็นผลมาจากแรงโน้มถ่วงและแรงดึงดูดอย่างหลวม ๆ ระหว่างฝุ่นและแก๊ส บ้างก็เรียกว่า ‘กระจุกดาวทรงกลม’ (Globular Cluster) ซึ่งภายในเต็มไปด้วยดวงดาวกว่า 100,000 - 1,000,000 ดวง มากไปกว่านั้น กาแล็กซีทางช้างเผือกของเรายังมีกลุ่มเมฆโคจรอยู่โดยรอบ เรียกกลุ่มเมฆนี้ว่า ‘กลุ่มเมฆแม็กแจนแลน’ (Magellanic Cloud) ซึ่งผู้สังเกตบริเวณซีกฟ้าใต้สามารถสังเกตเห็นได้เป็นริ้วสีขาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน

[img]https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/t41/1/16/1f30f.png[/img] ระบบสุริยะของเรา
ในกาแล็กซีที่เต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย หนึ่งในนั้นคือ ‘ดวงอาทิตย์’ หากย้อนกลับไปประมาณ 4,600 ล้านปีก่อน กลุ่มของฝุ่น แก๊ส และธาตุต่าง ๆ ในเอกภพ รวมตัวกันภายใต้แรงโน้มถ่วงมหาศาล เกิดการเรียงตัวของสสารต่าง ๆ เป็นลักษณะคล้าย ๆ จานรอบดวงอาทิตย์ เรียกว่า ‘จานดาวเคราะห์ก่อนเกิด’ (Protoplanetary Disk)
สสารเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น แก๊ส หิน น้ำแข็ง ธาตุพื้นฐานต่าง ๆ อย่างไฮโดรเจน หรือฮีเลียม ต่างก็เคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ และมีการชนกันเกิดขึ้นในระหว่างการหมุน ทำให้วัตถุเล็ก ๆ เหล่านั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นผลให้แรงดึงดูดมีค่ามากขึ้นไปด้วย ทำให้มีการดึงดูดวัตถุโดยรอบเข้ามาและเกิดการชนกันไปเรื่อย ๆ จนมีขนาดใหญ่ขึ้น จนในท้ายที่สุดก็เกิดเป็น ‘ดาวเคราะห์’ ซึ่งองค์ประกอบของดาวเคราะห์แต่ละดวงจะขึ้นอยู่กับสสารที่มารวมตัวกันในขั้นตอนของการเกิดดาวนั้น ๆ โดยในกระบวนการนี้ เกิดดาวเคราะห์หลัก ๆ ขึ้น 8 ดวงในระบบสุริยะ ได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน และ ‘ดาวโลก’ ดาวเคราะห์สีน้ำเงินลำดับที่ 3 จากดวงอาทิตย์
เนื่องจากระยะห่างจากดวงอาทิตย์และองค์ประกอบในชั้นบรรยากาศที่เหมาะสม ทำให้สภาพแวดล้อมบนโลกเอื้อต่อการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิต แม้ว่าในระยะแรกจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เนื่องจากสภาพอันสุดขั้วของโลกในขณะนั้นก็ตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป โลกได้มีการปรับตัวและวิวัฒนาการจนไฮโดรเจนและออกซิเจนสามารถรวมตัวกันกลายเป็น ‘น้ำ’ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของการกำเนิดชีวิตบนโลกได้สำเร็จ
และนี่คือ... ต้นกำเนิดของพวกเราทุกคน



ตำแหน่งของระบบสุริยะในกาแล็กซีทางช้างเผือก อ้างอิงจากแผนที่ข้อมูลล่าสุดของยานอวกาศ Gaia โดยองค์การอวกาศยุโรป หรือ ESA


Original by Nattakit Namchoo, The Space Times
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่